สวัสดีค่าาา สายปาร์ตี้ สายเอ็นเตอร์เทน เตรียมเสียงให้พร้อม! ปี 2025 นี้ถ้ายังไม่มีลำโพงคาราโอเกะดีๆ ไว้ติดบ้าน ถือว่าพลาดมาก! เพราะยุคนี้อะไรๆ ก็สะดวกขึ้นเยอะ ไม่ต้องไปร้านให้เปลืองตังค์ แค่มีลำโพงคู่ใจตัวเดียว ก็เนรมิตบ้านให้กลายเป็นห้องคาราโอเกะส่วนตัว ร้องได้ยันเช้า ไม่ต้องกลัวร้านปิด แถมช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ หรือวันหยุดยาว ครอบครัวมารวมตัวกัน จะได้มีกิจกรรมมันส์ๆ ทำร่วมกันไงล่ะ บทความนี้เจ๊จะพาไปส่อง 10 ลำโพงคาราโอเกะสุดฮิต เสียงกระหึ่มถึงใจ ร้องสนุก ปาร์ตี้มันส์ แห่งปี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง ครบทุกรสชาติ พร้อมบอกเคล็ดลับการเลือกซื้อให้โดนใจ ถ้าพร้อมแล้วก็... ไปดูกันเล้ยยย!
1. PartyMaker – MegaSound 3000
- ชื่อแบรนด์: PartyMaker
- ชื่อสินค้า: MegaSound 3000
- ราคาสินค้า: 15,000 - 20,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: MegaSound 3000 คือเจ้าพ่อแห่งวงการปาร์ตี้ ด้วยพลังเสียงที่อลังการงานสร้าง เบสแน่นสะเทือนถึงทรวง แหลมใสพุ่งทะลุเพดาน มาพร้อมไมโครโฟนไร้สายคู่คุณภาพดี ร้องเพลงได้แบบไม่กลัวหลงคีย์ มีไฟ LED รอบตัวลำโพงที่ปรับเปลี่ยนตามจังหวะเพลง เพิ่มบรรยากาศให้ปาร์ตี้สนุกขึ้นอีกเท่าตัว ดีไซน์ทันสมัย เคลื่อนย้ายสะดวก มีล้อลากไปได้ทุกที่ จะปาร์ตี้ในบ้าน นอกบ้าน หรือริมสระ ก็เอาอยู่หมด เหมาะกับบ้านที่ชอบจัดงานเลี้ยง สังสรรค์บ่อยๆ หรือออร์แกไนเซอร์มืออาชีพที่ต้องการลำโพงคุณภาพสูง
- จุดเด่นสินค้า: พลังเสียงสุดกระหึ่ม, เบสแน่นสะใจ, ไฟ LED อลังการตามจังหวะ, ไมโครโฟนไร้สายคุณภาพเยี่ยม, เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยล้อลาก
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.3: สตรีมเพลงจากมือถือหรือแท็บเล็ตได้อย่างเสถียร ไม่มีสะดุด แม้จะเดินไปรับลมที่ระเบียงบ้าน ก็ยังควบคุมเพลงได้สบายๆ ไม่ต้องลากสายให้เกะกะ
- ฟังก์ชัน TWS (True Wireless Stereo): จับคู่ลำโพง MegaSound 3000 สองตัวเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มพลังเสียงและความกว้างของมิติเสียง ให้ปาร์ตี้ของคุณยิ่งใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า จัดเต็มได้ทั้งในห้องโถงหรือพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่
- ปรับเอฟเฟกต์เสียงร้อง: มีปุ่มปรับ Echo, Reverb, และ Treble/Bass สำหรับเสียงไมโครโฟน ช่วยให้เสียงร้องของคุณมีมิติ นุ่มนวล หรือจะปรับให้ก้องเหมือนร้องในฮอลล์คอนเสิร์ตก็ได้ตามใจชอบ
- ช่องต่อครบครัน: รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB, SD Card, AUX, และมีช่องต่อกีตาร์ ให้เพื่อนๆ ที่เป็นนักดนตรีได้โชว์ฝีมือ หรือจะเสียบอุปกรณ์อื่นๆ ก็ทำได้ง่ายๆ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: จัดปาร์ตี้ที่บ้าน, งานเลี้ยงสังสรรค์ขนาดกลางถึงใหญ่, งานอีเวนต์กลางแจ้ง, สายร้องเพลงที่ต้องการคุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ, วันหยุดยาว, เทศกาลต่างๆ
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ขนาดดอกลำโพง | น้ำหนัก | ไฟปาร์ตี้ |
---|
300W | Bluetooth 5.3, AUX, USB, SD Card, Guitar Input | ใช้งานได้ 8-10 ชั่วโมง | 2 (ไร้สาย) | Woofer 12" x2, Tweeter 3" x2 | ประมาณ 25 กก. | Dynamic LED Sync |
2. SonicBlast – PartyRock 500
- ชื่อแบรนด์: SonicBlast
- ชื่อสินค้า: PartyRock 500
- ราคาสินค้า: 8,000 - 12,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: PartyRock 500 คือเพื่อนคู่ใจสายปาร์ตี้ขนาดย่อมถึงกลาง ด้วยขนาดที่กะทัดรัดแต่ให้พลังเสียงเกินตัว เบสพอดีๆ ไม่แน่นจนเกินไป แหลมชัดฟังง่าย มีไฟ LED ในตัวที่เคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง สร้างสีสันให้งานได้ดี มาพร้อมไมโครโฟนไร้สาย 1 ตัว เหมาะสำหรับพกพาไปปาร์ตี้บ้านเพื่อน, งานวันเกิด, หรือกิจกรรมเล็กๆ นอกบ้าน น้ำหนักไม่มาก ยกไปไหนมาไหนสะดวก แถมแบตเตอรี่อึดใช้ได้นาน ร้องได้เพลินๆ ไม่ต้องกลัวแบตหมดไว
- จุดเด่นสินค้า: พกพาสะดวก, เสียงดังฟังชัด, มีไฟ LED ในตัว, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน, เหมาะกับปาร์ตี้ขนาดเล็ก-กลาง
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เชื่อมต่อ Bluetooth 5.0: เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างรวดเร็วและเสถียร เปิดเพลงจาก YouTube หรือแอปคาราโอเกะที่คุณชอบได้เลยทันที ไม่ต้องเสียเวลาต่อสายให้ยุ่งยาก
- ฟังก์ชัน Vocal Remover: สามารถกดตัดเสียงร้องต้นฉบับออกจากเพลงได้ ทำให้คุณร้องเพลงได้เต็มที่โดยไม่มีเสียงนักร้องเดิมมารบกวน เหมือนมีเพลงคาราโอเกะให้ร้องได้ไม่จำกัด
- ช่องเสียบไมโครโฟนเพิ่ม: นอกจากไมค์ไร้สายที่มาในชุด ยังมีช่องเสียบไมโครโฟนแบบมีสายให้อีก 1 ช่อง เผื่ออยากร้องคู่กับเพื่อนซี้ หรือจะใช้ไมค์โปรที่ตัวเองถนัดก็ได้
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ปาร์ตี้บ้านเพื่อน, งานวันเกิด, กิจกรรมครอบครัว, ปิกนิก, คนที่มองหาลำโพงคาราโอเกะพกพาง่าย
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ขนาดดอกลำโพง | น้ำหนัก | ไฟปาร์ตี้ |
---|
100W | Bluetooth 5.0, AUX, USB, Mic Input (Wired) | ใช้งานได้ 6-8 ชั่วโมง | 1 (ไร้สาย) + 1 (มีสาย) | Woofer 8" x1, Tweeter 2" x1 | ประมาณ 8 กก. | Built-in LED |
3. BassKing – ThunderBoom
- ชื่อแบรนด์: BassKing
- ชื่อสินค้า: ThunderBoom
- ราคาสินค้า: 18,000 - 25,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: ถ้าคุณคือสายเบส! ต้องนี่เลย ThunderBoom จาก BassKing สมชื่อจริงๆ เพราะเบสมาแบบกระหึ่ม หนักแน่น แรงปะทะดีเยี่ยม เหมือนมีซับวูฟเฟอร์ส่วนตัว เสียงกลางและแหลมก็ยังคงความคมชัด ไม่จมหาย มาพร้อมไมโครโฟนไร้สายคุณภาพสูง 2 ตัว ร้องได้พร้อมกันแบบดูโอ้ มีฟังก์ชันปรับเสียงที่หลากหลาย ดีไซน์ดุดัน แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงแนว EDM, Hip Hop หรือเพลงที่เน้นเบสหนักๆ แล้วอยากเอามาเปิดในปาร์ตี้ หรือจะใช้ซ้อมร้องเพลงที่ต้องการพลังเสียงเยอะๆ ก็เหมาะเลย
- จุดเด่นสินค้า: เบสทรงพลังขั้นสุด, เสียงดังสะใจ, ไมค์ไร้สาย 2 ตัว, ดีไซน์แข็งแรงทนทาน, เหมาะกับเพลงหนักๆ
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เทคโนโลยี Bass Boost X: เพิ่มพลังเบสให้ถึงขีดสุด เพียงแค่กดปุ่มเดียว เสียงเบสจะหนักแน่นขึ้นทันที ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในผับหรือคอนเสิร์ตมันส์ๆ เหมาะสำหรับช่วงเพลงที่ต้องเร่งจังหวะให้สุดเหวี่ยง
- ปรับ EQ เฉพาะแนวเพลง: มีโหมด EQ ให้เลือกหลากหลาย เช่น Pop, Rock, Jazz, Classic, และ EDM ช่วยปรับเสียงลำโพงให้เหมาะสมกับแนวเพลงที่คุณเปิด ทำให้ได้อรรถรสในการฟังเพลงและร้องคาราโอเกะที่ดียิ่งขึ้น
- ระบบป้องกันเสียงหอนขั้นสูง: ลดปัญหาเสียงหอนที่มักเกิดขึ้นเวลาใช้ไมโครโฟนใกล้ลำโพง ช่วยให้คุณร้องเพลงได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกังวลกับเสียงแหลมบาดหูที่ทำลายบรรยากาศ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายปาร์ตี้ที่เน้นเบสหนัก, ชอบฟังเพลง EDM/Hip Hop, จัดงานที่ต้องการพลังเสียงสูง, นักร้องที่ต้องการซ้อมพลังเสียง
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ขนาดดอกลำโพง | น้ำหนัก | ฟีเจอร์เด่น |
---|
400W | Bluetooth 5.2, AUX, USB, Optical | ใช้งานได้ 6-8 ชั่วโมง | 2 (ไร้สาย) | Woofer 15" x1, Mid-Range 5" x1, Tweeter 2" x1 | ประมาณ 30 กก. | Bass Boost X, Advanced Anti-Feedback |
4. EchoVerse – VocalStar
- ชื่อแบรนด์: EchoVerse
- ชื่อสินค้า: VocalStar
- ราคาสินค้า: 6,000 - 9,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: VocalStar คือลำโพงที่ออกแบบมาเพื่อเน้นเสียงร้องโดยเฉพาะ ให้เสียงร้องคมชัด พุ่งออกมา ไม่ถูกเสียงดนตรีกลบ มีเอฟเฟกต์เสียงร้องให้เลือกหลากหลาย ปรับได้ง่าย ช่วยให้เสียงคุณเหมือนนักร้องมืออาชีพมากขึ้น มาพร้อมไมโครโฟนไร้สายดีไซน์สวย 2 ตัว น้ำหนักเบา ถือสบายมือ เหมาะสำหรับคนที่จริงจังกับการร้องคาราโอเกะ อยากให้เสียงตัวเองออกมาดีที่สุด หรือใช้ฝึกร้องเพลง อัดเสียงตัวเองเพื่อฟังข้อผิดพลาด
- จุดเด่นสินค้า: เสียงร้องคมชัดโดดเด่น, เอฟเฟกต์เสียงร้องหลากหลาย, ไมค์ไร้สายดีไซน์สวย, เหมาะกับการฝึกร้องเพลง
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- AI Vocal Enhancer: เทคโนโลยี AI ช่วยปรับแต่งเสียงร้องของคุณให้มีความชัดเจนและสมดุลกับเสียงดนตรีโดยอัตโนมัติ ทำให้เสียงไม่จมหายไปกับเพลง ไม่ว่าเพลงจะดังแค่ไหนก็ตาม
- โหมด Duet Master: ปรับสมดุลเสียงไมโครโฟนทั้งสองตัวให้เข้ากันอย่างลงตัว เหมาะสำหรับการร้องเพลงคู่ ให้เสียงร้องของทั้งสองคนเด่นชัดเท่ากัน ไม่มีการแย่งซีนกันเกิดขึ้น
- บันทึกเสียงร้อง: สามารถบันทึกเสียงร้องของคุณพร้อมเสียงดนตรีลงใน USB หรือ SD Card ได้ เพื่อนำไปฟังย้อนหลัง ประเมินผลการร้องของตัวเอง หรือจะเก็บเป็นความทรงจำดีๆ ก็ได้
- เชื่อมต่อแอปคาราโอเกะ: ออกแบบมาให้รองรับการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันคาราโอเกะยอดนิยมต่างๆ บนสมาร์ทโฟน ทำให้การเลือกเพลงและการควบคุมง่ายขึ้นไปอีกขั้น
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบร้องคาราโอเกะเป็นชีวิตจิตใจ, นักร้องที่ต้องการฝึกฝน, ปาร์ตี้ร้องเพลง, งานประกวดร้องเพลงเล็กๆ
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ฟีเจอร์เสียงร้อง | น้ำหนัก | บันทึกเสียง |
---|
80W | Bluetooth 5.1, AUX, USB, SD Card | ใช้งานได้ 7-9 ชั่วโมง | 2 (ไร้สาย) | AI Vocal Enhancer, Echo, Reverb | ประมาณ 6 กก. | รองรับ (ผ่าน USB/SD Card) |
5. PortaSonic – GoKara
- ชื่อแบรนด์: PortaSonic
- ชื่อสินค้า: GoKara
- ราคาสินค้า: 4,000 - 6,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: GoKara เป็นลำโพงคาราโอเกะไซส์มินิ แต่แจ๋วเรื่องพกพาไปได้ทุกที่จริงๆ! น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด ใส่กระเป๋าเป้สบายๆ เหมาะกับสายเดินทาง ปาร์ตี้ริมทะเล ขึ้นเขา ตั้งแคมป์ หรือจะเอาไว้ร้องเล่นในรถก็ยังได้ เสียงอาจจะไม่ดังเท่าตัวใหญ่ๆ แต่ก็ดังพอสำหรับวงเล็กๆ หรือใช้ในพื้นที่ไม่กว้างมาก มาพร้อมไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็ก 1 ตัว ใช้งานง่าย แบตเตอรี่ก็ใช้ได้นานเกินคาด เป็นลำโพงสำหรับคนที่ไม่ต้องการความยุ่งยาก เน้นสะดวก พกพาง่ายเป็นหลัก
- จุดเด่นสินค้า: พกพาสะดวกที่สุด, น้ำหนักเบา, ขนาดเล็กกะทัดรัด, เหมาะกับการเดินทาง, ใช้งานง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เชื่อมต่อ Bluetooth Swift Pair: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้เร็วทันใจ เพียงเปิดบลูทูธบนมือถือ ลำโพงก็จะเด้งขึ้นมาให้จับคู่อัตโนมัติ ไม่ต้องเข้าเมนูตั้งค่าให้วุ่นวาย เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการใช้งานเร่งด่วน
- กันละอองน้ำและฝุ่น (IPX4): ปาร์ตี้ริมสระ หรือใช้งานกลางแจ้ง ไม่ต้องกลัวละอองน้ำหรือฝุ่นเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจมากระทบกระเทือนลำโพง เพิ่มความอุ่นใจในการพกพาไปลุยได้ทุกที่
- Power Bank ในตัว: สามารถใช้เป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้สมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์อื่นๆ ได้ในตัว เวลากไปเที่ยวนอกสถานที่แล้วแบตมือถือใกล้หมด ก็เสียบชาร์จกับลำโพงได้เลย
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายเดินทาง, ชอบกิจกรรม Outdoor, ปาร์ตี้เล็กๆ นอกสถานที่, ใช้งานในพื้นที่จำกัด, ของขวัญสำหรับสายท่องเที่ยว
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ขนาด | น้ำหนัก | มาตรฐานกันน้ำ/ฝุ่น |
---|
30W | Bluetooth 5.0, AUX | ใช้งานได้ 8-10 ชั่วโมง (Power Bank ใช้งานได้ด้วย) | 1 (ไร้สาย) | 15 x 10 x 8 ซม. | ประมาณ 1.5 กก. | IPX4 |
6. StudioPro – SoundSphere 360
- ชื่อแบรนด์: StudioPro
- ชื่อสินค้า: SoundSphere 360
- ราคาสินค้า: 10,000 - 15,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: SoundSphere 360 ให้เสียงรอบทิศทาง 360 องศา ไม่ว่าจะยืนอยู่มุมไหนของห้องก็ได้ยินเสียงชัดเจนเท่ากัน คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความสมจริงของเสียงดนตรี และเสียงร้องที่กระจายไปทั่วทั้งห้อง มาพร้อมไมโครโฟนไร้สาย 2 ตัว ดีไซน์เรียบหรูดูแพง เหมาะกับการตั้งไว้ในห้องนั่งเล่น ห้องฟังเพลง หรือจะเอาไปใช้ในงานอีเวนต์ที่ต้องการเสียงครอบคลุมพื้นที่กว้างๆ โดยไม่ต้องใช้ลำโพงหลายตัว
- จุดเด่นสินค้า: เสียงรอบทิศทาง 360 องศา, คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ, ดีไซน์หรูหรา, ไมค์ไร้สาย 2 ตัว
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เทคโนโลยี Spatial Audio: จำลองมิติเสียงให้รู้สึกเหมือนเสียงดนตรีและเสียงร้องลอยอยู่รอบๆ ตัวผู้ฟัง เพิ่มความสมจริงและดื่มด่ำกับบทเพลงได้มากขึ้น เหมือนนั่งฟังดนตรีสดอยู่ในฮอลล์
- ปรับแต่งเสียงผ่านแอปพลิเคชัน: ควบคุมการทำงานของลำโพง ปรับ EQ, เอฟเฟกต์เสียงร้อง, และตั้งค่าต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนได้สะดวกสบาย ไม่ต้องเดินไปปรับที่ตัวลำโพง
- เชื่อมต่อ Wi-Fi และ Multi-room: นอกจาก Bluetooth แล้ว ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi เพื่อการสตรีมเพลงคุณภาพสูง และสามารถเชื่อมต่อลำโพงหลายๆ ตัวในรุ่นเดียวกัน เพื่อเปิดเพลงหรือร้องคาราโอเกะพร้อมกันได้ทั่วทั้งบ้าน
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนรักการฟังเพลงคุณภาพสูง, ต้องการระบบเสียงคาราโอเกะในบ้าน, จัดงานที่ต้องการเสียงครอบคลุมพื้นที่, ใช้ในห้องนั่งเล่น/ห้องฟังเพลง
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ทิศทางเสียง | วัสดุ | การควบคุม |
---|
150W | Bluetooth 5.3, Wi-Fi, AUX, Optical | ใช้งานได้ 6-8 ชั่วโมง | 2 (ไร้สาย) | 360 องศา (Spatial Audio) | อลูมิเนียม / ผ้า | แอปพลิเคชัน, ปุ่มควบคุม |
7. ToughTunes – RockSolid Pro
- ชื่อแบรนด์: ToughTunes
- ชื่อสินค้า: RockSolid Pro
- ราคาสินค้า: 12,000 - 18,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: RockSolid Pro สมชื่อจริงๆ เพราะแข็งแรง ทนทานสุดๆ เหมาะกับคนที่ชอบปาร์ตี้นอกบ้าน ลุยๆ หน่อย หรือใช้งานสมบุกสมบัน ด้วยโครงสร้างที่ทนทาน กันกระแทก กันน้ำ กันฝุ่นได้ระดับหนึ่ง เสียงดังฟังชัดแม้ในพื้นที่เปิดโล่ง เบสแน่นกำลังดี มาพร้อมไมโครโฟนไร้สายที่ทนทานไม่แพ้กัน เหมาะกับงานกิจกรรมกลางแจ้ง, ปาร์ตี้ริมหาด, แคมป์ปิ้ง หรือไซต์งานที่ต้องการลำโพงที่ไว้ใจได้เรื่องความทนทาน
- จุดเด่นสินค้า: ทนทานขั้นสุด, กันน้ำกันฝุ่น, เหมาะกับกิจกรรม Outdoor, เสียงดังฟังชัดในที่โล่ง, โครงสร้างแข็งแรง
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- มาตรฐานการป้องกัน IP67: กันน้ำลึกได้ถึง 1 เมตร นาน 30 นาที และกันฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องกลัวเปียกฝน สาดน้ำในวันสงกรานต์ หรือทำตกน้ำโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ยังใช้งานได้สบายๆ
- วัสดุโพลีเมอร์เสริมความแข็งแรง: ตัวเครื่องทำจากวัสดุพิเศษที่มีความทนทานสูง รองรับแรงกระแทกและการตกหล่นได้ดีเยี่ยม เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน ไม่ต้องทะนุถนอมมาก
- หูหิ้วและจุดยึดที่แข็งแรง: มีหูหิ้วขนาดใหญ่และจุดยึดสำหรับแขวนหรือติดตั้งในตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างมั่นคง สะดวกต่อการพกพาและใช้งานในสถานการณ์ที่หลากหลาย เช่น แขวนบนต้นไม้หรือเสาในงาน Outdoor
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ชอบปาร์ตี้ Outdoor, กิจกรรมผจญภัย, แคมป์ปิ้ง, ไซต์งานก่อสร้าง, งานอีเวนต์ที่ต้องการความทนทาน
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | มาตรฐานการป้องกัน | วัสดุ | ฟีเจอร์เสริม |
---|
120W | Bluetooth 5.1, AUX, USB | ใช้งานได้ 10-12 ชั่วโมง | 1 (ไร้สาย) | IP67 (กันน้ำ/ฝุ่น) | โพลีเมอร์เสริมความแข็งแรง | หูหิ้วแข็งแรง, จุดยึดติดตั้ง |
8. RetroSound – VinylBeat
- ชื่อแบรนด์: RetroSound
- ชื่อสินค้า: VinylBeat
- ราคาสินค้า: 7,000 - 10,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: สำหรับสายวินเทจ ต้องหลงรัก VinylBeat แน่นอน ด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงยุคเก่า แต่มาพร้อมเทคโนโลยีเสียงที่ทันสมัย ให้เสียงที่อบอุ่น นุ่มนวล เป็นเอกลักษณ์ ฟังแล้วได้ฟีลย้อนยุคสุดๆ เหมาะกับเพลงเก่า เพลงลูกกรุง หรือเพลงสากลคลาสสิก มาพร้อมไมโครโฟนดีไซน์คลาสสิก 1 ตัว เหมาะกับการตั้งโชว์ในบ้าน เป็นของตกแต่งที่ใช้งานได้จริง หรือจะเอาไปเปิดเพลงเบาๆ ในงานเลี้ยงสไตล์วินเทจก็เข้ากัน
- จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์วินเทจสวยงาม, คุณภาพเสียงอบอุ่นเป็นเอกลักษณ์, เหมาะกับเพลงเก่า, เป็นของตกแต่งบ้านได้
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- โหมด Vinyl Simulation: จำลองเสียงแตกพร่าเล็กๆ แบบเดียวกับการฟังเพลงจากแผ่นเสียงไวนิล เพิ่มความรู้สึกวินเทจให้กับการฟังเพลงของคุณ เหมาะสำหรับเปิดเพลงเก่าๆ ให้ได้บรรยากาศยุคก่อน
- รองรับไฟล์เพลงความละเอียดสูง: แม้จะดีไซน์วินเทจ แต่ก็รองรับการเล่นไฟล์เพลงแบบ Hi-Res Audio ได้ เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดสำหรับเพลงดิจิทัล ให้คุณได้ฟังเพลงในแบบที่ศิลปินต้องการให้เป็น
- หน้าจอแสดงผลแบบ Dot Matrix: หน้าจอแสดงผลเป็นจุดๆ สไตล์เครื่องใช้ไฟฟ้าโบราณ แสดงชื่อเพลง เวลา หรือสถานะต่างๆ ได้อย่างเก๋ไก๋ เข้ากับดีไซน์โดยรวมของลำโพง
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายวินเทจ, ชอบของตกแต่งบ้านสไตล์ Retro, ชอบฟังเพลงเก่า, จัดงานเลี้ยงสไตล์ย้อนยุค, ให้เป็นของขวัญผู้ใหญ่
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ดีไซน์ | วัสดุ | ฟีเจอร์เด่น |
---|
50W | Bluetooth 5.0, AUX, USB | ใช้งานได้ 5-7 ชั่วโมง | 1 (ไร้สาย) | Vintage Vinyl Player Style | ไม้ / พลาสติก | Vinyl Simulation, Hi-Res Audio Support |
9. KidsParty – FunTune Box
- ชื่อแบรนด์: KidsParty
- ชื่อสินค้า: FunTune Box
- ราคาสินค้า: 2,500 - 4,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: FunTune Box คือลำโพงคาราโอเกะสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ! ดีไซน์น่ารัก สีสันสดใส ขนาดกำลังดีให้เด็กๆ ถือได้ง่าย มีปุ่มควบคุมที่ไม่ซับซ้อน มาพร้อมไมโครโฟนไร้สายขนาดเล็กที่ปรับระดับเสียงได้ ไม่เป็นอันตรายต่อหูของเด็ก มีฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงให้เป็นเสียงการ์ตูน เสียงสัตว์ต่างๆ เพิ่มความสนุกสนาน เหมาะสำหรับให้เด็กๆ ฝึกร้องเพลง เล่นสนุก หรือใช้ในงานปาร์ตี้วันเกิดเด็กๆ
- จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์สำหรับเด็ก, ใช้งานง่าย, มีฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงสนุกๆ, ปลอดภัยสำหรับเด็ก, ราคาไม่แพง
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ฟังก์ชัน Voice Changer: เปลี่ยนเสียงร้องของเด็กๆ ให้กลายเป็นเสียงตัวการ์ตูน สัตว์ประหลาด หรือเสียงหุ่นยนต์ สร้างเสียงหัวเราะและความสนุกสนานในการร้องเพลงและเล่นได้ไม่รู้จบ
- วัสดุปลอดภัยสำหรับเด็ก: ตัวเครื่องและไมโครโฟนทำจากวัสดุปลอดสารพิษ มีความทนทาน ไม่แตกหักง่าย และไม่มีส่วนแหลมคมที่เป็นอันตรายต่อเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่วางใจได้
- จำกัดระดับเสียงสูงสุด: ตั้งค่าระดับเสียงสูงสุดของลำโพงไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียงดังจนเกินไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการได้ยินของเด็กๆ ทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เด็กๆ, งานวันเกิดเด็ก, กิจกรรมเสริมพัฒนาการ, ของขวัญสำหรับเด็ก
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ฟีเจอร์เด่น | วัสดุ | ความปลอดภัย |
---|
15W | Bluetooth 5.0, AUX, USB | ใช้งานได้ 4-6 ชั่วโมง | 1 (ไร้สาย) | Voice Changer, ไฟ LED | พลาสติกปลอดสารพิษ | จำกัดระดับเสียงสูงสุด |
10. ProAudio – StageMaster 1000
- ชื่อแบรนด์: ProAudio
- ชื่อสินค้า: StageMaster 1000
- ราคาสินค้า: 25,000 - 35,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: StageMaster 1000 คือลำโพงระดับโปรที่เหมาะสำหรับงานเวที งานอีเวนต์ หรือห้องคาราโอเกะเชิงพาณิชย์ ให้คุณภาพเสียงที่ทรงพลัง คมชัด รายละเอียดครบถ้วน รองรับการใช้งานหนักๆ ได้ต่อเนื่อง มาพร้อมไมโครโฟนไร้สายคุณภาพสูง 2 ตัว และมีช่องเชื่อมต่อสำหรับอุปกรณ์เสียงอื่นๆ อีกมากมาย เหมาะสำหรับนักดนตรี, ดีเจ, ออร์แกไนเซอร์งานอีเวนต์ หรือเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร/ผับที่ต้องการระบบเสียงคาราโอเกะที่ดีที่สุด
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงระดับมืออาชีพ, พลังเสียงสูง, รองรับการใช้งานหนัก, ช่องเชื่อมต่อครบครัน, เหมาะกับงานเวที/อีเวนต์
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- DSP (Digital Signal Processor) ในตัว: ชิปประมวลผลเสียงดิจิทัลช่วยปรับแต่งเสียงให้มีความสมดุลและคมชัดสูงสุด ลดเสียงรบกวนและเพิ่มประสิทธิภาพเสียงโดยรวม ทำให้ได้คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ
- มิกเซอร์แบบดิจิทัล: ควบคุมระดับเสียง, EQ, เอฟเฟกต์, และการตั้งค่าอื่นๆ ของทุกช่องสัญญาณอินพุตผ่านแอปพลิเคชันหรือหน้าจอสัมผัสบนตัวลำโพงได้อย่างละเอียด ให้ความยืดหยุ่นในการปรับเสียงสูงสุด
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ XLR และ TRS: มีช่องอินพุตแบบ XLR และ TRS สำหรับเชื่อมต่อไมโครโฟนและอุปกรณ์ดนตรีระดับโปรได้อย่างง่ายดาย ให้คุณภาพสัญญาณเสียงที่ดีที่สุดสำหรับการแสดงสดหรือการบันทึกเสียง
- ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูง: ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานโดยที่ตัวเครื่องไม่ร้อนเกินไป มั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสูงที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความทนทานของลำโพง
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักดนตรี, ดีเจ, ออร์แกไนเซอร์งานอีเวนต์, เจ้าของร้านอาหาร/ผับ, ห้องคาราโอเกะ, งานแสดงสด
กำลังขับ (RMS) | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | จำนวนไมค์ | ฟีเจอร์เสียง | อินพุต | การควบคุม |
---|
500W | Bluetooth 5.3, AUX, USB, XLR, TRS, Optical | ใช้ไฟ AC (ไม่รองรับแบตเตอรี่) | 2 (ไร้สาย) + รองรับไมค์มีสาย | DSP, Digital Mixer | Mic In, Line In, Guitar In | แอปพลิเคชัน, หน้าจอสัมผัส |
เคล็ดลับเลือกซื้อลำโพงคาราโอเกะให้โดนใจ สายปาร์ตี้ห้ามพลาด!
- 1. กำลังขับและคุณภาพเสียง: เลือกให้เหมาะกับขนาดพื้นที่และสไตล์เพลง
เรื่องเสียงนี่สำคัญสุดๆ เลยนะ สำหรับลำโพงคาราโอเกะเนี่ย! เวลาเลือกซื้อต้องดูที่ กำลังขับ (RMS) เป็นหลักเลย ยิ่งกำลังขับสูง เสียงก็ยิ่งดัง ยิ่งกระหึ่ม เหมาะกับพื้นที่ใหญ่ๆ หรือปาร์ตี้นอกบ้านที่ต้องการเสียงดังๆ สู้กับเสียงรอบข้างได้ แต่ถ้าใช้ในห้องทั่วๆ ไป ไม่ได้ใหญ่มาก กำลังขับปานกลางก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องจ่ายแพงเกินเหตุให้ได้ลำโพงใหญ่เทอะทะมาเปล่าๆ แถมบางทีเปิดดังไปก็รบกวนข้างห้องอีกต่างหาก (อันนี้ประสบการณ์ตรง!) ทีนี้มาถึงเรื่อง คุณภาพเสียง อันนี้ต้องไปลองฟังเองถึงจะรู้ว่าชอบแบบไหน บางคนชอบเบสหนักๆ ตึ้บๆ ก็ต้องเลือกรุ่นที่เน้นเบส หรือมีดอกลำโพง Subwoofer ขนาดใหญ่หน่อย บางคนชอบเสียงร้องชัดๆ พุ่งๆ ไม่โดนดนตรีกลบ ก็ต้องดูรุ่นที่เน้นเสียงกลางและแหลม หรือมีฟังก์ชันปรับเสียงร้องโดยเฉพาะ ลองเปิดเพลงหลายๆ แนวที่คุณชอบร้อง แล้วฟังดูว่าเสียงดนตรี เสียงร้อง ออกมาเป็นยังไง ชัดเจน ใส หรือทึบ แตกพร่าไหม ยิ่งถ้ามีเพลงคาราโอเกะที่คุณร้องประจำไปลองเทสต์ด้วยได้ยิ่งดี จะได้รู้เลยว่าฟิลลิ่งตอนร้องกับลำโพงตัวนี้เป็นยังไง เสียงเราจะเพราะขึ้น หรือพังกว่าเดิม! อย่าลืมเช็กด้วยว่าลำโพงมีฟังก์ชันปรับ EQ (Equalizer) ให้เราปรับเสียงทุ้ม แหลม ได้ตามใจชอบไหม หรือมีโหมดเสียงสำเร็จรูปมาให้เลือกหรือเปล่า บางทีแค่ปรับ EQ นิดหน่อยก็ช่วยให้เสียงถูกใจเรามากขึ้นเยอะเลยนะ ยิ่งถ้าลำโพงมีเทคโนโลยีประมวลผลเสียงอย่าง DSP หรือ Spatial Audio นี่จะช่วยให้เสียงดีขึ้นไปอีกระดับ เหมือนมีห้องอัดเสียงส่วนตัวเลยทีเดียว สรุปคือ เลือกกำลังขับให้พอดีกับพื้นที่ และเลือกคุณภาพเสียงที่ถูกใจหูของเรามากที่สุดนั่นแหละ เคล็ดลับง่ายๆ ที่ใช้ได้ตลอด!
- 2. การพกพาและความทนทาน: ลุยได้ทุกที่ ไม่กลัวเปียก ไม่กลัวพัง
ชีวิตคนไทยอ่ะเนอะ ปาร์ตี้ไม่ได้มีแค่ในบ้าน บางทีก็อยากไปชิลล์ริมทะเล ปิ้งย่างที่สวนหลังบ้าน หรือสงกรานต์ก็อยากมีเพลงมันส์ๆ เปิดคลอไปด้วยตอนเล่นน้ำ ทีนี้แหละ การพกพา เลยสำคัญมาก ถ้าคุณเป็นสาย Outdoor ชอบไปนู่นมานี่บ่อยๆ เลือกลำโพงที่มีน้ำหนักเบาหน่อย มีหูหิ้วหรือล้อลากที่แข็งแรงก็จะสะดวกมากๆ แถมเดี๋ยวนี้ลำโพงคาราโอเกะหลายรุ่นเป็นแบบไร้สาย ใช้แบตเตอรี่ในตัว ยิ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบนี้เลย แต่ถ้าเน้นตั้งอยู่กับที่ ไม่ค่อยได้ย้ายไปไหน ก็อาจจะไม่ต้องซีเรียสเรื่องน้ำหนักมากนัก ทีนี้มาถึงเรื่อง ความทนทาน อันนี้ก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะถ้าต้องเอาไปใช้ Outdoor หรือมีเด็กๆ วิ่งเล่นซนๆ รอบๆ ลำโพง เลือกรุ่นที่มีโครงสร้างแข็งแรงทนทาน ทำจากวัสดุที่ดีหน่อย หรือมีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นอย่าง IP Rating ติดมาด้วยยิ่งดี อย่างน้อยๆ ก็กันละอองน้ำ กันฝุ่นได้ ก็อุ่นใจขึ้นเยอะ เวลาเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เช่น ทำน้ำหกใส่ หรือเจอฝนปรอยๆ จะได้ไม่ใจหายวาบ ลองดูพวกรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับใช้งาน Outdoor โดยเฉพาะ วัสดุพวกนี้มักจะทนทานกว่าเป็นพิเศษ บางรุ่นอาจจะมีแผ่นยางกันกระแทกตามมุมต่างๆ ด้วย ก็ช่วยลดความเสียหายเวลาทำตกได้อีกแรง คิดถึงสถานการณ์ที่เราจะใช้งานจริงจัง แล้วเลือกลำโพงที่พร้อมจะลุยไปกับเราในทุกๆ ที่ ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าจะพังง่าย แค่นี้ปาร์ตี้ของคุณก็จะสนุกได้อย่างเต็มที่ ไม่มีสะดุดเรื่องอุปกรณ์แล้วล่ะ!
- 3. การเชื่อมต่อและฟังก์ชันเสริม: ยิ่งครบ ยิ่งสะดวก ยิ่งสนุก
ยุคดิจิทัลแบบนี้ ลำโพงคาราโอเกะก็ต้องทันสมัยตามไปด้วย เรื่อง การเชื่อมต่อ นี่พื้นฐานสุดๆ คือต้องมี Bluetooth ไว้ก่อนเลย เพราะสะดวกที่สุดแล้วในการเปิดเพลงจากมือถือหรือแท็บเล็ต แต่ก็ควรดูด้วยว่าเป็น Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่แค่ไหน ยิ่งใหม่ยิ่งเสถียร สัญญาณไปได้ไกลขึ้น ฟังเพลงแล้วไม่กระตุก นอกจาก Bluetooth แล้ว การมีช่องเชื่อมต่ออื่นๆ ก็สำคัญนะ เช่น USB หรือ SD Card เผื่ออยากเปิดเพลงจากไฟล์โดยตรง หรือเอาไว้บันทึกเสียงร้องของเรา ช่อง AUX ก็ยังจำเป็น เผื่ออยากต่อกับอุปกรณ์เก่าๆ ที่ไม่มี Bluetooth สำหรับคนที่จริงจังหน่อย หรืออยากได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น ก็มองหารุ่นที่มีช่อง Optical หรือ HDMI ARC ด้วยก็ได้ จะได้ต่อตรงกับทีวีหรือเครื่องเล่นต่างๆ ได้คุณภาพเสียงแบบดิจิทัลเต็มๆ ส่วนเรื่อง ฟังก์ชันเสริม อันนี้แล้วแต่ความชอบและงบประมาณเลย บางคนชอบปาร์ตี้แสงสี ก็เลือกรุ่นที่มีไฟ LED ในตัว ปรับเปลี่ยนได้ตามจังหวะเพลง บางคนชอบร้องเพลงคู่ ก็ต้องดูรุ่นที่ให้ไมโครโฟนมา 2 ตัว หรือมีช่องเสียบไมค์เพิ่ม ฟังก์ชันตัดเสียงร้องต้นฉบับ (Vocal Remover) นี่ก็สะดวกมากๆ ทำให้ร้องเพลงได้หลากหลายขึ้น เอฟเฟกต์เสียงร้องต่างๆ เช่น Echo, Reverb ก็ช่วยให้เสียงเราเพราะขึ้นได้เยอะ หรือถ้ามีฟังก์ชันเปลี่ยนเสียง (Voice Changer) นี่ก็เพิ่มความฮาในปาร์ตี้ได้อีกแบบ บางรุ่นใหม่ๆ มีฟังก์ชัน AI เข้ามาช่วยปรับเสียงร้อง หรือมีหน้าจอแสดงเนื้อเพลงในตัวด้วยนะ ลองลิสต์ดูว่าฟังก์ชันไหนจำเป็นสำหรับเรา ฟังก์ชันไหนมีแล้วชีวิตจะดีขึ้น แล้วค่อยตัดสินใจเลือกให้ตรงกับความต้องการที่สุด อย่าลืมเช็กเรื่องแบตเตอรี่ด้วยนะ ถ้าเป็นลำโพงพกพา ควรเลือกรุ่นที่แบตอึดๆ ใช้ได้นานหน่อย จะได้ร้องเพลินๆ ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ การมีฟังก์ชัน Power Bank ในตัวก็เป็นโบนัสที่ดีงามมากๆ เลยล่ะ
คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับลำโพงคาราโอเกะ
- Q: ลำโพงคาราโอเกะแบบไหนเหมาะกับใช้ในบ้านที่สุด?
A: สำหรับใช้ในบ้าน ไม่ได้ต้องการความดังแบบถล่มทลาย หรือแบตเตอรี่ที่อึดมากๆ ค่ะ เลือกรุ่นที่เน้นคุณภาพเสียงที่ดี ฟังสบายหู ขนาดกะทัดรัดพอดีกับพื้นที่ในห้อง มีฟังก์ชันปรับเอฟเฟกต์เสียงร้องได้นิดหน่อยก็ดีค่ะ ถ้าชอบร้องเพลงคู่ก็เลือกรุ่นที่มีไมโครโฟนให้ 2 ตัว หรือมีช่องเสียบไมค์เพิ่ม ถ้าเน้นความสะดวกก็มองหารุ่นที่เชื่อมต่อ Bluetooth ได้เสถียรๆ ค่ะ กำลังขับประมาณ 50W-150W ก็เพียงพอสำหรับห้องนั่งเล่นทั่วไปแล้วค่ะ
- Q: ไมโครโฟนไร้สายกับมีสาย แบบไหนดีกว่ากันสำหรับคาราโอเกะ?
A: ไมโครโฟนไร้สายสะดวกกว่ามากๆ ค่ะ ไม่มีสายเกะกะ เดินไปมาระหว่างร้องเพลงได้อิสระกว่า เหมาะกับปาร์ตี้ที่ต้องมีการเคลื่อนไหว หรือถ้าใช้หลายๆ คนก็ไม่ต้องกลัวสายพันกันค่ะ แต่ข้อเสียคือต้องคอยชาร์จแบต หรือเปลี่ยนถ่าน และอาจมีปัญหาเรื่องสัญญาณรบกวนบ้างในบางสภาพแวดล้อมค่ะ ส่วนไมโครโฟนแบบมีสาย ให้สัญญาณที่เสถียรกว่า คุณภาพเสียงโดยรวมอาจจะดีกว่าในรุ่นราคาเท่ากัน แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการเคลื่อนไหวค่ะ ถ้าเน้นความสะดวกเลือกไร้สาย ถ้าเน้นคุณภาพเสียงแบบไม่กังวลเรื่องสายก็เลือกมีสาย แต่ปัจจุบันไมค์ไร้สายคุณภาพดีๆ ก็มีเยอะค่ะ
- Q: ลำโพงที่มีฟังก์ชัน Vocal Remover มันใช้งานได้ดีจริงไหม?
A: ฟังก์ชัน Vocal Remover สามารถช่วยลดเสียงร้องต้นฉบับออกจากเพลงได้ในระดับหนึ่งค่ะ แต่มันไม่ได้เอาเสียงร้องออกไปได้ 100% ทุกเพลงนะคะ คุณภาพจะขึ้นอยู่กับวิธีการมิกซ์เสียงของเพลงนั้นๆ ด้วย บางเพลงอาจจะตัดเสียงร้องได้เกือบหมด แต่บางเพลงก็อาจจะยังมีเสียงร้องเบาๆ เหลืออยู่ค่ะ เหมาะสำหรับใช้ร้องเล่นๆ ไม่ได้ต้องการความสมบูรณ์แบบเท่ากับการใช้ไฟล์เพลงคาราโอเกะโดยตรงค่ะ ถ้าจริงจังกับการร้องคาราโอเกะ ควรหาไฟล์เพลงที่ทำมาสำหรับคาราโอเกะโดยเฉพาะจะดีที่สุดค่ะ
- Q: ดูแลรักษาลำโพงคาราโอเกะยังไงให้ใช้งานได้นาน?
A: การดูแลรักษาลำโพงคาราโอเกะไม่ยุ่งยากค่ะ อย่างแรกเลยคือเก็บรักษาในที่แห้ง ไม่อับชื้น และหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงค่ะ ทำความสะอาดตัวเครื่องภายนอกเป็นประจำด้วยผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาดๆ ค่ะ สำหรับไมโครโฟน ถ้าเป็นแบบไร้สายก็ดูแลเรื่องแบตเตอรี่ อย่าปล่อยให้แบตหมดเกลี้ยงเป็นเวลานาน ส่วนหัวไมค์ที่สัมผัสกับปากก็ควรทำความสะอาดด้วยสเปรย์ฆ่าเชื้อสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บ้างค่ะ เวลาใช้งานก็ระวังอย่าเปิดเสียงดังเกินไปเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ดอกลำโพงเสียหายได้ค่ะ และถ้ามีฟังก์ชันอัปเดตเฟิร์มแวร์ก็ควรอัปเดตอยู่เสมอ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดค่ะ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง