สวัสดีค่ะชาวโซเชียลที่น่ารักทุกคน! วันนี้เจ๊มาพร้อมเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่พอถึงเวลาต้องใช้ทีไรล่ะก็... โอ๊ยยย ปวดหัวตึ้บ! นั่นก็คือเรื่องของ "เครื่องปริ้น" นั่นเองค่า! ในยุคที่เรา Work From Home (WFH) กันบ้างเรียนออนไลน์กันบ้าง หรือแม้แต่จะพิมพ์รูปสวยๆ ไว้ดูเล่นปริ้นเอกสารสำคัญๆ ส่งงานด่วนๆ เนี่ย เครื่องปริ้นดีๆ สักเครื่องมันจำเป็นมากแกรรรร และหัวข้อที่เราจะมาเม้าท์มอยกันวันนี้ก็คือ 《10 เครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พิมพ์เร็ว คมชัด ทันใจ》 รับรองว่าอ่านจบแล้วได้ไอเดียไปเลือกช้อปเครื่องปริ้นคู่ใจปี 2025 กันได้แบบไม่ต้องคลำทางเองแน่นอนจ้า!
เปิดโผ 10 เครื่องปริ้น ยอดฮิต ปี 2025 ที่ว่าแน่ทั้งเรื่องความเร็วและความคมชัด!
มาดูกันเลยว่าปี 2025 นี้ มีเครื่องปริ้นรุ่นไหน ยี่ห้ออะไรที่น่าจับตามองบ้าง เจ๊คัดมาให้เน้นๆ 10 รุ่นเด็ด ที่บอกเลยว่าตอบโจทย์ทั้งเรื่องความเร็ว คมชัด และฟังก์ชันที่หลากหลาย ตามสไตล์คนไทยที่ชอบอะไรที่คุ้มค่า ครบ จบ ในเครื่องเดียว!
1. Epson EcoTank L Series
- ชื่อแบรนด์: Epson
- ชื่อสินค้า: Epson EcoTank L Series (ยกตัวอย่างรุ่นยอดนิยม)
- ราคาสินค้า: 4,500 - 15,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: Epson EcoTank L Series เป็นเครื่องปริ้นระบบแทงค์หมึกยอดฮิตตลอดกาล ด้วยจุดเด่นเรื่องหมึกพิมพ์แบบขวดที่เติมง่าย ราคาถูก ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ได้มหาศาล ตอบโจทย์คนไทยที่พิมพ์เยอะๆ ทั้งงานเอกสาร รายงานนักเรียน หรือแม้แต่รูปภาพ สีสันสดใส คมชัด ตัวเครื่องดีไซน์สวยงาม มีหลายรุ่นให้เลือก ทั้งแบบเน้นพิมพ์อย่างเดียว หรือ All-in-One ที่พิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสารได้ในเครื่องเดียว รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย สะดวกสบายสุดๆ เหมาะกับบ้านเรือนและสำนักงานขนาดเล็กที่เน้นความคุ้มค่าและปริมาณงานพิมพ์ที่สูง.
- จุดเด่นสินค้า: ระบบแทงค์หมึกประหยัด, หมึกราคาถูก เติมง่าย, คุณภาพงานพิมพ์คมชัด สีสวย, รองรับ Wi-Fi, มีรุ่น All-in-One ให้เลือกหลากหลาย.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์งานปริมาณมาก: ด้วยระบบแทงค์หมึกความจุสูง ทำให้พิมพ์เอกสารได้หลายพันแผ่นโดยไม่ต้องเปลี่ยนตลับหมึกบ่อยๆ เหมาะกับช่วงใกล้สอบ หรือทำรายงานส่งอาจารย์.
- พิมพ์รูปภาพคุณภาพดี: แม้จะเป็นเครื่องระบบแทงค์หมึก แต่ให้สีสันสดใส คมชัด เหมาะกับการพิมพ์รูปถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือทำอัลบั้มครอบครัวช่วงเทศกาล.
- เชื่อมต่อไร้สายสะดวก: สั่งพิมพ์งาน สแกน หรือถ่ายเอกสารได้ง่ายๆ ผ่าน Wi-Fi จากมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ไม่ต้องเดินไปเสียบสายให้วุ่นวาย.
- ฟังก์ชัน All-in-One ครบครัน: บางรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันสแกนและถ่ายเอกสาร ทำให้เป็นเหมือนสำนักงานขนาดย่อมๆ อยู่ที่บ้าน จัดการเอกสารได้ครบวงจร.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, บ้านที่มีการพิมพ์เยอะ, สำนักงานขนาดเล็ก, WFH, ช่วงเทศกาลที่ต้องพิมพ์การ์ดอวยพร.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Ink Tank (ขวดหมึก) | สูงสุด 10/5 ipm (ISO) | สูงสุด 5760 x 1440 | USB, Wi-Fi | Print, Scan, Copy (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 5,000 หน้า | บางรุ่นรองรับ |
2. Canon PIXMA G Series (MegaTank)
- ชื่อแบรนด์: Canon
- ชื่อสินค้า: Canon PIXMA G Series (MegaTank)
- ราคาสินค้า: 5,000 - 18,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: Canon PIXMA G Series หรือที่รู้จักกันในชื่อ MegaTank เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เครื่องปริ้นระบบแทงค์หมึกที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ใช้งานง่าย และแน่นอนว่าเรื่องความประหยัดหมึกก็ไม่เป็นรองใคร ให้งานพิมพ์ที่คมชัด ทั้งตัวอักษรและรูปภาพ สีสันสดใสใกล้เคียงธรรมชาติ มีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการใช้งาน ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นสำหรับการพิมพ์ที่บ้าน ไปจนถึงรุ่นที่มีฟังก์ชันครบครันรองรับงานในสำนักงานขนาดเล็ก จุดเด่นอีกอย่างคือการตั้งค่าและการดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับคนที่ไม่ถนัดเรื่องเทคนิคซับซ้อน แต่อยากได้เครื่องปริ้นที่ไว้ใจได้.
- จุดเด่นสินค้า: ระบบ MegaTank ประหยัดสุดๆ, คุณภาพงานพิมพ์คมชัด สีสันสวยงาม, ดีไซน์ทันสมัย, ใช้งานง่าย, รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารคมกริบ: เหมาะสำหรับพิมพ์เอกสาร รายงาน หรือชีทเรียนที่มีตัวอักษรเยอะๆ ให้ตัวหนังสือที่คมชัด อ่านง่าย เหมือนพิมพ์จากโรงพิมพ์.
- พิมพ์รูปภาพคุณภาพสูง: ให้เฉดสีที่หลากหลายและความละเอียดสูง เหมาะกับการพิมพ์รูปถ่ายติดบัตร พิมพ์ภาพงานฝีมือ หรือภาพประทับใจในโอกาสพิเศษต่างๆ.
- เชื่อมต่อไร้สายผ่านแอปฯ: สั่งพิมพ์งานและจัดการเครื่องปริ้นได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน Canon PRINT บนมือถือ ทั้ง iOS และ Android.
- รองรับงานพิมพ์ที่หลากหลาย: สามารถพิมพ์บนกระดาษได้หลายประเภท ทั้งกระดาษธรรมดา กระดาษโฟโต้ หรือแม้แต่กระดาษอาร์ตบางชนิด.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ครอบครัว, นักเรียน นักศึกษา, ฟรีแลนซ์, สำนักงานขนาดเล็ก, คนที่ชอบพิมพ์รูปถ่ายเองที่บ้าน.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Ink Tank (ขวดหมึก) | สูงสุด 13/6.8 ipm (ISO) | สูงสุด 4800 x 1200 | USB, Wi-Fi | Print, Scan, Copy (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 3,000 หน้า | บางรุ่นรองรับ |
3. Brother DCP-T Series (Ink Tank)
- ชื่อแบรนด์: Brother
- ชื่อสินค้า: Brother DCP-T Series (Ink Tank)
- ราคาสินค้า: 4,000 - 12,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงความอึด ถึก ทน และใช้งานง่าย ต้องยกให้ Brother DCP-T Series เลยค่ะ ซีรีส์นี้เป็นเครื่องปริ้นระบบแทงค์หมึกที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่ต้องการเครื่องปริ้นที่ทำงานหนักได้ ไม่มีงอแง เรื่องความเร็วในการพิมพ์ก็ถือว่าทำได้ดี ให้งานพิมพ์ที่คมชัด ทั้งขาวดำและสี ดีไซน์อาจจะดูเรียบๆ แต่เน้นฟังก์ชันที่ครบครัน หลายรุ่นเป็นแบบ All-in-One ที่มีถาดป้อนเอกสารอัตโนมัติ (ADF) ทำให้สแกนหรือถ่ายเอกสารหลายๆ แผ่นได้สบายๆ เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับบ้านและสำนักงานที่เน้นความทนทานและฟังก์ชันครบครันในราคาที่จับต้องได้.
- จุดเด่นสินค้า: ทนทาน ใช้งานต่อเนื่องได้ดี, ระบบแทงค์หมึกประหยัด, ความเร็วพิมพ์ดี, มีรุ่น ADF สะดวกสแกน/ถ่ายเอกสาร, ตั้งค่าใช้งานง่าย.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์งานรวดเร็วสำหรับเอกสาร: เหมาะสำหรับพิมพ์เอกสารจำนวนมากในช่วงเวลาเร่งด่วน ให้ความเร็วที่น่าพอใจสำหรับการใช้งานทั่วไป.
- สแกนและถ่ายเอกสารได้ง่าย: หลายรุ่นมีถาด ADF ช่วยให้การสแกนหรือถ่ายเอกสารชุดใหญ่ๆ เป็นเรื่องง่าย ไม่ต้องวางทีละแผ่นให้เมื่อย.
- พิมพ์จากมือถือสะดวกสบาย: รองรับการสั่งพิมพ์งานแบบไร้สายผ่านแอปพลิเคชัน Brother iPrint&Scan ทำให้สั่งพิมพ์จากสมาร์ทโฟนได้โดยตรง.
- คุณภาพงานพิมพ์มาตรฐาน: ให้งานพิมพ์ตัวอักษรที่ชัดเจน และภาพสีสันกำลังดี เหมาะสำหรับงานเอกสารทั่วไปและรูปภาพที่ไม่เน้นความละเอียดสูงมาก.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงานขนาดเล็ก, WFH, คนที่ต้องการเครื่องปริ้นทนๆ, นักเรียน นักศึกษาที่ต้องสแกนเอกสารเยอะ.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Ink Tank (ขวดหมึก) | สูงสุด 17/16 ipm (ISO) | สูงสุด 1200 x 6000 | USB, Wi-Fi, LAN (บางรุ่น) | Print, Scan, Copy, Fax (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 2,000 หน้า | บางรุ่นรองรับ |
4. HP Smart Tank Series
- ชื่อแบรนด์: HP
- ชื่อสินค้า: HP Smart Tank Series
- ราคาสินค้า: 4,500 - 16,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: HP Smart Tank คือเครื่องปริ้นระบบแทงค์หมึกจากค่าย HP ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ช่วยให้เติมหมึกได้ง่ายและไม่หกเลอะเทอะ ตอบโจทย์คนที่กังวลเรื่องความยุ่งยากในการเติมหมึก ให้คุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัด ทั้งข้อความและกราฟิก สีสันสดใสสมจริง มีความเร็วในการพิมพ์ที่น่าพอใจสำหรับเครื่องประเภทนี้ หลายรุ่นเป็น All-in-One พร้อมฟังก์ชันหลากหลาย และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่านแอปฯ HP Smart ที่ใช้งานง่ายมากๆ เหมาะกับบ้านและสำนักงานที่ต้องการเครื่องปริ้นที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย และได้งานพิมพ์คุณภาพดี.
- จุดเด่นสินค้า: ระบบเติมหมึกง่าย ไม่หก, คุณภาพงานพิมพ์คมชัด สีสวย, รองรับ HP Smart App ใช้งานสะดวก, ประหยัดค่าใช้จ่ายหมึก, ดีไซน์ทันสมัย.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารและรูปภาพคุณภาพสูง: ให้งานพิมพ์ที่มีความละเอียดสูง ทั้งตัวอักษรที่คมชัด และรูปภาพที่มีสีสันสดใส เหมาะกับงานนำเสนอหรือเอกสารที่ต้องการความน่าเชื่อถือ.
- สั่งพิมพ์จากที่ไหนก็ได้: ด้วย HP Smart App สามารถสั่งพิมพ์งาน สแกนเอกสาร หรือตรวจสอบสถานะเครื่องปริ้นได้จากทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต สะดวกมากๆ สำหรับคนยุคใหม่.
- สแกนและถ่ายเอกสารรวดเร็ว: หลายรุ่นมีฟังก์ชัน All-in-One พร้อมถาด ADF ช่วยให้สแกนหรือถ่ายเอกสารจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
- ประหยัดพลังงาน: ออกแบบมาให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดค่าไฟได้ในระยะยาว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: บ้าน, สำนักงานขนาดเล็ก, WFH, ฟรีแลนซ์, คนที่ชอบเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันบนมือถือ.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Ink Tank (ขวดหมึก) | สูงสุด 15/9 ipm (ISO) | สูงสุด 4800 x 1200 | USB, Wi-Fi, Wi-Fi Direct | Print, Scan, Copy, Fax (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 1,500 หน้า | บางรุ่นรองรับ |
5. Brother HL-L Series (Laser)
- ชื่อแบรนด์: Brother
- ชื่อสินค้า: Brother HL-L Series (Laser Printer)
- ราคาสินค้า: 3,000 - 15,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: สำหรับคนที่เน้นความเร็วในการพิมพ์เอกสารขาวดำเป็นหลัก และต้องการความคมชัดระดับมืออาชีพ ต้องมองหาเครื่องปริ้นเลเซอร์อย่าง Brother HL-L Series เลยค่ะ จุดเด่นคือความเร็วที่เหนือกว่าเครื่องอิงค์เจ็ทอย่างเห็นได้ชัด และตัวอักษรที่พิมพ์ออกมาคมกริบ ไม่เลอะเทอะ เหมาะกับงานเอกสารสำคัญๆ ในสำนักงาน หรือคนที่ต้องพิมพ์รายงาน บทความจำนวนมากๆ ตัวเครื่องทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน ค่าใช้จ่ายต่อแผ่นเมื่อเทียบกับปริมาณการพิมพ์ที่เยอะก็ถือว่าคุ้มค่า มีทั้งรุ่นเน้นพิมพ์อย่างเดียว และรุ่น Multifunction ที่สแกนและถ่ายเอกสารได้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสำนักงานและคนทำงานที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพงานพิมพ์เอกสารที่สม่ำเสมอ.
- จุดเด่นสินค้า: ความเร็วพิมพ์สูงมาก, ตัวอักษรคมชัด, ทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่อง, เหมาะพิมพ์เอกสารขาวดำปริมาณมาก, ค่าใช้จ่ายต่อแผ่นต่ำ (เมื่อพิมพ์เยอะ).
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารรวดเร็ว: ทำงานพิมพ์เอกสารขาวดำจำนวนมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาได้เยอะ เหมาะกับช่วงเวลาเร่งด่วนในออฟฟิศ.
- คุณภาพงานพิมพ์เอกสารระดับมืออาชีพ: ให้ตัวอักษรที่ดำสนิท คมชัด เหมาะสำหรับพิมพ์จดหมาย เอกสารทางการ หรือรายงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ.
- รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ: หลายรุ่นมีฟังก์ชันนี้ ช่วยให้พิมพ์เอกสารทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้โดยอัตโนมัติ ประหยัดกระดาษและเวลา.
- ใช้งานร่วมกันในเครือข่าย: สามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายในสำนักงาน ทำให้คอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องสามารถใช้งานเครื่องปริ้นร่วมกันได้.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงาน, ออฟฟิศ, คนที่พิมพ์เอกสารขาวดำเยอะมาก, WFH ที่เน้นงานเอกสาร.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Toner (ผงหมึก) | สูงสุด 34 ppm (ขาวดำ) | สูงสุด 1200 x 1200 | USB, LAN, Wi-Fi (แล้วแต่รุ่น) | Print, Scan, Copy, Fax (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 15,000 หน้า | บางรุ่นรองรับ |
6. HP LaserJet Pro Series
- ชื่อแบรนด์: HP
- ชื่อสินค้า: HP LaserJet Pro Series
- ราคาสินค้า: 5,000 - 20,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: HP LaserJet Pro เป็นอีกหนึ่งซีรีส์เครื่องปริ้นเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ใช้งานธุรกิจและสำนักงาน ด้วยประสิทธิภาพในการพิมพ์ที่รวดเร็ว และคุณภาพงานพิมพ์เอกสารขาวดำที่คมชัดระดับมืออาชีพ ตอบโจทย์งานที่ต้องการความแม่นยำและความเร็วสูง ตัวเครื่องมีความทนทาน ใช้งานได้ต่อเนื่อง รองรับปริมาณงานพิมพ์ต่อเดือนได้เยอะกว่าเครื่องอิงค์เจ็ททั่วไป มีฟังก์ชันการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้ง USB, LAN, และ Wi-Fi บางรุ่นมาพร้อมฟังก์ชัน All-in-One ที่ครบครัน เหมาะสำหรับสำนักงานทุกขนาดที่ต้องการเครื่องปริ้นคู่ใจที่ทำงานได้รวดเร็วและให้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ.
- จุดเด่นสินค้า: ความเร็วพิมพ์สูง, คุณภาพงานพิมพ์เอกสารคมชัด, ทนทาน เหมาะงานหนัก, มีรุ่นรองรับ Wi-Fi, ฟังก์ชันครบครันในรุ่น MFP.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารจำนวนมากอย่างรวดเร็ว: เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการพิมพ์เอกสารปริมาณมากๆ ในเวลาจำกัด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน.
- ให้งานพิมพ์ตัวอักษรที่คมและชัดเจน: ตัวอักษรที่พิมพ์ออกมามีความคมชัดสูง เหมาะสำหรับเอกสารสำคัญที่ต้องการความละเอียดและอ่านง่าย.
- รองรับการทำงานร่วมกับหลายอุปกรณ์: เชื่อมต่อและสั่งพิมพ์งานจากคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้หลากหลายช่องทาง.
- ฟังก์ชันรักษาความปลอดภัย: บางรุ่นมีฟังก์ชันด้านความปลอดภัย ช่วยปกป้องข้อมูลเอกสารสำคัญขององค์กร.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงาน, องค์กร, ธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง, WFH ที่ต้องพิมพ์เอกสารจำนวนมาก.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Toner (ผงหมึก) | สูงสุด 30 ppm (ขาวดำ) | สูงสุด 1200 x 1200 | USB, LAN, Wi-Fi | Print, Scan, Copy, Fax (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 20,000 หน้า | บางรุ่นรองรับ |
7. Canon imageCLASS Series (Laser)
- ชื่อแบรนด์: Canon
- ชื่อสินค้า: Canon imageCLASS Series (Laser Printer)
- ราคาสินค้า: 4,000 - 18,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: Canon imageCLASS Series เป็นเครื่องปริ้นเลเซอร์ที่โดดเด่นเรื่องความเร็วและความคมชัดของงานพิมพ์เอกสารขาวดำ เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการเครื่องปริ้นที่ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ตัวอักษรที่ได้มีความคมกริบ อ่านง่าย เหมาะสำหรับเอกสารทางธุรกิจ รายงาน หรือเอกสารสำคัญต่างๆ มีหลากหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการ ตั้งแต่รุ่นพิมพ์อย่างเดียวไปจนถึงรุ่น Multifunction ที่ครบวงจร รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้งแบบมีสายและไร้สาย เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสำนักงานและธุรกิจที่มองหาเครื่องปริ้นเลเซอร์ที่ไว้ใจได้และให้งานพิมพ์คุณภาพสูง.
- จุดเด่นสินค้า: ความเร็วในการพิมพ์เอกสารสูง, คุณภาพงานพิมพ์คมชัด แม่นยำ, เหมาะกับงานเอกสารธุรกิจ, มีรุ่น Multifunction ให้เลือก, การเชื่อมต่อหลากหลาย.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ: ทำงานพิมพ์ปริมาณมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว ลดระยะเวลารอคอยงานพิมพ์ในสำนักงาน.
- ให้ตัวอักษรที่คมชัดระดับมืออาชีพ: เหมาะสำหรับพิมพ์เอกสารที่ต้องความคมชัดและความน่าเชื่อถือ เช่น เอกสารสัญญา หรือใบแจ้งหนี้.
- สแกนและถ่ายเอกสารคุณภาพดี: รุ่น Multifunction สามารถสแกนและถ่ายเอกสารได้อย่างรวดเร็วและให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน.
- รองรับการพิมพ์จากอุปกรณ์เคลื่อนที่: สั่งพิมพ์งานจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้สะดวกผ่าน AirPrint หรือ Mopria Print Service.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงาน, ธุรกิจ, องค์กร, งานที่เน้นการจัดการเอกสาร.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Toner (ผงหมึก) | สูงสุด 28 ppm (ขาวดำ) | สูงสุด 1200 x 1200 | USB, LAN, Wi-Fi (แล้วแต่รุ่น) | Print, Scan, Copy, Fax (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 10,000 หน้า | บางรุ่นรองรับ |
8. Epson WorkForce Pro Series (Business Inkjet)
- ชื่อแบรนด์: Epson
- ชื่อสินค้า: Epson WorkForce Pro Series (Business Inkjet)
- ราคาสินค้า: 8,000 - 30,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: Epson WorkForce Pro เป็นเครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ เน้นความเร็วในการพิมพ์ที่ใกล้เคียงเครื่องเลเซอร์ แต่ยังคงจุดเด่นเรื่องคุณภาพงานพิมพ์สีที่ดีของอิงค์เจ็ทไว้ได้ ใช้เทคโนโลยี PrecisionCore ที่ช่วยให้พิมพ์งานได้รวดเร็วและแม่นยำ ประหยัดพลังงานกว่าเครื่องเลเซอร์ และลดของเสียจากการเปลี่ยนตลับหมึกได้เยอะ เหมาะสำหรับสำนักงานที่ต้องการเครื่องปริ้นที่พิมพ์งานได้หลากหลาย ทั้งเอกสารและงานกราฟิกความละเอียดสูง พร้อมความเร็วที่ตอบโจทย์การทำงานในองค์กร.
- จุดเด่นสินค้า: ความเร็วพิมพ์สูงเทียบเท่าเลเซอร์, คุณภาพงานพิมพ์สีดีเยี่ยม, ประหยัดพลังงานกว่าเลเซอร์, ลดของเสีย, เหมาะสำหรับธุรกิจ.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารและงานกราฟิกรวดเร็ว: ตอบโจทย์งานที่ต้องการความเร็ว ทั้งเอกสารตัวอักษรธรรมดาและงานที่มีรูปภาพหรือกราฟิกประกอบ.
- ให้งานพิมพ์สีที่คมชัดและแม่นยำ: เหมาะสำหรับพิมพ์เอกสารทางการตลาด พรีเซนเทชั่น หรือเอกสารที่ต้องการความถูกต้องของสี.
- รองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายและไร้สาย: สะดวกในการใช้งานร่วมกันในสำนักงาน และสั่งพิมพ์จากอุปกรณ์ต่างๆ ได้ง่าย.
- ฟังก์ชันการจัดการเอกสารขั้นสูง: บางรุ่นมีถาด ADF แบบ Duplex สแกนเอกสารสองหน้าได้ในรอบเดียว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงานขนาดกลางถึงใหญ่, องค์กร, ธุรกิจที่เน้นงานพิมพ์หลากหลาย.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Ink Cartridge/Ink Pack | สูงสุด 26 ipm (ISO) | สูงสุด 4800 x 1200 | USB, LAN, Wi-Fi | Print, Scan, Copy, Fax (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 50,000 หน้า | รองรับทุกรุ่น |
9. HP DeskJet Ink Advantage Series
- ชื่อแบรนด์: HP
- ชื่อสินค้า: HP DeskJet Ink Advantage Series
- ราคาสินค้า: 1,800 - 5,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: สำหรับใครที่งบไม่เยอะมาก แต่อยากได้เครื่องปริ้นที่พิมพ์งานได้ดี สีสันสวยงาม และหมึกราคาไม่แรงเกินไป ต้องดู HP DeskJet Ink Advantage เลยค่ะ ซีรีส์นี้เป็นเครื่องอิงค์เจ็ทที่เน้นความคุ้มค่าเรื่องตลับหมึกที่ราคาเป็นมิตร หาซื้อง่าย ให้คุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัดพอสมควรสำหรับงานทั่วไป ทั้งเอกสารและรูปภาพ มีดีไซน์กะทัดรัด เหมาะกับพื้นที่จำกัด หลายรุ่นรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย สั่งพิมพ์จากมือถือได้สะดวก เป็นตัวเลือกเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือบ้านที่ไม่ได้ใช้งานหนักมาก แต่ต้องการเครื่องปริ้นติดบ้านไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน.
- จุดเด่นสินค้า: ตลับหมึกราคาประหยัด, หาซื้อง่าย, คุณภาพงานพิมพ์ดีสำหรับงานทั่วไป, ดีไซน์กะทัดรัด, ราคาเข้าถึงง่าย.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารและรูปภาพทั่วไป: เหมาะสำหรับพิมพ์รายงาน ชีทเรียน เอกสารสมัครงาน หรือรูปถ่ายขนาดเล็กสำหรับใช้งานทั่วไป.
- เชื่อมต่อไร้สาย: สามารถสั่งพิมพ์งานจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้ง่ายผ่าน Wi-Fi ทำให้ใช้งานสะดวกสบาย.
- ฟังก์ชัน Copy และ Scan: บางรุ่นเป็นแบบ All-in-One สามารถถ่ายเอกสารและสแกนเอกสารได้ ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐานในบ้าน.
- ติดตั้งและใช้งานง่าย: การตั้งค่าเริ่มต้นและการใช้งานไม่ซับซ้อน เหมาะกับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, ใช้ที่บ้าน, WFH (งานพิมพ์ไม่หนัก), คนที่มองหาเครื่องปริ้นราคาเริ่มต้น.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Ink Cartridge | สูงสุด 8/5.5 ipm (ISO) | สูงสุด 4800 x 1200 | USB, Wi-Fi | Print, Scan, Copy (แล้วแต่รุ่น) | สูงสุด 1,000 หน้า | ไม่มี |
10. Brother MFC Series (Laser Multifunction)
- ชื่อแบรนด์: Brother
- ชื่อสินค้า: Brother MFC Series (Laser Multifunction Printer)
- ราคาสินค้า: 7,000 - 25,000 บาท (ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชัน)
- คำอธิบายสินค้า: Brother MFC Series เป็นเครื่องปริ้นเลเซอร์แบบ Multifunction ที่ออกแบบมาสำหรับสำนักงานที่ต้องการเครื่องปริ้นที่ครบวงจร ทำงานได้หลากหลาย ทั้งพิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ จุดเด่นคือความเร็วในการพิมพ์เอกสารขาวดำที่สูงมาก พร้อมคุณภาพที่คมชัด ทนทาน ใช้งานต่อเนื่องได้สบายๆ หลายรุ่นมีถาด ADF และฟังก์ชัน Duplex ช่วยให้จัดการเอกสารจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย และมีฟังก์ชันด้านความปลอดภัย เหมาะสำหรับสำนักงานที่ต้องการเครื่องปริ้นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในเครื่องเดียว.
- จุดเด่นสินค้า: ครบทุกฟังก์ชัน (Print, Scan, Copy, Fax), ความเร็วพิมพ์เลเซอร์สูง, คุณภาพงานเอกสารคมชัด, ทนทาน เหมาะงานหนัก, มีถาด ADF และ Duplex.
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- จัดการเอกสารครบวงจร: สามารถพิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และส่งแฟกซ์ได้ในเครื่องเดียว ตอบโจทย์การทำงานในสำนักงานยุคใหม่.
- สแกนและถ่ายเอกสารจำนวนมากอัตโนมัติ: ด้วยถาด ADF สามารถป้อนเอกสารหลายๆ แผ่นเพื่อสแกนหรือถ่ายเอกสารได้อย่างต่อเนื่อง.
- พิมพ์เอกสารสองหน้าอัตโนมัติ: ช่วยประหยัดกระดาษและลดเวลาในการจัดการเอกสาร.
- เชื่อมต่อเครือข่ายและไร้สาย: ทำให้ใช้งานเครื่องปริ้นร่วมกันได้อย่างสะดวกในสำนักงาน และสั่งงานจากอุปกรณ์พกพาได้.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงาน, ธุรกิจ, ออฟฟิศ, งานที่ต้องการฟังก์ชันครบครัน.
ประเภทหมึก | ความเร็วพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | ความละเอียด (DPI) | การเชื่อมต่อ | ฟังก์ชัน | รอบการทำงานต่อเดือน (Duty Cycle) | รองรับงานพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ |
---|
Toner (ผงหมึก) | สูงสุด 40 ppm (ขาวดำ) | สูงสุด 1200 x 1200 | USB, LAN, Wi-Fi | Print, Scan, Copy, Fax | สูงสุด 30,000 หน้า | รองรับทุกรุ่น |
เคล็ดลับเลือกซื้อเครื่องปริ้นคู่ใจ ปี 2025 ให้ตรงใจ ใช่เลย!
เอาล่ะ หลังจากดูโผเครื่องปริ้นน่าสอยไปแล้ว ทีนี้มาถึงช่วงสำคัญ! จะเลือกเครื่องปริ้นทั้งที มันไม่ได้ดูแค่ว่ายี่ห้อไหนดี รุ่นไหนฮิตนะจ๊ะ มันต้องดูให้ครบทุกมุม เพื่อให้ได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานของเรามากที่สุด เหมือนเลือกคู่ชีวิตนั่นแหละ ต้องพิจารณาหลายๆ อย่างหน่อย มาดูกันว่ามีเคล็ดลับอะไรบ้างที่เจ๊อยากจะบอกต่อ!
- 1. รู้จักปริมาณและประเภทงานพิมพ์ของตัวเองให้ดีก่อน:
อันดับแรกเลยนะตัวเธอ ต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าปกติแล้วเราพิมพ์งานบ่อยแค่ไหน? ปริมาณเยอะหรือน้อย? แล้วเน้นพิมพ์อะไร? พิมพ์เอกสารขาวดำตัวอักษรเยอะๆ หรือพิมพ์รูปภาพสีสันสดใส? หรือว่าพิมพ์ผสมๆ กันไปหมดเลย? ถ้าเน้นพิมพ์เอกสารขาวดำปริมาณมหาศาลแบบว่าต้องพิมพ์รายงานเป็นเล่มๆ ชีทเรียนเป็นตั้งๆ หรือเอกสารออฟฟิศที่วันนึงเป็นร้อยๆ หน้า เนี่ย เครื่องปริ้นเลเซอร์ คือเพื่อนแท้ของคุณเลยจ้ะ เพราะเค้าพิมพ์ได้เร็วมากกกก ตัวอักษรคมกริบ ไม่มีเลอะ แถมค่าใช้จ่ายต่อแผ่นเมื่อพิมพ์เยอะๆ ก็ถูกกว่าด้วย, แต่ถ้าเน้นพิมพ์รูปภาพสวยๆ พิมพ์งานกราฟิกที่มีสีสัน หรือพิมพ์งานไม่เยอะมาก แค่วันละไม่กี่แผ่น ไม่กี่ครั้งต่อสัปดาห์ เนี่ย เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ท น่าจะตอบโจทย์กว่า เพราะเค้าให้คุณภาพงานพิมพ์สีที่ดีกว่า เก็บรายละเอียดได้ดีกว่า เหมาะกับกระดาษโฟโต้ หรือกระดาษแบบพิเศษอื่นๆ, ส่วนเรื่องค่าหมึก ถ้าพิมพ์เยอะมากๆ แล้วเลือกอิงค์เจ็ทแบบตลับ อาจจะต้องเตรียมเงินซื้อตลับหมึกบ่อยหน่อย แต่ถ้าเป็นระบบแทงค์หมึก (Ink Tank) อันนี้ก็จะประหยัดกว่าเยอะเลย เพราะเติมหมึกแบบขวดเอา ราคาถูกกว่าตลับมาก, การรู้ปริมาณและประเภทงานพิมพ์ของตัวเองเนี่ย จะช่วยจำกัดตัวเลือกและทำให้เราได้เครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการจริงๆ ไม่ต้องเสียเงินไปกับฟังก์ชันที่เราไม่ได้ใช้ หรือได้เครื่องที่สเปคไม่พอรองรับงานของเรานะจ๊ะ, สำรวจตัวเองก่อนช้อป คือหัวใจสำคัญเลยค่า.
- 2. สปีดสำคัญพอๆ กับความคมชัด เลือกให้บาลานซ์กับงบประมาณ:
หัวข้อบทความเราบอกชัดว่า "พิมพ์เร็ว คมชัด ทันใจ" ใช่ไหมล่ะ? นั่นแหละ! สปีดกับความคมชัดเป็นสองสิ่งที่ต้องพิจารณาควบคู่กันไป แต่ก็ต้องดูงบประมาณในกระเป๋าด้วยนะจ๊ะ ความเร็วในการพิมพ์ เค้าจะวัดเป็นจำนวนแผ่นต่อนาที (PPM - Pages Per Minute หรือ IPM - Images Per Minute) ยิ่งตัวเลขเยอะก็ยิ่งพิมพ์เร็ว ถ้าใครใจร้อน ต้องได้งานด่วนๆ ตลอดเวลา หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีคนใช้งานเครื่องปริ้นพร้อมกันหลายคน ความเร็วในการพิมพ์คือสิ่งสำคัญที่ต้องดูเลย เครื่องเลเซอร์ส่วนใหญ่จะเร็วกว่าอิงค์เจ็ท แต่เครื่องอิงค์เจ็ทสมัยใหม่บางรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจ (อย่าง Epson WorkForce Pro) ก็มีความเร็วที่น่าทึ่งใกล้เคียงเลเซอร์แล้วนะ ส่วน ความคมชัด เค้าดูที่ความละเอียดในการพิมพ์ (DPI - Dots Per Inch) ยิ่งตัวเลข DPI สูงเท่าไหร่ งานพิมพ์ก็จะยิ่งละเอียด คมชัดมากขึ้นเท่านั้น ถ้าพิมพ์เอกสารตัวอักษรทั่วไป ความละเอียดมาตรฐานก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเน้นพิมพ์รูปภาพ งานกราฟิก หรือเอกสารที่ต้องการรายละเอียดสูงๆ ก็ควรเลือกเครื่องที่มี DPI สูงๆ หน่อย อย่างไรก็ตาม ยิ่งสเปคสูง (ทั้งเร็วและคมชัด) ราคาก็มีแนวโน้มจะสูงขึ้นตามไปด้วยนะจ๊ะ ต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่าความเร็วและความคมชัดระดับไหนที่เราต้องการจริงๆ และอยู่ในงบที่เราตั้งไว้ เพื่อให้ได้เครื่องที่คุ้มค่าที่สุดจ้า บางทีสเปคกลางๆ อาจจะเพียงพอต่อการใช้งานของเราแล้วก็ได้ ไม่ต้องจ่ายแพงเกินจำเป็นเนอะ.
- 3. ฟังก์ชันเสริมและการเชื่อมต่อ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล:
เครื่องปริ้นสมัยนี้ไม่ได้มีแค่หน้าที่ "ปริ้น" อย่างเดียวนะจ๊ะ หลายรุ่นเป็นแบบ All-in-One (AIO) ที่รวมร่างการพิมพ์ การสแกน และการถ่ายเอกสารไว้ในเครื่องเดียว บางรุ่นมีฟังก์ชันแฟกซ์ด้วย ซึ่งสะดวกมากๆ ถ้าที่บ้านหรือที่ทำงานมีพื้นที่จำกัด ไม่อยากวางเครื่องหลายๆ ตัว แถมยังมีฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นอีกเพียบ เช่น การพิมพ์สองหน้าอัตโนมัติ (Auto Duplex Printing) ช่วยประหยัดกระดาษและเวลาในการพลิกกระดาษเอง, ถาดป้อนเอกสารอัตโนมัติ (ADF - Automatic Document Feeder) สำหรับสแกนหรือถ่ายเอกสารหลายๆ แผ่นได้ทีเดียว ไม่ต้องยกฝาสแกนขึ้นลงบ่อยๆ, และที่สำคัญสุดๆ ในยุคนี้คือเรื่อง การเชื่อมต่อไร้สาย (Wireless Connectivity) เครื่องปริ้นส่วนใหญ่รองรับ Wi-Fi ทำให้เราสามารถสั่งพิมพ์งาน สแกน หรือเช็คสถานะเครื่องได้จากคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต ผ่านแอปพลิเคชันของแต่ละยี่ห้อ (เช่น Epson iPrint&Scan, Canon PRINT, HP Smart),, ไม่ว่าคุณจะนั่งทำงานอยู่มุมไหนของบ้าน หรือจะสั่งพิมพ์งานจากนอกบ้านเตรียมไว้ เครื่องปริ้นที่รองรับ Wi-Fi Direct หรือเชื่อมต่อผ่าน Cloud ได้เนี่ย สะดวกสบาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่สุดๆ ไปเลยจ้า บางรุ่นอาจจะมีช่องเสียบ USB Direct Print หรือรองรับการพิมพ์ผ่านสาย LAN ด้วย ก็เลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและอุปกรณ์ที่เรามีนะจ๊ะ.
- 4. ค่าใช้จ่ายระยะยาว (หมึกพิมพ์/ผงหมึก) เรื่องนี้ต้องคิดให้ดี:
หลายคนมักจะมองแค่ราคาเครื่องปริ้นตอนซื้อครั้งแรก แต่ลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายระยะยาว ซึ่งก็คือค่าหมึกพิมพ์หรือผงหมึกนั่นเองจ้า! เรื่องนี้สำคัญมากนะ เพราะบางทีเครื่องปริ้นราคาถูกมากๆ แต่อาจจะใช้ตลับหมึกที่มีปริมาณน้อย หรือตลับหมึกมีราคาสูง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อแผ่นสูงตามไปด้วย, ถ้าเราพิมพ์งานเยอะๆ ในระยะยาวอาจจะไม่คุ้มได้นะจ๊ะ โดยทั่วไปแล้ว เครื่องปริ้นระบบแทงค์หมึก (Ink Tank) จะมีค่าใช้จ่ายต่อแผ่นถูกที่สุด เมื่อเทียบกับเครื่องอิงค์เจ็ทแบบตลับ เพราะใช้หมึกแบบขวดที่ราคาถูกกว่าและเติมได้ในปริมาณที่เยอะกว่า, ส่วน เครื่องปริ้นเลเซอร์ จะใช้ผงหมึก (Toner) ซึ่งโดยรวมแล้วผงหมึกมักจะมีอายุการใช้งานนานกว่าตลับหมึกของอิงค์เจ็ท ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อแผ่นของเลเซอร์ก็มักจะถูกกว่าอิงค์เจ็ทแบบตลับเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าเน้นพิมพ์ขาวดำ ก่อนตัดสินใจซื้อ ลองเช็คราคาตลับหมึกหรือขวดหมึกของรุ่นที่เราสนใจด้วยนะจ๊ะ แล้วประเมินดูว่าปริมาณงานพิมพ์ของเราประมาณไหน จะได้คำนวณค่าใช้จ่ายระยะยาวได้คร่าวๆ บางยี่ห้ออาจจะมีโปรแกรมสมัครสมาชิกเพื่อรับหมึกพิมพ์แบบอัตโนมัติ (อย่าง HP Instant Ink) ซึ่งก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยประหยัดได้นะ. อย่าลืมคิดถึงเรื่องนี้ด้วยล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าเจ๊ไม่เตือน!
คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับเครื่องปริ้น
- Q: เครื่องปริ้นแบบ Ink Tank (แทงค์หมึก) ต่างจากแบบใช้ตลับหมึกยังไง?
A: เครื่องปริ้นแบบ Ink Tank จะมีช่องสำหรับเติมหมึกที่เป็นขวด ซึ่งหมึกแบบขวดจะมีราคาถูกกว่าและมีปริมาณมากกว่าตลับหมึก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อแผ่นถูกลงมาก เหมาะสำหรับคนที่พิมพ์งานเยอะๆ ส่วนแบบใช้ตลับหมึกจะสะดวกในการเปลี่ยน แต่ค่าหมึกต่อแผ่นจะแพงกว่า เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยได้พิมพ์ หรือพิมพ์ในปริมาณน้อยค่ะ,
- Q: เครื่องปริ้น Laser (เลเซอร์) เหมาะกับใคร?
A: เครื่องปริ้นเลเซอร์เหมาะกับคนที่เน้นพิมพ์เอกสารขาวดำเป็นหลัก และต้องการความเร็วในการพิมพ์สูง รวมถึงคุณภาพงานพิมพ์ตัวอักษรที่คมชัดมากๆ เหมาะสำหรับใช้ในสำนักงาน ออฟฟิศ หรือคนที่ต้องพิมพ์เอกสารจำนวนมากค่ะ,
- Q: ถ้าอยากพิมพ์รูปสวยๆ ควรเลือกเครื่องปริ้นแบบไหน?
A: ถ้าเน้นพิมพ์รูปภาพสวยๆ สีสันสดใส เก็บรายละเอียดได้ดี ควรเลือกเครื่องปริ้นแบบ Inkjet (อิงค์เจ็ท) โดยเฉพาะรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับพิมพ์ภาพถ่าย หรือรุ่นที่มีจำนวนสีหมึกหลายสี (เช่น 6 สี) จะให้คุณภาพงานพิมพ์ภาพที่ดีกว่าค่ะ,
- Q: ฟังก์ชัน All-in-One (AIO) จำเป็นไหม?
A: ฟังก์ชัน All-in-One ที่รวมการพิมพ์ สแกน ถ่ายเอกสาร และแฟกซ์ไว้ในเครื่องเดียว จะสะดวกมากๆ ถ้าคุณมีพื้นที่จำกัด และต้องการใช้งานหลายฟังก์ชันนี้บ่อยๆ แต่ถ้าคุณต้องการแค่พิมพ์อย่างเดียว การเลือกเครื่องปริ้นแบบ Print Only อาจจะช่วยประหยัดงบประมาณได้ค่ะ
- Q: ควรเลือกเครื่องปริ้นที่รองรับ Wi-Fi ไหม?
A: เครื่องปริ้นที่รองรับ Wi-Fi ช่วยให้คุณสั่งพิมพ์งานจากคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้สะดวกมากๆ โดยไม่ต้องเสียบสายให้ยุ่งยาก ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัลที่ใช้งานอุปกรณ์หลากหลาย ถ้ามีงบประมาณพอสมควร การเลือกเครื่องที่มี Wi-Fi จะเพิ่มความสะดวกในการใช้งานขึ้นเยอะเลยค่ะ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง