กล้องฟิล์มที่ดีที่สุดในปี 2024

กล้องฟิล์มเป็นกล้องหลักๆ ช่างภาพที่จะเลือกหยิบมาถ่ายภาพกันในช่างก่อนหน้าที่กล้องดิจิทัลจะเข้ามาและดึงดูดด้วยการถ่ายภาพที่รวดเร็วของมัน แต่ก็แน่นอนว่ากล้องฟิล์มก็ไม่ได้กายไปตามยุคสมัย เพราะก็ยังคงมีบริษัทที่ยังคงผลิตกล้องฟิล์มอยู่เช่นกัน และกล้องฟิล์มก็กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา
และในสมัยนี้กล้องฟิล์มก็ยังคงได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยได้อย่างดียิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่มีความคมชัดและแม่นยำยิ่งขึ้นเท่านั้น แต่ปัจจุบันตัวกล้องยังเต็มไปด้วยคุณสมบัติมากมายที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth และแม้แต่การควบคุมและสั่งงานด้วยสมาร์ทโฟนของคุณก็สามารถใช้งานได้เช่นกัน
ดังนั้นเราจึงได้ทดลองและได้รวบรวมกล้องฟิล์มที่น่าใช้ในปี 2023 มาทั้งหมด 5 ตัวเลือกเพื่อให้คุณได้เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการทั้งในด้านสไตล์การถ่ายภาพ และในเรื่องงบประมาณดังนี้
1. Leica M-A
ชนิดกล้อง : Rangefinder
เลนส์ : Leica M ความยาวโฟกัสที่ 16-135มม.
ช่องมองภาพ : Optical 0.72x
ชนิดฟิล์ม : 35มม.
ข้อดี
+ การควบคุมแบบ manual ที่หลากหลาย
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างสูง
Leica ได้ทำกล้อง Leca M-A ด้วยความพิเศษด้วยการผลิตที่มีความแม่นยำที่ทันสมัยและเพิ่ม optical เข้าไปในกล้องเพื่อให้นึกถึงการถ่ายภาพแบบ analogue และกล้องนี้ได้มีการออกแบบที่เรียบง่ายและเพรียวบาง และมีการนำฟิล์มขาวดำ Kodak Tri-X 400 ม้วนหนึ่งกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก Leica ได้สร้างกล้องที่เป็นที่ชื่นชอบของช่างภาพรายงานข่าว แต่อย่างไรก็ตามการเลือกใช้กล้องนี้จะเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่น่าทึ่งให้กับคุณได้อย่างแน่นอน
2. Lomography Sprocket Rocket
ชนิดกล้อง : Analogue
เลนส์ : 35มม.
ช่องมองภาพ : Direct optical
ชนิดฟิล์ม : 35มม.
ข้อดี
+ การจัดการที่ง่าย
+ กล้องสไตล์ retro
ข้อเสีย
– อาจจะใช้งานง่ายเกินไปสำหรับบางคน
– โครงสร้างปลอกด้านนอกเป็นพลาสติก
กล้อง Sprocket Rocke ของ Lomography เป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมมากเมื่อเทียบกับราคาของมันเพราะมันการถ่ายภาพที่เพลิดเพลินได้อย่างง่ายดายในราคาที่ไม่แพง กล้องมุมกว้าง 35 มม. แบบพาโนรามาตัวแรกของโลกเพื่อการถ่ายภาพโดยเฉพาะ ผลลัพธ์การถ่ายภาพสไตล์ retro ที่ไม่เหมือนใคร กล้องยังมีปุ่มหมุนย้อนกลับที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพซ้อนและผสมผสานภาพพาโนรามาเข้าด้วยกันสำหรับเฟรมยาวบน reel 35 มม. ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะต้องการถ่ายกลุ่มเพื่อนหรือภาพทิวทัศน์ขนาดใหญ่ มันก็สามารถให้ภาพที่สวยงามกับคุณได้
3. Polaroid Now+
ชนิดกล้อง : instant
เลนส์ : ระบบ 2 เลนส์ คือ เลนส์มาตรฐาน 102.35มม. (เทียบเท่า full frame 40มม.), เลนส์ระยะใกล้ 94.96มม. (เทียบเท่า 35มม.)
ช่องมองภาพ : Optical
ชนิดฟิล์ม : Polaroid i-Type film, Polaroid 600 film
ข้อดี
+ ตัวกล้องได้รับการออกมาอย่างดีและมีสไตล์
+ สามารถใช้งานกับขาตั้งกล้องได้
+ ภาพสไตล์ lo-fi
ข้อเสีย
– ราคาฟิล์มค่อนข้างสูง
กล้อง Polaroid Now+ เป็นกล้องรุ่นล่าสุดของ Polaroid และให้ภาพฟิล์มทันทีด้วยเสน่ห์แบบ lo-fi พร้อมเพิ่มการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อปลดล็อกคุณสมบัติที่ล้ำสมัย และการควบคุมกล้องผ่านแอพนั้นทำได้อย่างราบรื่นและทันสมัย ให้คุณลองเล่นกับโหมดถ่ายภาพเฉพาะอย่างเช่น Double Exposure, Self-Timer, Light Painting และอื่นๆ
และกล้องนี้ยังใช้ระบบโฟกัสอัตโนมัติ 2 เลนส์ และยังสามารถใช้กล้องคู่กับขาตั้งกล้องได้อีกด้วย และหลังจากที่เราได้ทดลองแล้ว พบว่ามันให้ภาพที่สวยงาม มีความโดดเด่นแบบ retro ในระดับที่เหมาะสมมากทีเดียว นอกจากนี้มันยังมีเสน่ห์แบบ analogue แบบเก่าในขณะที่ก็ให้คุณภาพของภาพที่ดีกว่า Instax ของ Fujifilm นี้หมายความว่าฟิล์มก็จะมีราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน
4. Fujifilm instax mini 90
ชนิดกล้อง : Instant
เลนส์ : 60มม. f/12.7
ช่องมองภาพ : Optical
ชนิดฟิล์ม : Instax mini
ข้อดี
+ โหมดถ่ายภาพที่หลายหลาก
+ การออกแบบสไตล์ retro
ข้อเสีย
– ฟิล์มมีราคาแพง
– ภาพพิมพ์ไม่ใหญ่นัก
กล้อง Instax mini 90 เป็นกล้องที่สามารถหยิบขึ้นมาใช้งานได้อย่างง่ายดาย ด้วยการออกแบบที่สวยงามซึ่งมีให้เลือกทั้งสีดำ น้ำตาล และสีแดง และด้วยโหมดในการถ่ายภาพถึง 4 โหมด และยังสามารถใช้เพื่อถ่ายภูมิทัศน์, macro, งานปาร์ตี้ หรือแม้แต่ในโหมด kids เพื่อการถ่ายวัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว นอกจากนี้ยังมีแฟลชประสิทธิภาพสูงเพื่อช่วยเติมเต็มฉากในภาพให้มีแสงที่สมดุล และกล้องยังมีโหมดหลอดไฟสำหรับการถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงนาน คุณยังสามารถถ่ายภาพแบบเปิดรับแสงสองเท่าได้ ซึ่งเหมาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการสร้างสรรค์ภาพทันที
5. Lomography Diana F+
ชนิดกล้อง : Toy
เลนส์ : Diana lenses
ช่องมองภาพ : Direct optical
ชนิดฟิล์ม : 120 หรือ 35มม. พร้อมด้านหลังเพิ่มเติม
ข้อดี
+ เลนส์สามารถชาร์จได้
+ ฟิล์มมี 2 ประเภท
ข้อเสีย
– ตัวกล้องเป็นพลาสติก
– การควบคุมแบบ manual มีจำกัด
แม้ว่าจะระบุว่าเป็นกล้อง toy แต่กล้อง Lomography ก็มีคุณสมบัติที่ให้มาในตัวกล้องอย่างมากมาย และสามารถใช้งานได้กับเลนส์หลายตัวด้วยระบบเลนส์ที่สามารถเปลี่ยนได้ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถถ่ายภาพได้หลายประเภทได้ง่ายกว่ากล้องที่มีเลนส์คงที่เลนส์เดียว และ Diana F+ ยังสามารถถ่ายฟิล์มได้สองประเภท ทั้งฟิล์มมาตรฐาน 35 มม. และฟิล์ม medium format ขนาดใหญ่ 120 สำหรับผู้ที่ต้องการยกระดับการพิมพ์ ในราคาที่สมเหตุสมผล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพฟิล์มในราคาที่เหมาะสม