10 หูฟังกันน้ำ ราคาไม่เกิน 1500 บาท ปี 2025 ลุยน้ำ ลุยฝน ออกกำลังกายมั่นใจ

สวัสดีค่าาทุกคน! กลับมาอีกแล้วกับดิฉันเองค่ะ ตัวแม่เรื่องป้ายยา ช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงของเมืองไทย! อากาศบ้านเราช่วงนี้ก็เอาใจยากเหลือเกิ๊น เดี๋ยวร้อนตับแตก เดี๋ยวฝนตกยังกะฟ้ารั่ว ไหนจะเหงื่อท่วมตัวเวลาออกกำลังกายอีก โอ๊ยยย สภาพพพ! ปัญหาโลกแตกของสายกิจกรรมอย่างเราๆ คือจะฟังเพลงเพลินๆ หรือจะดูซีรีส์มันส์ๆ ระหว่างลุยฝน ลุยเหงื่อยังไงให้หูฟังไม่พังก่อนวัยอันควร? วันนี้ดิฉันมีทางออกค่ะ! ขอเสนอตัวช่วยที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นเยอะ นั่นก็คือ “หูฟังกันน้ำ ราคาไม่เกิน 1500 บาท ปี 2025” ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง โดนน้ำได้ เหงื่อแค่ไหนก็เอาอยู่ แถมราคาสบายกระเป๋า ไม่ต้องขายไตซื้อ! เตรียมตัวมาช้อปไอเท็มคู่ใจตัวใหม่ไปลุยทุกสถานการณ์แบบมั่นใจกันได้เลยค่า!

1. SoundPEATS SoundPEATS Mini

• ชื่อแบรนด์: SoundPEATS
• ชื่อสินค้า: SoundPEATS Mini
• ราคาสินค้า: ประมาณ 990 บาท
• คำอธิบายสินค้า: SoundPEATS Mini เป็นหูฟัง True Wireless ขนาดกะทัดรัด ดีไซน์มินิมอลน่ารัก พกพาสะดวกสุดๆ ใส่แล้วกระชับกับหู ไม่หลุดง่าย เหมาะกับทั้งคนหูเล็กและหูใหญ่ คุณภาพเสียงดีเกินราคา ให้เสียงร้องคมชัด รายละเอียดดนตรีดีงาม เบสมีกำลังพอเหมาะ ไม่หนักหรือเบาเกินไป ฟังเพลงได้หลากหลายแนว ใช้ดูหนัง ฟัง podcast ก็เวิร์ค ที่สำคัญคือมีคุณสมบัติกันเหงื่อระดับ IPX5 ใส่ออกกำลังกายเบาๆ หรือใช้งานในชีวิตประจำวันที่ต้องเจอกับเหงื่อได้สบายๆ เลยค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: ราคาประหยัด, ขนาดเล็กกะทัดรัด, ใส่กระชับไม่หลุดง่าย, ดีไซน์สวยงาม, คุณภาพเสียงดีเกินราคา
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ใช้งานในชีวิตประจำวัน: ด้วยขนาดที่เล็กและน้ำหนักเบา ทำให้ใส่ได้สบายตลอดวัน ไม่รู้สึกอึดอัด เหมาะกับการฟังเพลงระหว่างเดินทาง ทำงาน หรือพักผ่อน และยังพกพาสะดวก ใส่ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง หรือกระเป๋าเล็กๆ ได้สบายๆ เลยค่ะ
  • ใส่ออกกำลังกายเบาๆ: มาพร้อมมาตรฐานกันเหงื่อ IPX5 สามารถป้องกันเหงื่อจากการวิ่ง Jogging หรือการเดินออกกำลังกายได้ดี ไม่ต้องกังวลว่าเหงื่อจะทำลายหูฟัง ทำให้มีเพลงฟังเพลินๆ ระหว่างเบิร์นแคลอรี่ค่ะ
  • ฟังเพลงและชมคอนเทนต์: ให้คุณภาพเสียงที่ชัดเจน รายละเอียดดี ตอบโจทย์การฟังเพลงหลากหลายแนว รวมถึงใช้ดูหนัง ฟัง podcast หรือดูคลิปต่างๆ ก็ได้อรรถรสที่ดีเกินคาดสำหรับหูฟังราคานี้ค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มองหาหูฟังไร้สายราคาเป็นมิตร, คนที่ชอบหูฟังขนาดเล็ก พกพาง่าย, นักเรียน นักศึกษา, คนที่ออกกำลังกายเบาๆ, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	แบตเตอรี่ (หูฟัง)	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	รูปแบบ
ไร้สาย	5.2	IPX5	7 ชม.	สูงสุด 25 ชม.	In-Ear

2. EARFUN EARFUN Free Mini

• ชื่อแบรนด์: EARFUN
• ชื่อสินค้า: EARFUN Free Mini
• ราคาสินค้า: ประมาณ 990 บาท
• คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงหูฟังราคาประหยัดแต่คุณภาพคับแก้ว แถมกันน้ำได้โหดๆ ต้องยกให้ EARFUN Free Mini ตัวนี้เลยค่ะ โดดเด่นเรื่องความคุ้มค่ามากๆ ด้วยคุณสมบัติกันน้ำระดับ IPX7 ซึ่งถือว่าสูงมากในเรทราคานี้ เหมาะสุดๆ สำหรับสายลุย เหงื่อเยอะแค่ไหนก็ไม่หวั่น หรือจะใส่ใช้งานในวันที่ฝนตกก็ยังไหว ตัวหูฟังและเคสชาร์จมีขนาดเล็กมินิ พกพาสะดวก ใส่กระชับหูดี คุณภาพเสียงให้เบสที่แน่น ฟังสนุก เหมาะกับเพลงที่มีจังหวะ จะใช้ฟังเพลงทั่วไปหรือใส่ออกกำลังกายก็ดีงามค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: กันน้ำระดับ IPX7, ราคาคุ้มค่า, ขนาดเล็กพกพาสะดวก, ใส่กระชับหู, เบสแน่น ฟังสนุก
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ใส่ออกกำลังกายหนัก: ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX7 ทำให้ทนทานต่อเหงื่อจำนวนมาก หรือแม้กระทั่งน้ำสาดกระเด็นใส่ได้อย่างสบายๆ เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่เหงื่อออกเยอะเป็นพิเศษค่ะ
  • ใช้งานกลางแจ้งหรือวันที่ฝนตก: ไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะเสียหายหากต้องใช้งานท่ามกลางละอองฝน หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ทำให้เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะสภาพอากาศแบบไหนค่ะ
  • ฟังเพลงเน้นจังหวะและเบส: คุณภาพเสียงให้เบสที่หนักแน่น มีกำลัง ฟังแล้วสนุก เหมาะกับเพลงแนว Pop, Rock, EDM หรือเพลงที่มีจังหวะเร็วๆ ช่วยเพิ่มพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ดีค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายออกกำลังกายหนัก, คนที่เหงื่อเยอะ, ใช้งานกลางแจ้ง, วันที่ฝนตก, ผู้ที่ต้องการหูฟังกันน้ำคุณภาพดีในราคาประหยัด

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	แบตเตอรี่ (หูฟัง)	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	รูปแบบ
ไร้สาย	5.0	IPX7	5 ชม.	สูงสุด 24 ชม.	In-Ear

3. Soundcore Anker Soundcore R50i NC

• ชื่อแบรนด์: Soundcore (by Anker)
• ชื่อสินค้า: Soundcore R50i NC
• ราคาสินค้า: ประมาณ 549 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Soundcore R50i NC เป็นหูฟังไร้สาย True Wireless จาก Anker ที่ให้ฟีเจอร์มาแบบจัดเต็มในราคาเบาๆ มีระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) และโหมดฟังเสียงรอบข้าง (Transparency Mode) มาให้ด้วย คุณภาพเสียงดี มีเบสที่หนักแน่น ฟังสนุก สามารถปรับ EQ ได้ผ่านแอป Soundcore สวมใส่สบาย กระชับหู มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX5 กันเหงื่อกันละอองน้ำได้ดี เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันและใส่ออกกำลังกายค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก, มี ANC และ Transparency Mode, คุณภาพเสียงดี เบสแน่น, ปรับ EQ ได้ผ่านแอป, กันน้ำ IPX5
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ตัดเสียงรบกวน: ระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีในระดับหนึ่ง ทำให้โฟกัสกับเสียงเพลงหรือคอนเทนต์ที่ฟังได้มากขึ้น เหมาะกับการใช้งานในที่ที่มีเสียงดัง เช่น บนรถไฟฟ้า หรือในออฟฟิศที่มีคนพลุกพล่านค่ะ
  • ฟังเสียงรอบข้าง: Transparency Mode ช่วยให้ได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง เหมาะกับการใช้งานเมื่อต้องการรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว เช่น เดินบนถนน วิ่งในสวนสาธารณะ หรือพูดคุยกับคนอื่นชั่วคราวค่ะ
  • ใส่ออกกำลังกาย: ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX5 ทำให้ทนทานต่อเหงื่อและละอองน้ำได้ดี สามารถใส่ไปวิ่ง หรือออกกำลังกายในยิมได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากความชื้นค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการหูฟังฟีเจอร์ครบในงบจำกัด, นักเรียน นักศึกษา, ใช้งานทั่วไป, เดินทาง, ออกกำลังกาย

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	ANC	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	รูปแบบ
ไร้สาย	5.3	IPX5	มี	ไม่ระบุชัดเจน (รุ่นอื่นของ Soundcore อยู่ที่ 25-32 ชม.)	In-Ear

4. Lenovo Lenovo LP75

• ชื่อแบรนด์: Lenovo
• ชื่อสินค้า: Lenovo LP75
• ราคาสินค้า: ประมาณ 269 - 308 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Lenovo LP75 เป็นหูฟังบลูทูธแบบคล้องหูที่เน้นการใช้งานด้านกีฬาโดยเฉพาะ ดีไซน์มาให้กระชับกับใบหู ไม่หลุดง่ายแม้เคลื่อนไหวหนักๆ เหมาะกับสายวิ่ง สายออกกำลังกายหนักๆ ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา ใส่สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX7 ซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมในเรทราคานี้ ทนทานต่อเหงื่อและน้ำได้เป็นอย่างดี คุณภาพเสียงอยู่ในเกณฑ์ดีสำหรับหูฟังแนวสปอร์ต เชื่อมต่อเสถียรด้วย Bluetooth 5.3 และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ตอบโจทย์คนรักการออกกำลังกายสุดๆ ค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: เหมาะกับใส่ออกกำลังกายอย่างยิ่ง, ดีไซน์คล้องหู กระชับ ไม่หลุดง่าย, กันน้ำระดับ IPX7, แบตเตอรี่อึด, ราคาถูกมาก
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ใส่ออกกำลังกายหนัก: ออกแบบมาให้มีที่คล้องหู ช่วยให้หูฟังยึดเกาะกับใบหูได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะหลุดขณะวิ่ง กระโดด หรือทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวรุนแรง มั่นใจได้เต็มที่กับการเบิร์นแคลอรี่ค่ะ
  • ทนทานต่อน้ำและเหงื่อ: ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX7 สามารถทนทานต่อเหงื่อปริมาณมากจากการออกกำลังกาย หรือละอองน้ำ ฝน ได้อย่างสบายๆ ช่วยยืดอายุการใช้งานของหูฟัง และไม่ต้องคอยระวังไม่ให้หูฟังเปียกค่ะ
  • สนทนาสาย: มีไมโครโฟนในตัวสำหรับใช้คุยโทรศัพท์ แม้จะไม่ได้เน้นเรื่องคุณภาพการตัดเสียงรบกวนมากนัก แต่ก็สามารถใช้คุยสายระหว่างออกกำลังกายหรือใช้งานทั่วไปได้ในระดับหนึ่งค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักวิ่ง, นักกีฬา, คนที่ออกกำลังกายหนัก, ผู้ที่ต้องการหูฟังราคาถูกสำหรับการออกกำลังกาย, ใช้งานกลางแจ้ง

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	รูปแบบ	แบตเตอรี่ (หูฟัง)	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	ดีไซน์
ไร้สาย	5.3	IPX7	In-Ear (แบบคล้องหู)	ไม่ระบุ	ไม่ระบุชัดเจน (เคส 300mAh)	คล้องหู

5. JQVITEK JQVITEK BC61

• ชื่อแบรนด์: JQVITEK
• ชื่อสินค้า: JQVITEK BC61 (Bone Conduction)
• ราคาสินค้า: ประมาณ 369 บาท
• คำอธิบายสินค้า: JQVITEK BC61 เป็นหูฟัง Bone Conduction หรือหูฟังแบบส่งเสียงผ่านกระดูกแก้ม ที่กำลังเป็นที่นิยมสำหรับสายออกกำลังกาย เพราะไม่ต้องยัดเข้าไปในรูหู ทำให้ได้ยินเสียงรอบข้างได้เพื่อความปลอดภัย ตัวนี้มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX6 กันน้ำกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม ดีไซน์แบบคล้องหู ใส่สบาย กระชับ ไม่หลุดง่ายขณะเคลื่อนไหวหนักๆ คุณภาพเสียงตามสไตล์ Bone Conduction คือจะได้ยินเสียงจากภายในเป็นหลัก เหมาะกับการฟังเพลงหรือ podcast ระหว่างทำกิจกรรมที่ต้องระวังสิ่งแวดล้อม ราคาเป็นมิตรสุดๆ ค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: หูฟัง Bone Conduction ราคาถูก, ใส่สบาย ได้ยินเสียงรอบข้าง, กันน้ำ IPX6, ดีไซน์คล้องหู กระชับ, เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ออกกำลังกายกลางแจ้ง: ด้วยความที่เป็นหูฟังแบบ Open-Ear ไม่ปิดกั้นช่องหู ทำให้ยังสามารถได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกได้ เช่น เสียงรถยนต์ เสียงคน หรือเสียงเตือนต่างๆ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ ค่ะ
  • ใส่สบาย ลดอาการเมื่อยล้า: ไม่ต้องสอดจุกหูฟังเข้าไปในรูหู ลดแรงกดดันและความอับชื้นภายในช่องหู ทำให้ใส่ได้นานต่อเนื่องโดยไม่รู้สึกเจ็บหรือเมื่อยล้า เหมาะสำหรับคนที่ใส่หูฟังเป็นเวลานานระหว่างออกกำลังกายหรือทำงานค่ะ
  • กันน้ำกันเหงื่อ: มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX6 ทนทานต่อเหงื่อปริมาณมาก และละอองน้ำ ฝน ได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการออกกำลังกายในสภาพอากาศที่หลากหลาย หรือวันที่เหงื่อออกเยอะเป็นพิเศษค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักวิ่ง, นักปั่นจักรยาน, คนที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง, ผู้ที่ต้องการได้ยินเสียงรอบข้างขณะใช้หูฟัง, คนที่ใส่หูฟัง In-Ear แล้วรู้สึกไม่สบาย

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	รูปแบบ	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	ดีไซน์	เทคโนโลยีเสียง
ไร้สาย	5.3	IPX6	Bone Conduction	ไม่ระบุชัดเจน (แบตเตอรี่อึด)	คล้องหู	ส่งผ่านกระดูก

6. Linkee Linkee F9IPX7

• ชื่อแบรนด์: Linkee
• ชื่อสินค้า: Linkee F9IPX7
• ราคาสินค้า: ประมาณ 179 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Linkee F9IPX7 เป็นหูฟัง True Wireless ที่มาในราคาที่น่าตกใจมากๆ แต่ให้มาตรฐานกันน้ำสูงถึง IPX7! ดีไซน์เป็นแบบ In-Ear มาพร้อมกล่องชาร์จที่มีไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่แบบดิจิทัล ตัวหูฟังมีระบบลดเสียงรบกวน (น่าจะเป็น ENC สำหรับไมค์) เหมาะกับการใช้งานพื้นฐาน ฟังเพลง ดูหนัง คุยโทรศัพท์ และที่สำคัญคือสามารถใส่ออกกำลังกาย หรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเจอน้ำเจอกเหงื่อได้สบายๆ ด้วยการกันน้ำระดับนี้ ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับคนงบน้อยแต่อยากได้หูฟังกันน้ำดีๆ ค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: กันน้ำ IPX7 ในราคาที่ถูกมาก, มีไฟบอกสถานะแบตเตอรี่ที่เคส, มีระบบลดเสียงรบกวน (ไมค์), เหมาะกับคนงบน้อย
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ทนทานต่อน้ำได้ดี: มาตรฐานกันน้ำ IPX7 ทำให้ทนทานต่อการโดนน้ำสาดกระเด็น หรือจมน้ำในความลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลาสูงสุด 30 นาที เหมาะกับการใช้งานในวันที่ฝนตกหนัก หรือใส่ออกกำลังกายที่เหงื่อเยอะมากๆ ค่ะ
  • ใช้งานพื้นฐานครบครัน: รองรับการฟังเพลง ดูหนัง และคุยโทรศัพท์ มีระบบลดเสียงรบกวนที่ไมโครโฟนช่วยให้ปลายสายได้ยินเสียงเราชัดขึ้นในระดับหนึ่ง ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างครบถ้วนค่ะ
  • เช็คแบตเตอรี่ง่าย: กล่องชาร์จมีหน้าจอ LED แสดงผลแบตเตอรี่แบบดิจิทัล ทำให้ตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะหมดแบตเตอรี่กะทันหันค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดมากๆ, นักเรียน นักศึกษา, คนที่ต้องการหูฟังกันน้ำสำหรับการออกกำลังกาย, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน, พกพาเดินทาง

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	รูปแบบ	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	ระบบลดเสียงรบกวน	การแสดงผลแบตเตอรี่
ไร้สาย	5.0	IPX7	In-Ear	120 ชม. (Standby time) / ไม่ระบุชัดเจน	ENC (ไมค์)	Digital LED

7. Vaorlo Vaorlo Swimming Earbuds

• ชื่อแบรนด์: Vaorlo
• ชื่อสินค้า: Vaorlo Swimming Earbuds (IPX8)
• ราคาสินค้า: ประมาณ 826 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Vaorlo Swimming Earbuds ตัวนี้เกิดมาเพื่อสายน้ำโดยเฉพาะ! มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX8 ที่สามารถใส่ลงน้ำได้จริงในความลึกถึง 30 เมตร ดีไซน์เป็นแบบ Bone Conduction ส่งเสียงผ่านกระดูกแก้ม ไม่ต้องยัดเข้าไปในรูหู ทำให้ใส่ว่ายน้ำได้อย่างสบาย ไม่เจ็บหู รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 และยังมีหน่วยความจำภายใน 32GB สำหรับเก็บเพลง ไม่ต้องพกโทรศัพท์ลงน้ำด้วย คุณภาพเสียงดีสำหรับหูฟัง Bone Conduction เหมาะสุดๆ กับคนที่ชอบว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ ค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: กันน้ำ IPX8 ใส่ว่ายน้ำได้จริง, มีหน่วยความจำภายใน 32GB, รูปแบบ Bone Conduction ใส่สบายในน้ำ, เหมาะกับกิจกรรมทางน้ำ
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ใส่ว่ายน้ำ/ดำน้ำ: มาตรฐานกันน้ำ IPX8 ทำให้หูฟังสามารถทนทานต่อการจมน้ำในความลึกและเป็นเวลานานได้ เหมาะกับการใส่ว่ายน้ำในสระ หรือแม้กระทั่งดำน้ำตื้นๆ เพื่อฟังเพลงไปด้วย ทำให้การออกกำลังกายในน้ำไม่น่าเบื่ออีกต่อไปค่ะ
  • ฟังเพลงแบบไม่ต้องพึ่งมือถือ: มีหน่วยความจำภายในขนาด 32GB สามารถโอนไฟล์เพลงเข้าไปเก็บไว้ในหูฟังได้โดยตรง ทำให้ฟังเพลงขณะว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมทางน้ำได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อ Bluetooth กับโทรศัพท์มือถือ สะดวกมากๆ ค่ะ
  • ได้ยินเสียงรอบข้าง: แม้จะอยู่ในน้ำ การเป็นหูฟังแบบ Bone Conduction ที่ไม่ปิดกั้นช่องหู ก็ยังช่วยให้สามารถรับรู้เสียงสภาพแวดล้อมรอบๆ ได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในกรณีฉุกเฉินค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักว่ายน้ำ, ผู้ที่ชอบทำกิจกรรมทางน้ำ, คนที่ต้องการหูฟังสำหรับใช้ในสระว่ายน้ำหรือทะเล (น้ำตื้น), ออกกำลังกายในน้ำ

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	รูปแบบ	หน่วยความจำภายใน	แบตเตอรี่ (ใช้งานต่อเนื่อง)	ระยะสัญญาณ (Bluetooth)
ไร้สาย	5.4	IPX8	Bone Conduction	32GB	10 ชม.	10 เมตร

8. Edifier Edifier X1 Lite

• ชื่อแบรนด์: Edifier
• ชื่อสินค้า: Edifier X1 Lite (True Wireless Bluetooth V5.4)
• ราคาสินค้า: ประมาณ 500 - 700 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Edifier X1 Lite เป็นหูฟัง True Wireless ราคาประหยัดที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน มาพร้อม Bluetooth 5.4 ทำให้การเชื่อมต่อเสถียรและประหยัดพลังงาน คุณภาพเสียงดี ฟังง่าย มี AI ช่วยปรับเสียงการโทรให้ชัดเจนขึ้น มาตรฐานกันน้ำ IP54 กันเหงื่อและละอองน้ำได้ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปและใส่ออกกำลังกายเบาๆ ดีไซน์สวยงามทันสมัย สวมใส่สบาย แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในงบไม่เกินพันห้าค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: Bluetooth 5.4 รุ่นใหม่, AI ช่วยให้เสียงโทรชัด, กันน้ำ IP54, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน, ราคาเข้าถึงง่าย
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • การเชื่อมต่อที่เสถียร: ใช้ Bluetooth Version 5.4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ ทำให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ มีความเสถียรมากขึ้น ลดปัญหาเสียงกระตุกหรือดีเลย์ และยังช่วยประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ได้ดีอีกด้วยค่ะ
  • สนทนาสายชัดเจน: มีระบบ AI เข้ามาช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงในการโทร ทำให้เสียงพูดของเราชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับปลายสาย ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ในระดับหนึ่ง เหมาะกับการใช้คุยโทรศัพท์ในชีวิตประจำวันค่ะ
  • กันเหงื่อและละอองน้ำ: มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IP54 สามารถป้องกันเหงื่อจากการออกกำลังกาย หรือละอองน้ำ ฝน ที่กระเด็นใส่ได้ ทำให้ใช้งานระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ หรือในวันที่สภาพอากาศไม่เป็นใจได้อย่างมั่นใจค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ในราคาเบาๆ, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน, คุยโทรศัพท์, ออกกำลังกายเบาๆ

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	รูปแบบ	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	AI Feature	Driver Size
ไร้สาย	5.4	IP54	Earbuds	26 ชม.	AI Call Noise Reduction	13 มม.

9. Jeep Jeep EW121

• ชื่อแบรนด์: Jeep
• ชื่อสินค้า: Jeep EW121
• ราคาสินค้า: ประมาณ 500 - 700 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Jeep EW121 เป็นหูฟังบลูทูธ True Wireless ดีไซน์ทันสมัย มาพร้อม Bluetooth 5.4 ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อมีเสถียรภาพและดีเลย์ต่ำ มีไมโครโฟนในตัวที่รับเสียงได้ชัดเจน และมีระบบ Noise Reduction ช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกขณะคุยโทรศัพท์ มาตรฐานกันน้ำ IPX5 กันเหงื่อกันละอองน้ำได้ เหมาะกับการใช้งานหลากหลาย ทั้งฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม (ดีเลย์ต่ำ) และออกกำลังกาย ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา ใส่สบาย แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 40 ชั่วโมงเมื่อรวมเคสชาร์จค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: Bluetooth 5.4 ดีเลย์ต่ำ, ไมค์ชัด มี Noise Reduction, กันน้ำ IPX5, แบตเตอรี่รวมเคสอึดมาก, เหมาะกับเล่นเกม
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ใช้งานหลากหลาย: ด้วย Bluetooth 5.4 ที่ดีเลย์ต่ำ ทำให้เหมาะกับการใช้งานแทบทุกรูปแบบ ทั้งฟังเพลง ดูหนัง หรือแม้กระทั่งเล่นเกม ก็ให้เสียงที่ซิงค์กับภาพได้ดี ไม่รู้สึกหน่วงจนเสียอารมณ์ค่ะ
  • สนทนาคมชัด: มีไมโครโฟนคุณภาพดีในตัว พร้อมระบบ Noise Reduction ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้เสียงสนทนาของเราชัดเจนสำหรับปลายสาย เหมาะกับการใช้คุยโทรศัพท์ หรือประชุมออนไลน์ค่ะ
  • ทนทานต่อเหงื่อและละอองน้ำ: ด้วยมาตรฐานกันน้ำ IPX5 สามารถป้องกันเหงื่อปริมาณปานกลาง และละอองน้ำ ฝน ที่กระเด็นใส่ได้ ทำให้ใช้งานระหว่างออกกำลังกาย หรือในวันที่อากาศไม่เป็นใจได้อย่างมั่นใจค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการหูฟังไร้สายสำหรับใช้งานหลากหลาย, เล่นเกม, คุยโทรศัพท์, ออกกำลังกาย, เดินทาง, ผู้ที่ต้องการแบตเตอรี่อึดๆ

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	รูปแบบ	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	ระบบลดเสียงรบกวน	Driver Size
ไร้สาย	5.4	IPX5	In-Ear	40 ชม.	Noise Reduction (ไมค์)	13 มม.

10. Blackview Blackview AirBuds 10

• ชื่อแบรนด์: Blackview
• ชื่อสินค้า: Blackview AirBuds 10 (Open-ear TWS)
• ราคาสินค้า: ประมาณ 700 - 1,000 บาท
• คำอธิบายสินค้า: Blackview AirBuds 10 เป็นหูฟัง True Wireless แบบ Open-ear ที่น่าสนใจมากๆ สำหรับสายลุย เพราะมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำสุดโหดถึง IP68 และ IP69k! ดีไซน์เป็นแบบเกี่ยวหู ไม่ยัดเข้าไปในรูหู ทำให้ใส่สบาย ได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัย เหมาะกับการออกกำลังกายหนักๆ กิจกรรมกลางแจ้ง หรือแม้กระทั่งลุยน้ำแบบเบาๆ คุณภาพเสียงเน้นเบสที่หนักแน่น ฟังสนุก แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน ดีไซน์ทนทานสมบุกสมบันค่ะ
• จุดเด่นสินค้า: กันน้ำ IP68 และ IP69k สุดโหด, ดีไซน์ Open-ear ได้ยินเสียงรอบข้าง, เหมาะกับกิจกรรมหนักๆ กลางแจ้ง, แบตเตอรี่อึด, เบสแน่นฟังสนุก
• ฟังก์ชันการใช้งาน:
  • ทนทานทุกสภาพอากาศ: มาตรฐานกันน้ำระดับ IP68 และ IP69k ทำให้ทนทานต่อฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ และทนทานต่อการจมน้ำลึก รวมถึงการฉีดน้ำแรงดันสูงและอุณหภูมิสูง เหมาะสุดๆ กับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย หรือกิจกรรมที่ต้องเปียกน้ำอย่างหนักค่ะ
  • ปลอดภัยขณะออกกำลังกาย: ดีไซน์แบบ Open-ear ไม่ปิดกั้นช่องหู ทำให้ยังสามารถได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างชัดเจน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องระวังอันตรายรอบตัวค่ะ
  • ใส่ออกกำลังกายหนักได้สบาย: รูปแบบเกี่ยวหูและน้ำหนักที่เบาเพียง 9.8 กรัมต่อข้าง ทำให้ใส่ได้กระชับ ไม่หลุดง่าย แม้จะเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงระหว่างออกกำลังกาย ทำให้โฟกัสกับการฝึกได้อย่างเต็มที่ค่ะ
• กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายลุย, นักกิจกรรมกลางแจ้ง, ออกกำลังกายหนัก, ผู้ที่ต้องการหูฟังทนทาน กันน้ำกันฝุ่นได้ดีเยี่ยม, ผู้ที่ต้องการได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัย

การเชื่อมต่อ	Bluetooth Version	การกันน้ำ	รูปแบบ	แบตเตอรี่ (หูฟัง)	แบตเตอรี่ (รวมเคส)	น้ำหนัก (ต่อข้าง)	Driver Size
ไร้สาย	5.3	IP68 & IP69k	Open-ear (เกี่ยวหู)	ไม่ระบุ	550mAh (เคส)	9.8 กรัม	16.2 มม.

วิธีเลือกซื้อหูฟังกันน้ำให้โดนใจ ใช่เลย!

• 1. เช็คมาตรฐานการกันน้ำ (IP Rating) ให้ชัวร์ก่อนจ่ายตังค์!
  เรื่องสำคัญอันดับหนึ่งของหูฟังกันน้ำก็คือมาตรฐาน IP Rating นี่แหละค่ะ ย่อมาจาก Ingress Protection Rating เป็นตัวบ่งบอกว่าอุปกรณ์ของเราทนทานต่อฝุ่นและน้ำได้มากแค่ไหน โดยจะมีตัวเลขสองหลักตามหลังตัวอักษร IP ตัวเลขหลักแรกคือระดับการป้องกันของแข็งหรือฝุ่น มีตั้งแต่ 0 (ไม่ป้องกัน) ถึง 6 (ป้องกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์) ส่วนตัวเลขหลักที่สองคือระดับการป้องกันของเหลวหรือน้ำ มีตั้งแต่ 0 (ไม่ป้องกัน) ถึง 9K (ป้องกันน้ำแรงดันสูงและอุณหภูมิสูง) สำหรับหูฟังกันน้ำสำหรับใส่ออกกำลังกายหรือลุยฝน อย่างน้อยที่สุดควรเลือกที่ระดับ IPX4 ขึ้นไปค่ะ "X" ในที่นี้หมายถึงไม่ได้ทดสอบการป้องกันฝุ่น แต่ X4 ก็หมายถึงสามารถป้องกันละอองน้ำที่กระเด็นใส่ได้จากทุกทิศทาง ถ้าอยากได้ที่กันเหงื่อเยอะๆ หรือใส่วิ่งตากฝนปรอยๆ ได้สบายๆ ก็มองหาระดับ IPX5 หรือ IPX6 ค่ะ IPX5 ป้องกันน้ำที่ฉีดใส่ได้จากทุกทิศทาง ส่วน IPX6 ป้องกันน้ำที่ฉีดใส่ด้วยแรงดันที่สูงกว่า IPX5 ได้ ถ้าเป็นสายลุยหนักๆ หรืออยากใส่ล้างน้ำหลังออกกำลังกาย หรือเผื่อเอาไว้ในกรณีที่อาจจะตกน้ำแบบไม่ตั้งใจ (แต่ไม่ถึงกับจมน้ำนานๆ) ระดับ IPX7 จะให้ความอุ่นใจได้มากกว่าค่ะ IPX7 หมายถึงสามารถจมน้ำในความลึกไม่เกิน 1 เมตร เป็นเวลาสูงสุด 30 นาที ส่วนใครที่ตั้งใจจะเอาไปใส่ว่ายน้ำหรือดำน้ำตื้นๆ ต้องเลือกที่ระดับ IPX8 เท่านั้นค่ะ IPX8 สามารถจมน้ำได้นานกว่าและลึกกว่า IPX7 ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะระบุไว้ว่าทนน้ำลึกได้กี่เมตรและนานเท่าใด เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องดู IP Rating ที่ระบุไว้บนกล่องหรือในรายละเอียดสินค้าให้ละเอียด และเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานของเราจริงๆ ค่ะ อย่าเห็นแก่ของถูกแล้วได้มาตรฐานต่ำกว่าที่ต้องการ เดี๋ยวจะเสียเงินฟรีนะคะ! จำไว้ว่ายิ่งตัวเลขหลัง IP สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งกันน้ำได้ดีขึ้นเท่านั้นค่ะ
• 2. ดีไซน์และความกระชับคือหัวใจสำคัญสำหรับสายแอคทีฟ!
  นอกจากเรื่องกันน้ำแล้ว ดีไซน์และความกระชับในการสวมใส่ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยค่ะ โดยเฉพาะกับหูฟังที่เน้นใส่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายเยอะๆ ถ้าหูฟังหลวม หลุดง่าย วิ่งไป ฟังเพลงไป ต้องคอยจับ คอยยัดตลอดเวลา บอกเลยว่าหมดสนุกแน่นอนค่ะ หูฟังกันน้ำในตลาดมีหลายรูปแบบค่ะ ทั้งแบบ True Wireless (TWS) ที่เป็นหูฟังไร้สายอิสระสองข้าง, แบบ Neckband ที่มีสายคล้องคอเชื่อมระหว่างหูฟังสองข้าง, และแบบ Bone Conduction ที่ส่งเสียงผ่านกระดูกแก้มและมักจะมีดีไซน์แบบคล้องหู สำหรับสายออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ต้องมีการกระโดด การเคลื่อนไหวศีรษะรวดเร็ว แนะนำให้มองหารูปแบบที่มีความกระชับเป็นพิเศษค่ะ เช่น หูฟังแบบ In-Ear ที่มีจุกซิลิโคนหลายขนาดให้เลือก เพื่อให้พอดีกับรูหูของเรามากที่สุด ช่วยให้ซีลเสียงได้ดีและหลุดยาก หรือ หูฟังแบบมี Ear Hook หรือที่คล้องหู ดีไซน์แบบนี้จะช่วยเกี่ยวใบหูไว้ ทำให้หูฟังยึดเกาะได้อย่างมั่นคง ไม่หลุดง่ายแน่นอนค่ะ หรือถ้าใครไม่ชอบความรู้สึกอุดอู้ในรูหู หรือต้องการได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยเวลาออกกำลังกายกลางแจ้ง หูฟังแบบ Open-Ear หรือ Bone Conduction ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ แต่อาจจะต้องลองดูก่อนว่าดีไซน์แบบคล้องหูของแต่ละรุ่นเข้ากับสรีระหูของเราได้ดีแค่ไหน นอกจากนี้ น้ำหนักของหูฟังก็มีผลต่อความสบายในการสวมใส่ระยะยาวนะคะ หูฟังที่น้ำหนักเบาจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าบริเวณใบหูได้ค่ะ ลองดูรีวิว หรือถ้ามีโอกาสก็ลองสวมใส่ดูก่อนซื้อจะดีที่สุดค่ะ เลือกที่ใส่แล้วรู้สึกกระชับ มั่นคง และสบายหู จะทำให้การออกกำลังกายของคุณราบรื่น ไม่มีสะดุดค่ะ
• 3. แบตเตอรี่และการควบคุม: ฟีเจอร์เสริมที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น!
  การเลือกหูฟังกันน้ำให้คุ้มค่าในงบไม่เกิน 1500 บาท นอกจากเรื่องกันน้ำและความกระชับแล้ว ฟีเจอร์อื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ โดยเฉพาะเรื่องแบตเตอรี่และการควบคุม แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานจะช่วยให้เราไม่ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ ค่ะ ลองดูสเปคว่าตัวหูฟังเองใช้งานได้กี่ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วสามารถใช้งานได้รวมกี่ชั่วโมง บางรุ่นมีฟีเจอร์ชาร์จเร็ว ชาร์จแค่ไม่กี่นาทีก็ใช้งานได้หลายชั่วโมง อันนี้ก็สะดวกมากๆ ค่ะ นอกจากแบตเตอรี่แล้ว ระบบการควบคุมหูฟังก็สำคัญไม่แพ้กัน หูฟังส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะเป็นระบบสัมผัส หรือมีปุ่มกดบนตัวหูฟัง ใช้สำหรับควบคุมการเล่นเพลง หยุดเพลง ข้ามเพลง รับสาย วางสาย หรือเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียง (Voice Assistant) ลองดูว่าระบบควบคุมของรุ่นที่เราสนใจใช้งานง่าย ตอบสนองดีหรือไม่ บางรุ่นอาจจะมีแอปพลิเคชันสำหรับปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ เช่น ปรับ EQ เสียง, เปิด/ปิด ANC หรือ Transparency Mode, อัปเดตเฟิร์มแวร์ ฟีเจอร์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้นค่ะ สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย การควบคุมที่ง่ายและแม่นยำจะช่วยให้เราปรับเปลี่ยนเพลง หรือรับสายได้สะดวกโดยไม่ต้องหยุดกิจกรรมที่ทำอยู่ค่ะ ลองศึกษาข้อมูลรีวิว หรือดูคลิปรีวิวการใช้งานจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วยนะคะ เลือกหูฟังที่แบตอึด ควบคุมง่าย จะทำให้การใช้งานราบรื่น ไม่หงุดหงิดค่ะ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟังกันน้ำราคาไม่เกิน 1500 บาท

• Q: หูฟังกันน้ำระดับ IPX4 สามารถใส่ว่ายน้ำได้ไหม?
  A: ไม่ได้เด็ดขาดค่ะ! หูฟังที่มีมาตรฐาน IPX4 หมายถึงสามารถป้องกันละอองน้ำที่กระเด็นใส่ได้จากทุกทิศทางเท่านั้น เหมาะสำหรับกันเหงื่อหรือฝนตกปรอยๆ การใส่ว่ายน้ำต้องใช้หูฟังที่มีมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX8 ซึ่งออกแบบมาให้ทนทานต่อการจมน้ำในความลึกและเป็นเวลานานได้ค่ะ การนำหูฟัง IPX4 ไปใช้ว่ายน้ำจะทำให้หูฟังเสียหายแน่นอนค่ะ
• Q: หูฟัง Bone Conduction เหมาะกับการออกกำลังกายแบบไหน?
  A: หูฟัง Bone Conduction เหมาะกับการออกกำลังกายกลางแจ้ง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน เดินป่า หรือกิจกรรมที่ต้องรับรู้เสียงสภาพแวดล้อมเพื่อความปลอดภัยค่ะ เนื่องจากเป็นหูฟังแบบ Open-Ear ไม่ปิดกั้นช่องหู ทำให้ได้ยินเสียงรอบข้างได้พร้อมๆ กับฟังเพลง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือในพื้นที่สาธารณะค่ะ
• Q: หูฟังกันน้ำราคาไม่เกิน 1500 บาท คุณภาพเสียงจะดีไหม?
  A: หูฟังกันน้ำในงบไม่เกิน 1500 บาท ในปัจจุบันพัฒนาไปมากค่ะ หลายรุ่นให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินคาดสำหรับราคานี้ สามารถฟังเพลง ดูหนัง ได้อรรถรสที่ดี แต่อาจจะไม่ได้ให้คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi หรือมีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนระดับสูงเท่าหูฟังราคาระดับพรีเมียมค่ะ อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานทั่วไป ออกกำลังกาย หรือฟังเพลงระหว่างทำกิจกรรม ถือว่าตอบโจทย์และคุ้มค่ามากๆ ค่ะ
• Q: ถ้าหูฟังกันน้ำเปียก ควรทำอย่างไร?
  A: หากหูฟังกันน้ำเปียกเหงื่อหรือน้ำ ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้านุ่มที่แห้งสนิท และปล่อยให้แห้งสนิทก่อนเก็บเข้าเคสชาร์จหรือนำไปชาร์จค่ะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีความชื้นหลงเหลืออยู่บริเวณขั้วชาร์จ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นค่ะ ควรทำตามคำแนะนำในการดูแลรักษาที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งานของแต่ละรุ่นด้วยนะคะ
• Q: หูฟัง True Wireless แบบไหนใส่กระชับ ใส่ออกกำลังกายไม่หลุดง่าย?
  A: หูฟัง True Wireless แบบ In-Ear ที่มาพร้อมจุกซิลิโคนหลายขนาดให้เลือกมักจะใส่ได้กระชับกว่า และถ้ามี Ear Hook หรือที่คล้องหูเสริมก็จะช่วยเพิ่มความมั่นคงได้มากยิ่งขึ้นค่ะ ลองเลือกรุ่นที่มีดีไซน์ที่เข้ากับรูปทรงหูของเรา และอาจจะลองดูรีวิวจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ ประกอบด้วยค่ะ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

• 5 หูฟังออกกำลังกาย ราคาไม่เกิน 1500 บาท ปี 2021
• เปิดตัวหูฟัง SHOKZ รุ่นใหม่สำหรับกีฬาและแอดเวนเจอร์
• 5 หูฟังที่คุณภาพเสียงดีที่สุด (งบ 500 ถึง 1500 บาท)
• หูฟังราคาประหยัด เหมาะสำหรับออกกำลังกาย
• หูฟัง Bluetooth กันน้ำ แนะนำสำหรับว่ายน้ำ