สวัสดีค่าาา เหล่าเพื่อนพ้องน้องพี่ขาช้อปชาวไทยหัวใจไอที! วันนี้มาเม้าท์มอยกันเรื่องใกล้ตัวที่ขาดไม่ได้สำหรับสายทำงาน เรียน หรือแม้กระทั่งสายถ่ายรูปชอบอัดภาพความทรงจำ นั่นก็คือ "หมึกปริ้นเตอร์" นั่นเองค่ะ! แหม... เวลาจะพิมพ์งานสำคัญ เอกสารเด่น หรือรูปภาพสวยๆ รับช่วงเทศกาลทั้งที สีต้องไม่จืดจาง คุณภาพต้องเป๊ะปังถูกไหมคะ ปี 2025 แล้ว เทคโนโลยีก็ไปไกลลิบ วันนี้เป้จะมาขอป้ายยา 10 หมึกปริ้นเตอร์ตัวเด็ด ที่สีสวยสดใส คุณภาพเยี่ยม แถมยังเป็นที่นิยมในบ้านเรา พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อแบบฉบับโปร ที่รับรองว่าถูกใจสายประหยัด ถูกใจสายเน้นคุณภาพ ช้อปเพลิน ไม่มีหัวเสียแน่นอนค่าาา
1. HP - หมึกปริ้นเตอร์ รุ่น HP 680
- ชื่อแบรนด์: HP
- ชื่อสินค้า: หมึกปริ้นเตอร์ รุ่น HP 680 (ดำและสามสี)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 300 - 750 บาท (ขึ้นอยู่กับสีและร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกแท้ HP 680 เป็นหมึกอิงค์เจ็ทคุณภาพดีที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องพิมพ์ HP หลายรุ่นในกลุ่ม Ink Advantage โดดเด่นเรื่องคุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัด โดยเฉพาะงานเอกสารที่ต้องการความอ่านง่าย ลายเส้นคมกริบ และยังให้สีสันที่สดใสสำหรับการพิมพ์รูปภาพหรือกราฟิกที่ไม่ซับซ้อนมากนัก. ตลับหมึกมีการป้องกันการปลอมแปลงในระดับหนึ่ง ทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ เพิ่มความทนทานต่อความชื้นในระดับน่าพอใจ เหมาะกับการใช้งานทั่วไปในบ้าน ออฟฟิศขนาดเล็ก หรือสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่ต้องการหมึกคุณภาพเชื่อถือได้ในราคาที่เข้าถึงง่าย.
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพงานพิมพ์คมชัด, เหมาะกับงานเอกสารและรูปภาพ, ติดตั้งง่าย, หมึกแท้เชื่อถือได้, ราคาเข้าถึงง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารคมกริบ: ให้ตัวอักษรและลายเส้นที่ชัดเจน อ่านง่าย เหมาะสำหรับรายงาน ใบงาน หรือเอกสารทางราชการต่างๆ ทำให้งานดูเรียบร้อยและเป็นมืออาชีพ.
- พิมพ์ภาพถ่ายสีสันสดใส: ให้สีสันที่พอใช้ได้สำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายทั่วไป หรือรูปภาพประกอบในเอกสาร รายงานต่างๆ ไม่เน้นความละเอียดระดับสูงมาก แต่ให้สีที่เป็นธรรมชาติในระดับหนึ่ง.
- ใช้งานร่วมกับเครื่องพิมพ์ HP หลายรุ่น: ออกแบบมาให้ใช้ได้กับเครื่องพิมพ์ HP Ink Advantage หลายรุ่นยอดนิยมในท้องตลาด ทำให้ง่ายต่อการค้นหาและเปลี่ยนหมึกเมื่อหมด.
- ติดตั้งและเปลี่ยนง่าย: ด้วยดีไซน์ตลับหมึกที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคมากนักก็ทำได้สบายๆ.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานทั่วไปในบ้าน, นักเรียน นักศึกษา, ออฟฟิศขนาดเล็ก, งานพิมพ์เอกสารและรูปภาพทั่วไป, การพิมพ์ที่ไม่เน้นความละเอียดสูงมาก
ประเภทหมึก | สี | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เทคโนโลยี | เครื่องที่รองรับ (บางส่วน) | การป้องกันน้ำ | ประเภทตลับ |
---|
อิงค์เจ็ท (Dye-based & Pigment) | ดำ, สามสี (ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง) | ดำ 480 หน้า, สี 150 หน้า (A4 5% coverage) | Ink Advantage | HP Deskjet 1115, 2135, 3635, 4535, 4675, 3835 และรุ่นอื่นๆ | กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง | ตลับหมึก |
2. Canon - หมึกปริ้นเตอร์ รุ่น PG-47 / CL-57
- ชื่อแบรนด์: Canon
- ชื่อสินค้า: หมึกปริ้นเตอร์ รุ่น PG-47 (ดำ) / CL-57 (สามสี)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 300 - 1,100 บาท (ขึ้นอยู่กับสีและร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกแท้ Canon PG-47 และ CL-57 เป็นตลับหมึกอิงค์เจ็ทที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับเครื่องพิมพ์ Canon ในซีรีส์ E และรุ่นอื่นๆ ที่รองรับ. โดดเด่นเรื่องคุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัด โดยเฉพาะตัวอักษรและเส้นสายต่างๆ ทำให้งานเอกสารดูเนี้ยบ. ส่วนหมึกสี CL-57 ก็ให้สีสันที่สดใสเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการพิมพ์ภาพประกอบเล็กๆ น้อยๆ หรือกราฟิกทั่วไป. ตลับหมึกออกแบบมาให้ติดตั้งง่าย สะดวกในการเปลี่ยนเมื่อหมึกหมด เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหมึกคุณภาพเชื่อถือได้จากแบรนด์ผู้ผลิตโดยตรง.
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพงานพิมพ์เอกสารคมชัด, สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ, ติดตั้งง่าย, หมึกแท้จาก Canon, ใช้งานกับเครื่องพิมพ์หลากหลายรุ่น
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารตัวอักษร: ให้งานพิมพ์เอกสารที่มีความคมชัดสูง ตัวอักษรดำสนิท อ่านง่าย เหมาะสำหรับเอกสารราชการ รายงาน หรือเอกสารสำคัญที่ต้องการความเนี้ยบ.
- พิมพ์ภาพประกอบสีสัน: สำหรับงานพิมพ์ที่มีภาพประกอบสีสันเล็กๆ น้อยๆ หรือกราฟิกทั่วไป หมึกสี CL-57 ให้สีที่สดใสและเป็นธรรมชาติในระดับที่น่าพอใจ.
- ใช้งานกับเครื่องพิมพ์ Canon รุ่นที่รองรับ: ออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับเครื่องพิมพ์ Canon หลายรุ่นในซีรีส์ E ทำให้ผู้ใช้หาสั่งซื้อง่ายและมั่นใจได้ในความเข้ากันได้.
- เปลี่ยนตลับหมึกได้สะดวก: ตลับหมึกถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งพาช่าง สะดวก รวดเร็ว เมื่อหมึกหมดก็สามารถซื้อตลับใหม่มาใส่ได้ทันที.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานทั่วไปในบ้าน, นักเรียน นักศึกษา, ออฟฟิศที่เน้นงานเอกสาร, การพิมพ์ทั่วไปที่ไม่เน้นภาพถ่ายคุณภาพสูงมาก
ประเภทหมึก | สี | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เทคโนโลยี | เครื่องที่รองรับ | ประเภทตลับ | การรับประกัน |
---|
อิงค์เจ็ท | ดำ (PG-47), สามสี (CL-57) | ดำ 400 หน้า, สีไม่ระบุชัดเจน (A4 5% coverage) | FINE Cartridge | Canon E400, E410, E417, E460, E470, E477, E480, E3170 และรุ่นอื่นๆ | ตลับหมึก | ตามเงื่อนไขผู้ผลิต |
3. Epson - หมึกเติม รุ่น 003 (T00V)
- ชื่อแบรนด์: Epson
- ชื่อสินค้า: หมึกเติม รุ่น 003 (T00V) (ดำ, ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 60 - 250 บาท/ขวด (ขึ้นอยู่กับสีและร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกเติม Epson 003 หรือรหัส T00V เป็นหมึกอิงค์เจ็ทแบบขวดที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องพิมพ์ Epson EcoTank ที่ใช้ระบบแทงค์หมึกโดยเฉพาะ. จุดเด่นคือความประหยัด คุ้มค่า เพราะสามารถเติมหมึกได้เองง่ายๆ ไม่ต้องเปลี่ยนตลับ. คุณภาพงานพิมพ์ถือว่าดีเยี่ยม ให้สีสันสดใส คมชัด ทั้งงานเอกสารและภาพถ่าย เหมาะสำหรับคนที่พิมพ์งานเยอะๆ เป็นประจำ ทั้งในบ้าน ออฟฟิศ หรือธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการลดต้นทุนค่าหมึก. ขวดหมึกออกแบบมาพิเศษ ป้องกันการเติมผิดสีและลดการหกเลอะเทอะ.
- จุดเด่นสินค้า: ประหยัด คุ้มค่า, เติมง่าย ป้องกันหก, สีสันสดใส คมชัด, เหมาะกับเครื่องพิมพ์ EcoTank, พิมพ์งานได้ปริมาณมาก
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เติมหมึกเข้าแทงค์เครื่องพิมพ์: ใช้สำหรับเติมหมึกเข้าแทงค์หมึกของเครื่องพิมพ์ Epson EcoTank รุ่นที่รองรับ ขวดออกแบบมาให้พอดีกับช่องเติมแต่ละสี ป้องกันการเติมผิด.
- พิมพ์งานเอกสารและภาพถ่าย: ให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ดี ทั้งเอกสารตัวอักษรที่คมชัด และภาพถ่ายที่มีสีสันสดใสเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับงานพิมพ์หลากหลายรูปแบบ.
- ลดต้นทุนการพิมพ์: การใช้หมึกแบบขวดเติมในระบบแทงค์หมึกช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อแผ่นได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับการใช้ตลับหมึกแบบปกติ เหมาะสำหรับคนที่พิมพ์งานจำนวนมาก.
- ใช้งานง่าย สะดวก: ขั้นตอนการเติมหมึกไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้เองที่บ้าน โดยไม่ต้องมีความรู้เฉพาะทางมากนัก.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานที่พิมพ์งานปริมาณมาก, ออฟฟิศ, ธุรกิจขนาดเล็ก, นักเรียน นักศึกษา, การใช้งานในบ้านที่ต้องการความประหยัด
ประเภทหมึก | สี | ปริมาณหมึก | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
อิงค์เจ็ท (Dye-based) | ดำ, ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง | 65 ml | ดำ 4,500 หน้า, สี 7,500 หน้า (A4 5% coverage) | Epson L1110, L3110, L3150, L5190, L3210, L3250 และรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ EcoTank | ขวดเติม | หัวเติมแบบพิเศษ ป้องกันหก/ผิดสี |
4. Brother - หมึกเติม รุ่น BT-D60BK / BT-5000 C/M/Y
- ชื่อแบรนด์: Brother
- ชื่อสินค้า: หมึกเติม รุ่น BT-D60BK (ดำ) / BT-5000 (ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 250 - 400 บาท/ขวด (ขึ้นอยู่กับสีและร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกเติม Brother BT-D60BK และ BT-5000 เป็นหมึกแท้คุณภาพสูงสำหรับเครื่องพิมพ์ Brother InkBenefit Tank ที่ใช้ระบบแทงค์หมึก. คล้ายกับ Epson คือเน้นความประหยัดและคุ้มค่าสำหรับการพิมพ์ปริมาณมาก. คุณภาพงานพิมพ์ดีเยี่ยม ให้ตัวอักษรที่คมชัด สีสันสดใส โดยเฉพาะหมึกดำที่เป็น Pigment Ink ทำให้งานเอกสารทนน้ำได้ดี. เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน ออฟฟิศ หรือธุรกิจที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพดีและประหยัดต้นทุน. ขวดหมึกออกแบบมาให้เติมง่าย มีจุกปิดแน่นหนา ป้องกันการหกเลอะเทอะ.
- จุดเด่นสินค้า: ประหยัด คุ้มค่า, พิมพ์งานปริมาณมากได้ดี, หมึกดำกันน้ำได้ดี, สีสันสดใส, เติมง่าย ไม่หกเลอะ
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เติมหมึกในระบบแทงค์: ใช้สำหรับเติมหมึกเข้าแทงค์หมึกของเครื่องพิมพ์ Brother InkBenefit Tank รุ่นที่รองรับ ขวดออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สะดวกในการเติมเอง.
- พิมพ์เอกสารกันน้ำ: หมึกดำ BT-D60BK เป็น Pigment Ink ที่ให้งานพิมพ์เอกสารตัวอักษรสีดำที่ทนน้ำได้ดี เหมาะสำหรับเอกสารสำคัญที่อาจต้องเจอกับความชื้น.
- พิมพ์ภาพสีคุณภาพดี: หมึกสี BT-5000 ให้สีสันที่สดใส เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพประกอบ หรือรูปภาพที่ไม่ต้องการความละเอียดสูงมากนัก.
- รองรับงานพิมพ์ปริมาณมาก: ด้วยระบบแทงค์หมึกและความจุหมึกที่เยอะ ทำให้พิมพ์งานได้ในปริมาณมาก ลดความถี่ในการเปลี่ยนหมึก เหมาะสำหรับคนที่พิมพ์งานเยอะ.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ออฟฟิศ, ธุรกิจขนาดเล็ก, การใช้งานในบ้านที่พิมพ์งานบ่อย, นักเรียน นักศึกษาที่ต้องการพิมพ์รายงาน
ประเภทหมึก | สี | ปริมาณหมึก | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
อิงค์เจ็ท (ดำ Pigment, สี Dye) | ดำ (BT-D60BK), ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง (BT-5000) | ดำ 108 ml, สี 48 ml (โดยประมาณ) | ดำ 6,500 หน้า, สี 5,000 หน้า (A4 5% coverage) | Brother DCP-T310, T510W, T710W, MFC-T810W, MFC-T910DW และรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ InkBenefit Tank | ขวดเติม | ขวดดีไซน์พิเศษ เติมง่าย ป้องกันหก |
5. Canon - หมึกเติม รุ่น GI-790
- ชื่อแบรนด์: Canon
- ชื่อสินค้า: หมึกเติม รุ่น GI-790 (ดำ, ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 250 - 400 บาท/ขวด (ขึ้นอยู่กับสีและร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกเติม Canon GI-790 เป็นหมึกแท้สำหรับเครื่องพิมพ์ Canon ในกลุ่ม Pixma G Series ที่เป็นระบบแทงค์หมึก. เน้นความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในการพิมพ์ปริมาณมาก ให้คุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัด สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ เหมาะทั้งงานเอกสารและงานพิมพ์ภาพถ่าย. ขวดหมึกมีดีไซน์เฉพาะ ป้องกันการเติมผิดสีและช่วยให้เติมหมึกได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่หกเลอะเทอะ. เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับบ้านหรือสำนักงานที่ต้องการหมึกคุณภาพดี ราคาประหยัด และใช้งานง่าย.
- จุดเด่นสินค้า: ประหยัด คุ้มค่า, คุณภาพงานพิมพ์ดี, สีสันสดใสเป็นธรรมชาติ, เติมง่าย ป้องกันหก, เหมาะกับเครื่องพิมพ์ Pixma G Series
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เติมหมึกในระบบแทงค์: ใช้สำหรับเติมหมึกเข้าแทงค์หมึกของเครื่องพิมพ์ Canon Pixma G Series รุ่นที่รองรับ ขวดออกแบบมาให้พอดีกับช่องเติมแต่ละสี ป้องกันการเติมผิดพลาด.
- พิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพดี: ให้สีสันที่สดใสและเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายความละเอียดไม่สูงมากนัก หรือภาพประกอบในเอกสารต่างๆ.
- พิมพ์เอกสารคมชัด: ให้งานพิมพ์เอกสารที่มีตัวอักษรคมชัด อ่านง่าย เหมาะสำหรับเอกสารทั่วไปในบ้านหรือสำนักงาน.
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์: ด้วยระบบแทงค์หมึกและความจุหมึกที่เยอะ ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อแผ่นถูกลงอย่างมาก เหมาะสำหรับคนที่พิมพ์งานบ่อยๆ.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานในบ้าน, ออฟฟิศขนาดเล็ก, นักเรียน นักศึกษา, ธุรกิจที่ต้องการลดต้นทุนการพิมพ์, การพิมพ์ภาพถ่ายทั่วไป
ประเภทหมึก | สี | ปริมาณหมึก | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
อิงค์เจ็ท (Dye-based) | ดำ, ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง | ดำ 135 ml, สี 70 ml (โดยประมาณ) | ดำ 6,000 หน้า, สี 7,000 หน้า (A4 5% coverage) | Canon Pixma G1000, G2000, G3000, G4000 และรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ G | ขวดเติม | หัวเติมแบบพิเศษ ป้องกันหก/ผิดสี |
6. HP - หมึกเติม รุ่น GT51 / GT52
- ชื่อแบรนด์: HP
- ชื่อสินค้า: หมึกเติม รุ่น GT51 (ดำ) / GT52 (ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 250 - 500 บาท/ขวด (ขึ้นอยู่กับสีและร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกเติม HP GT51 และ GT52 เป็นหมึกแท้คุณภาพสูงสำหรับเครื่องพิมพ์ HP Smart Tank ที่ใช้ระบบแทงค์หมึก. เน้นความคุ้มค่าและประสิทธิภาพในการพิมพ์ปริมาณมาก ให้คุณภาพงานพิมพ์ที่คมชัด ทั้งงานเอกสารและงานพิมพ์ภาพถ่าย. หมึกดำเป็น Pigment Ink ทำให้งานเอกสารทนน้ำได้ดี. ขวดหมึกออกแบบมาพิเศษ เติมง่าย ไม่หกเลอะเทอะ และมีระบบป้องกันการเติมผิดสี. เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน ออฟฟิศ หรือธุรกิจที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพดีและประหยัดต้นทุน.
- จุดเด่นสินค้า: ประหยัดค่าใช้จ่าย, พิมพ์งานปริมาณมาก, หมึกดำกันน้ำ, คุณภาพดีทั้งเอกสารและภาพ, เติมง่าย ปลอดภัย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เติมหมึกเข้าแทงค์ HP Smart Tank: ใช้สำหรับเติมหมึกเข้าแทงค์หมึกของเครื่องพิมพ์ HP Smart Tank รุ่นที่รองรับ ขวดหมึกออกแบบมาให้พอดีกับช่องเติมแต่ละสี ช่วยป้องกันการเติมผิด.
- พิมพ์เอกสารทนน้ำ: หมึกดำ GT51 เป็น Pigment Ink ที่ให้งานพิมพ์เอกสารตัวอักษรสีดำที่ทนน้ำได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับเอกสารที่ต้องการความทนทาน.
- พิมพ์ภาพสีคุณภาพสูงพอใช้: หมึกสี GT52 ให้สีสันที่สดใสพอใช้สำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายทั่วไป หรือภาพประกอบในเอกสาร ให้สีที่ดูเป็นธรรมชาติ.
- รองรับการพิมพ์ปริมาณมาก: ด้วยระบบแทงค์หมึกและความจุหมึกที่เยอะ ทำให้พิมพ์งานได้ในปริมาณมาก ลดความถี่ในการเปลี่ยนหมึก เหมาะสำหรับผู้ที่พิมพ์งานบ่อยๆ หรือมีธุรกิจพิมพ์.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ออฟฟิศ, ธุรกิจขนาดเล็ก, การใช้งานในบ้านที่พิมพ์งานบ่อย, นักเรียน นักศึกษาที่ต้องการพิมพ์งานปริมาณมาก, การพิมพ์เอกสารที่ต้องการความทนทานต่อน้ำ
ประเภทหมึก | สี | ปริมาณหมึก | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
อิงค์เจ็ท (ดำ Pigment, สี Dye) | ดำ (GT51), ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง (GT52) | ดำ 90 ml, สี 70 ml (โดยประมาณ) | ดำ 4,000 - 6,000 หน้า, สี 8,000 หน้า (A4 5% coverage) | HP Smart Tank 315, 415, 515, 615 และรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ Smart Tank | ขวดเติม | หัวเติมแบบพิเศษ ป้องกันหก/ผิดสี, หมึกดำกันน้ำ |
7. Ricoh - หมึกพิมพ์เลเซอร์ รุ่น SP230H
- ชื่อแบรนด์: Ricoh
- ชื่อสินค้า: หมึกพิมพ์เลเซอร์ รุ่น SP230H (ดำ)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 800 - 1,500 บาท (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกพิมพ์เลเซอร์ Ricoh SP230H เป็นตลับผงหมึกสีดำสำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Ricoh บางรุ่น. จุดเด่นของหมึกพิมพ์เลเซอร์คือความเร็วในการพิมพ์และความคมชัดของตัวอักษร เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานเอกสารปริมาณมากในสำนักงานที่ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำ. ผงหมึกให้ตัวอักษรสีดำที่เข้ม คมชัด ไม่เลอะง่าย และทนทาน. ตลับหมึกออกแบบมาให้เปลี่ยนได้ง่าย. เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจหรือสำนักงานที่เน้นการพิมพ์เอกสารขาวดำจำนวนมาก.
- จุดเด่นสินค้า: พิมพ์เร็ว, ตัวอักษรคมชัดมาก, เหมาะกับงานเอกสารปริมาณมาก, ทนทาน, เปลี่ยนง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารขาวดำความเร็วสูง: ใช้สำหรับพิมพ์เอกสารขาวดำด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Ricoh ที่รองรับ ให้ความเร็วในการพิมพ์สูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร่งด่วน.
- ให้ตัวอักษรที่คมและชัดเจน: ผงหมึกให้ตัวอักษรสีดำที่เข้ม อ่านง่าย คมชัดทุกรายละเอียด เหมาะสำหรับเอกสารสัญญา รายงาน หรือเอกสารทางธุรกิจที่ต้องการความชัดเจน.
- ทนทานต่อการซีดจาง: งานพิมพ์ที่ใช้หมึกเลเซอร์มีความทนทานต่อแสงแดดและความชื้นได้ดีกว่าหมึกอิงค์เจ็ท ทำให้เก็บเอกสารไว้ได้นาน.
- รองรับงานพิมพ์ปริมาณมาก: ตลับผงหมึกมีความจุสูง ทำให้สามารถพิมพ์เอกสารได้จำนวนมากต่อตลับ ลดความถี่ในการเปลี่ยนหมึก เหมาะสำหรับสำนักงานที่มีปริมาณงานพิมพ์สูง.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงาน, ธุรกิจ, หน่วยงานราชการ, ผู้ที่พิมพ์เอกสารขาวดำปริมาณมาก, งานที่ต้องการความเร็วและความคมชัดของตัวอักษร
ประเภทหมึก | สี | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | เทคโนโลยี | เหมาะกับ |
---|
เลเซอร์ | ดำ | ตลับผงหมึก (โทนเนอร์) | ประมาณ 3,000 - 3,500 หน้า (A4 5% coverage) | Ricoh SP230DNW, SP230SFNW และรุ่นอื่นๆ ที่ใช้หมึก SP230H | Laser | งานเอกสารขาวดำปริมาณมาก |
8. Epson - หมึกเติม รุ่น 001
- ชื่อแบรนด์: Epson
- ชื่อสินค้า: หมึกเติม รุ่น 001 (T03Y) (ดำ, ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 300 - 600 บาท/ขวด (ขึ้นอยู่กับสีและร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกเติม Epson 001 หรือรหัส T03Y เป็นหมึกแท้คุณภาพสูงสำหรับเครื่องพิมพ์ Epson EcoTank รุ่นระดับกลางถึงสูงที่เน้นประสิทธิภาพและความเร็ว. ให้คุณภาพงานพิมพ์ที่ยอดเยี่ยม ทั้งงานเอกสารที่คมชัดและงานพิมพ์ภาพถ่ายที่สีสันสดใส คมชัด เก็บรายละเอียดได้ดี. หมึกดำเป็น Pigment Ink ทำให้งานเอกสารทนน้ำได้ดีเยี่ยม. ขวดหมึกออกแบบมาให้เติมง่าย มีระบบป้องกันการเติมผิดสีและหกเลอะเทอะ. เหมาะสำหรับช่างภาพ สตูดิโอ หรือออฟฟิศที่ต้องการงานพิมพ์คุณภาพสูงและปริมาณมาก.
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพงานพิมพ์สูงมาก, สีสันสดใส คมชัด เก็บรายละเอียดดี, หมึกดำกันน้ำได้ดีเยี่ยม, เหมาะกับเครื่อง EcoTank รุ่นเน้นคุณภาพ, เติมง่าย ปลอดภัย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เติมหมึกสำหรับเครื่อง EcoTank ประสิทธิภาพสูง: ใช้สำหรับเติมหมึกเข้าแทงค์ของเครื่องพิมพ์ Epson EcoTank รุ่นที่เน้นคุณภาพงานพิมพ์สูง ขวดออกแบบมาเฉพาะรุ่น ป้องกันการเติมผิดพลาด.
- พิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพเทียบเท่าแล็บ: ให้สีสันที่ตรงตามจริง คมชัด เก็บรายละเอียดของภาพได้ดี เหมาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการพิมพ์ภาพผลงานของตัวเอง หรือร้านอัดรูปขนาดเล็ก.
- พิมพ์เอกสารสำคัญที่ต้องการความทนทาน: หมึกดำเป็น Pigment Ink ทำให้งานพิมพ์เอกสารทนน้ำได้ดีมาก เหมาะสำหรับเอกสารสัญญา ใบรับรอง หรือเอกสารสำคัญอื่นๆ.
- รองรับงานพิมพ์หลากหลายประเภท: ด้วยคุณภาพหมึกที่สูง ทำให้รองรับงานพิมพ์ได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่งานเอกสารทั่วไปจนถึงงานพิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูง.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ช่างภาพ, สตูดิโอ, ออฟฟิศที่เน้นงานพิมพ์คุณภาพสูง, ธุรกิจที่ต้องพิมพ์เอกสารสำคัญ, การพิมพ์ภาพถ่ายปริมาณมาก
ประเภทหมึก | สี | ปริมาณหมึก | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
อิงค์เจ็ท (ดำ Pigment, สี Dye) | ดำ, ฟ้า, ม่วงแดง, เหลือง | ดำ 127 ml, สี 70 ml (โดยประมาณ) | ดำ 6,000 - 7,500 หน้า, สี 6,000 หน้า (A4 5% coverage) | Epson L4150, L4160, L6160, L6170, L6190 และรุ่นอื่นๆ ในซีรีส์ EcoTank ที่รองรับหมึก 001 | ขวดเติม | หัวเติมแบบพิเศษ ป้องกันหก/ผิดสี, หมึกดำกันน้ำ |
9. Canon - หมึกพิมพ์เลเซอร์ รุ่น Cartridge 328
- ชื่อแบรนด์: Canon
- ชื่อสินค้า: หมึกพิมพ์เลเซอร์ รุ่น Cartridge 328 (ดำ)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 1,800 - 2,500 บาท (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกพิมพ์เลเซอร์ Canon Cartridge 328 เป็นตลับผงหมึกสีดำสำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Canon ในซีรีส์ LBP และ MF บางรุ่น. ให้คุณภาพงานพิมพ์เอกสารขาวดำที่คมชัด ตัวอักษรดำสนิท เหมาะสำหรับงานพิมพ์ปริมาณมากในสำนักงานที่ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำ. ผงหมึกมีคุณภาพดี ยึดเกาะกระดาษได้ดี ไม่ฟุ้งกระจาย. ตลับหมึกติดตั้งและเปลี่ยนได้ง่าย. เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับสำนักงานที่เน้นการพิมพ์เอกสารขาวดำคุณภาพสูง.
- จุดเด่นสินค้า: งานเอกสารคมชัด, ตัวอักษรดำสนิท, พิมพ์เร็ว, ทนทาน, เปลี่ยนง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารขาวดำในสำนักงาน: ใช้สำหรับพิมพ์เอกสารขาวดำด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Canon ที่รองรับ ให้ความเร็วในการพิมพ์สูง เหมาะสำหรับงานเอกสารทั่วไปในสำนักงาน.
- ให้งานพิมพ์ที่อ่านง่าย: ตัวอักษรที่พิมพ์ออกมามีความคมชัดสูง อ่านง่าย สบายตา เหมาะสำหรับเอกสารรายงาน จดหมาย หรือเอกสารอื่นๆ ที่ต้องอ่านจำนวนมาก.
- ประหยัดเวลาในการพิมพ์: ด้วยความเร็วของเครื่องพิมพ์เลเซอร์และคุณภาพของผงหมึก ทำให้สามารถพิมพ์งานปริมาณมากเสร็จรวดเร็ว ประหยัดเวลาทำงาน.
- ทนทานต่อการใช้งาน: ตลับผงหมึกมีความทนทาน ใช้งานได้นาน และให้งานพิมพ์ที่ทนต่อการซีดจาง เหมาะสำหรับเอกสารที่ต้องเก็บรักษาเป็นเวลานาน.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงาน, ธุรกิจ, หน่วยงานราชการ, ผู้ที่พิมพ์เอกสารขาวดำปริมาณมาก, งานที่ต้องการความรวดเร็วและความคมชัดของตัวอักษร
ประเภทหมึก | สี | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | เทคโนโลยี | เหมาะกับ |
---|
เลเซอร์ | ดำ | ตลับผงหมึก (โทนเนอร์) | ประมาณ 2,100 หน้า (A4 5% coverage) | Canon LBP6200d, MF4720w, MF4820d และรุ่นอื่นๆ ที่ใช้หมึก Cartridge 328 | Laser | งานเอกสารขาวดำในสำนักงาน |
10. Brother - หมึกพิมพ์เลเซอร์ รุ่น TN-2380
- ชื่อแบรนด์: Brother
- ชื่อสินค้า: หมึกพิมพ์เลเซอร์ รุ่น TN-2380 (ดำ)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 1,200 - 1,800 บาท (ขึ้นอยู่กับร้านค้า)
- คำอธิบายสินค้า: หมึกพิมพ์เลเซอร์ Brother TN-2380 เป็นตลับผงหมึกสีดำสำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Brother ในซีรีส์ HL และ MFC บางรุ่น. ให้คุณภาพงานพิมพ์เอกสารขาวดำที่คมชัด รวดเร็ว เหมาะสำหรับงานเอกสารปริมาณมากในสำนักงาน. ผงหมึกมีคุณภาพดี ให้ตัวอักษรที่ดำสม่ำเสมอ ทนทาน ไม่เลอะง่าย. ตลับหมึกออกแบบมาให้เปลี่ยนได้ง่าย และมีดรัมแยกทำให้ประหยัดขึ้นในระยะยาว. เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสำนักงานที่ต้องการงานพิมพ์ขาวดำคุณภาพสูงและคุ้มค่า.
- จุดเด่นสินค้า: งานเอกสารคมชัด, พิมพ์เร็ว, เหมาะกับงานปริมาณมาก, คุ้มค่า (ใช้ร่วมกับดรัม), เปลี่ยนง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารในสำนักงานอย่างรวดเร็ว: ใช้สำหรับพิมพ์เอกสารขาวดำด้วยเครื่องพิมพ์เลเซอร์ Brother ที่รองรับ ให้ความเร็วในการพิมพ์สูง ตอบโจทย์งานในออฟฟิศที่ต้องการความไว.
- ให้ตัวอักษรสีดำที่สม่ำเสมอ: ผงหมึกให้งานพิมพ์ที่มีตัวอักษรสีดำเข้ม สม่ำเสมอทั่วทั้งหน้ากระดาษ เหมาะสำหรับเอกสารทางธุรกิจ รายงาน หรือเอกสารสำคัญอื่นๆ.
- ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว: แม้ตลับหมึกจะมีราคาสูงในตอนแรก แต่เมื่อใช้ร่วมกับดรัมยูนิตที่แยกกัน ทำให้สามารถเปลี่ยนเฉพาะตลับหมึกได้เมื่อหมด ช่วยประหยัดต้นทุนในระยะยาว.
- ติดตั้งและดูแลรักษาง่าย: ตลับหมึกและดรัมยูนิตออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนเองได้ไม่ยาก ลดความจำเป็นในการเรียกช่างมาดูแล.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สำนักงาน, ธุรกิจ, หน่วยงานราชการ, ผู้ที่พิมพ์เอกสารขาวดำปริมาณมาก, งานที่ต้องการความเร็วและความคุ้มค่าในระยะยาว
ประเภทหมึก | สี | ประเภทบรรจุภัณฑ์ | ปริมาณการพิมพ์ (โดยประมาณ) | เครื่องที่รองรับ | เทคโนโลยี | เหมาะกับ |
---|
เลเซอร์ | ดำ | ตลับผงหมึก (โทนเนอร์) | ประมาณ 2,600 หน้า (A4 5% coverage) | Brother HL-L2320D, HL-L2360DN, MFC-L2700D, MFC-L2700DW และรุ่นอื่นๆ ที่ใช้หมึก TN-2380 | Laser | งานเอกสารขาวดำในสำนักงาน |
คำแนะนำการเลือกซื้อหมึกปริ้นเตอร์ให้โดนใจ ปี 2025
- 1. เช็คให้ชัวร์! ประเภทและรุ่นของเครื่องพิมพ์เราคืออะไร?
ข้อแรกที่สำคัญที่สุดแบบลืมไม่ได้เลยนะคะแม่! ก่อนจะพุ่งตัวไปกดสั่งหมึก ไม่ว่าจะเป็นออนไลน์หรือหน้าร้าน เราต้องรู้ก่อนว่าเครื่องปริ้นเตอร์ที่เราใช้อยู่นั้นเป็นประเภทไหนและรุ่นอะไร. ทำไมต้องรู้? ก็เพราะว่าหมึกแต่ละชนิด แต่ละรุ่นเนี่ย เขาออกแบบมาให้ใช้กับเครื่องพิมพ์เฉพาะรุ่นเท่านั้นค่ะ ใส่ผิด ชีวิตเปลี่ยนนะเออ! เครื่องพิมพ์หลักๆ ที่ฮิตๆ ในบ้านเราก็จะมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท (Inkjet Printer) ที่ใช้หมึกน้ำ ส่วนใหญ่เหมาะกับการพิมพ์งานสี รูปภาพได้สวย สีสดใส และ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer) ที่ใช้ผงหมึก (โทนเนอร์) ตัวนี้จะเด่นเรื่องความเร็วในการพิมพ์ โดยเฉพาะงานขาวดำ และงานเอกสารปริมาณมาก. พอรู้ประเภทแล้ว ก็ต้องดูรุ่นให้ละเอียดเป๊ะๆ ค่ะ อย่าง Canon ก็มีหลายซีรีส์ Epson ก็มี EcoTank, L Series, WF Series HP ก็มี DeskJet, OfficeJet, Smart Tank Brother ก็มี DCP, MFC, HL คือเยอะมากแม่! ถ้าไม่แน่ใจจริงๆ แนะนำให้เปิดฝาเครื่องปริ้นเตอร์ดูที่สติกเกอร์บอกรุ่น หรือดูที่คู่มือที่มาพร้อมเครื่อง หรือถ้ากล่องหมึกเก่ายังอยู่ก็ดูที่กล่องนั่นแหละค่ะ ง่ายสุด! การเลือกหมึกให้ตรงรุ่น นอกจากจะได้งานพิมพ์คุณภาพดีตรงตามสเปกของเครื่องแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องพิมพ์เราด้วยนะคะ เพราะหมึกที่ไม่ได้มาตรฐานหรือผิดประเภท อาจทำให้หัวพิมพ์อุดตัน (สำหรับอิงค์เจ็ท) หรือทำให้ชิ้นส่วนอื่นๆ เสียหายได้ในระยะยาวค่ะ อย่าเห็นแก่ของถูกที่ใส่แล้วพังนะจ๊ะ ไม่คุ้มอย่างแรง!
- 2. หมึกแท้ VS หมึกเทียบเท่า เลือกแบบไหนดีให้เหมาะกับงานและงบประมาณ?
ประเด็นโลกแตกของชาวเราเลยค่ะ "หมึกแท้" กับ "หมึกเทียบเท่า" ต่างกันยังไง? เลือกแบบไหนถึงจะคุ้ม? มาเคลียร์กันชัดๆ ตรงนี้เลยจ้า. หมึกแท้ (Original Ink / Toner) คือหมึกที่ผลิตโดยแบรนด์เดียวกับผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ของเราเลยค่ะ เช่น หมึก HP ก็ผลิตโดย HP, หมึก Canon ก็ผลิตโดย Canon ข้อดีคือคุณภาพงานพิมพ์ดีเยี่ยม สีสวยสดใส คมชัดตรงตามสเปกเครื่องเป๊ะๆ หัวพิมพ์ไม่ค่อยมีปัญหา (ถ้าเป็นอิงค์เจ็ท) และส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับการรับประกันจากผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ด้วยค่ะ แต่ข้อเสียที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือ "ราคาค่อนข้างสูง" จ่ายทีมีสะอื้นเบาๆ. ส่วน หมึกเทียบเท่า (Compatible Ink / Toner) คือหมึกที่ผลิตโดยบริษัทอื่นๆ ไม่ใช่ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์โดยตรงค่ะ แต่เขาทำขึ้นมาให้สามารถใช้กับเครื่องพิมพ์รุ่นต่างๆ ได้ ข้อดีอันดับหนึ่งที่ทำให้หลายคนหันไปซบเลยก็คือ "ราคาถูกกว่าหมึกแท้ค่อนข้างมาก" บางทีถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งก็มีนะ เหมาะสำหรับคนที่พิมพ์งานเยอะๆ แต่ไม่ได้ต้องการคุณภาพสูงระดับมืออาชีพจ๋า. แต่ข้อควรระวังคือคุณภาพอาจจะไม่เท่าหมึกแท้เป๊ะๆ สีอาจจะดร็อปลงนิดหน่อย หรือบางยี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้หัวพิมพ์อุดตันได้ง่าย และที่สำคัญคือการใช้หมึกเทียบเท่า "อาจทำให้ประกันเครื่องพิมพ์ขาดได้" นะคะ ต้องเช็คตรงนี้ให้ดีก่อนตัดสินใจ. ดังนั้นจะเลือกแบบไหนดี? ถ้าเน้นคุณภาพสูงสุด งานสำคัญ ต้องพิมพ์รูปขาย หรืออยากได้ความสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องเสียในประกัน หมึกแท้คือคำตอบค่ะ. แต่ถ้าเน้นความประหยัด พิมพ์งานทั่วไปในบ้าน งานเอกสารที่ไม่ซีเรียสเรื่องสีเป๊ะมากนัก หมึกเทียบเท่าจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจค่ะ. ลองชั่งน้ำหนักระหว่างคุณภาพกับงบประมาณดูนะคะ.
- 3. รู้จักประเภทของหมึก (Dye vs Pigment) และเลือกให้เหมาะกับงานพิมพ์ของเรา
เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมหมึกบางแบบสีสดจัง แต่โดนน้ำแล้วเลอะง่าย อีกแบบสีไม่สดเท่าแต่ทนน้ำดี๊ดี นั่นเป็นเพราะประเภทของหมึกที่ใช้ค่ะ หลักๆ ของหมึกอิงค์เจ็ทที่เราใช้กันเนี่ยจะมีอยู่ 2 แบบคือ หมึก Dye-based (หมึกสีย้อม) และ หมึก Pigment-based (หมึกเม็ดสี). หมึก Dye-based เนี่ย จะเป็นหมึกที่มีลักษณะเป็นน้ำ สีจะมีความสดใส ฉูดฉาด เหมาะกับการพิมพ์ภาพถ่ายมากๆ ให้สีที่ดูมีชีวิตชีวา. ข้อดีคือราคาไม่แพง หัวพิมพ์ไม่ค่อยอุดตันง่าย. แต่ข้อเสียคือไม่ทนน้ำ โดนน้ำแล้วเยิ้มได้ง่าย และงานพิมพ์มีโอกาสซีดจางเมื่อโดนแสงแดดโดยตรงในระยะยาวค่ะ. ส่วนหมึก Pigment-based จะเป็นหมึกที่มีลักษณะเป็นผงสีเล็กๆ แขวนลอยอยู่ในน้ำ. ข้อดีเด่นๆ เลยคือ "ทนน้ำได้ดีเยี่ยม" พิมพ์เอกสารแล้วโดนน้ำก็ไม่ค่อยเลอะ และงานพิมพ์มีความทนทานต่อแสงแดด สีไม่ซีดจางง่าย เหมาะสำหรับพิมพ์เอกสารสำคัญที่ต้องการเก็บไว้นานๆ. แต่ข้อเสียคือสีสันอาจจะไม่สดใสเท่าหมึก Dye-based และมีโอกาสที่หัวพิมพ์จะอุดตันได้ง่ายกว่าถ้าไม่ได้ใช้งานเครื่องพิมพ์บ่อยๆ. นอกจากสองแบบนี้ ยังมีหมึกประเภทอื่นๆ อีก เช่น Toner สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่ให้ความคมชัดและทนทานสูง เหมาะกับงานเอกสารขาวดำปริมาณมาก หรือหมึก UV, Eco-Solvent สำหรับงานพิมพ์เฉพาะทาง. ดังนั้น ก่อนซื้อหมึก ให้ลองคิดดูว่าเราเน้นพิมพ์งานแบบไหน ถ้าเน้นพิมพ์รูปถ่ายสีสวยๆ ไม่ได้เน้นความทนน้ำมากนัก หมึก Dye-based ก็เพียงพอค่ะ แต่ถ้าเน้นพิมพ์เอกสารสำคัญที่ต้องการความคมชัด ทนน้ำ ทนแดด หรือพิมพ์งานในออฟฟิศที่ต้องเก็บเอกสารไว้นาน หมึก Pigment-based หรือหมึก Toner (สำหรับเครื่องเลเซอร์) จะตอบโจทย์กว่าค่ะ. การเลือกประเภทหมึกให้ตรงกับการใช้งานจะช่วยให้ได้งานพิมพ์คุณภาพที่ดีที่สุดและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปค่ะ.
- 4. พิจารณาปริมาณการพิมพ์ (Yield) และต้นทุนต่อแผ่น
อันนี้สายประหยัดต้องฟังให้ดี! นอกจากราคาตลับหมึกหรือขวดหมึกแล้ว สิ่งที่เราควรพิจารณาอีกอย่างคือ "ปริมาณการพิมพ์" หรือ "Yield" ที่หมึกนั้นทำได้ค่ะ ปกติแล้วผู้ผลิตหมึกจะระบุจำนวนหน้าที่สามารถพิมพ์ได้โดยประมาณ (โดยคิดจากมาตรฐานการพิมพ์แบบ 5% coverage บนกระดาษ A4) ซึ่งตัวเลขนี้จะบอกเราได้ว่าหมึกหนึ่งตลับหรือหนึ่งขวดเนี่ย จะพิมพ์ได้กี่แผ่นโดยประมาณ. การดูปริมาณการพิมพ์จะช่วยให้เราคำนวณ "ต้นทุนต่อแผ่น" ได้ค่ะ โดยเอา "ราคาหมึก" หารด้วย "จำนวนหน้าที่พิมพ์ได้โดยประมาณ" ก็จะได้ต้นทุนคร่าวๆ ต่อแผ่นออกมา. บางทีหมึกที่ราคาต่อตลับถูกกว่า อาจจะพิมพ์ได้จำนวนหน้าน้อยกว่าหมึกที่ราคาต่อตลับแพงกว่าก็ได้ ทำให้เมื่อคำนวณต้นทุนต่อแผ่นออกมาแล้ว หมึกที่ราคาตลับแพงกว่าอาจจะมีต้นทุนต่อแผ่นที่ถูกกว่าในระยะยาว. โดยเฉพาะถ้าเราพิมพ์งานเยอะๆ เป็นประจำ การเลือกหมึกที่มี Yield สูงๆ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะเลยค่ะ. อย่างพวกเครื่องพิมพ์ระบบแทงค์หมึก (Ink Tank) ที่ใช้หมึกแบบขวดเติมเนี่ย ส่วนใหญ่จะมี Yield ที่สูงมากๆ พิมพ์ได้หลายพันหน้า ทำให้ต้นทุนต่อแผ่นถูกลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับคนที่พิมพ์งานปริมาณมหาศาล. แต่ถ้าเราพิมพ์งานไม่บ่อย พิมพ์แค่ครั้งละไม่กี่แผ่น การเลือกตลับหมึกแบบมาตรฐานที่มี Yield ปกติก็อาจจะเพียงพอค่ะ ไม่ต้องซื้อแบบ Yield สูงเวอร์วังก็ได้ เพราะถ้าหมึกเหลือค้างไว้นานๆ ก็มีโอกาสแห้งหรือเสื่อมคุณภาพได้ค่ะ. ลองประเมินปริมาณงานพิมพ์ที่เราต้องใช้จริงๆ แล้วเลือก Yield ของหมึกให้เหมาะสมนะคะ จะได้คุ้มค่าที่สุดค่ะ.
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหมึกปริ้นเตอร์
- Q: หมึกปริ้นเตอร์มีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?
A: อายุการใช้งานของหมึกปริ้นเตอร์จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทของหมึก การจัดเก็บ และการใช้งานค่ะ หมึกแบบตลับ (Cartridge) ถ้ายังไม่แกะออกจากบรรจุภัณฑ์และเก็บในที่แห้งและเย็น ส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 2 ปีนับจากวันผลิต. แต่ถ้าแกะใช้แล้ว อายุการใช้งานจะสั้นลง ขึ้นอยู่กับความถี่ในการพิมพ์และการดูแลรักษา ถ้าทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ใช้ (โดยเฉพาะหมึกอิงค์เจ็ท) มีโอกาสที่หัวพิมพ์จะอุดตันหรือหมึกแห้งได้ค่ะ. ส่วนหมึกเติมแบบขวด (สำหรับ Ink Tank) ถ้ายังไม่เปิดใช้ ก็มีอายุใกล้เคียงกับแบบตลับค่ะ แต่ถ้าเปิดแล้ว ควรใช้ให้หมดภายในระยะเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ (ส่วนใหญ่อยู่ที่ 6 เดือน - 1 ปี) เพื่อคุณภาพการพิมพ์ที่ดีที่สุดค่ะ.
- Q: ใช้หมึกเทียบเท่าแล้วเครื่องพิมพ์จะเสียจริงไหม?
A: การใช้หมึกเทียบเท่าที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจากผู้ผลิตที่เชื่อถือได้ ส่วนใหญ่จะไม่ทำให้เครื่องพิมพ์เสียทันทีค่ะ. อย่างไรก็ตาม หมึกเทียบเท่าบางยี่ห้อที่คุณภาพต่ำ หรือไม่ได้ผลิตตามมาตรฐาน อาจมีส่วนผสมของหมึกที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้หัวพิมพ์อุดตันได้ง่ายขึ้น (สำหรับอิงค์เจ็ท) หรืออาจส่งผลต่อชิ้นส่วนภายในเครื่องพิมพ์ได้ในระยะยาวค่ะ. ที่สำคัญคือ การใช้หมึกเทียบเท่า "อาจทำให้เงื่อนไขการรับประกันของเครื่องพิมพ์จากผู้ผลิตหลักสิ้นสุดลง" ได้นะคะ. ดังนั้น ถ้ากังวลเรื่องนี้มากๆ และเครื่องพิมพ์ยังอยู่ในระยะประกัน แนะนำให้ใช้หมึกแท้เพื่อความสบายใจค่ะ. ถ้าจะใช้หมึกเทียบเท่า ควรเลือกซื้อจากร้านค้าหรือแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ และมีการรับประกันสินค้าค่ะ.
- Q: หมึกอิงค์เจ็ทกับหมึกเลเซอร์ต่างกันยังไง?
A: สองแบบนี้ต่างกันชัดเจนค่ะ หมึกอิงค์เจ็ท เป็น "หมึกน้ำ" บรรจุในตลับหรือขวด (สำหรับ Ink Tank) เหมาะกับการพิมพ์งานสี พิมพ์รูปภาพ ให้สีสันสดใส แต่ไม่ทนน้ำเท่าหมึกเลเซอร์ และพิมพ์ช้ากว่าหมึกเลเซอร์ค่ะ. ส่วน หมึกเลเซอร์ เป็น "ผงหมึก" (โทนเนอร์) บรรจุในตลับ เหมาะกับการพิมพ์งานขาวดำ งานเอกสารปริมาณมาก พิมพ์ได้รวดเร็ว ตัวอักษรคมชัดมาก และทนน้ำได้ดีเยี่ยม. โดยทั่วไปเครื่องพิมพ์เลเซอร์และหมึกจะมีราคาสูงกว่าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทและหมึก แต่ต้นทุนต่อแผ่นของหมึกเลเซอร์มักจะถูกกว่าถ้าพิมพ์ปริมาณเยอะๆ ค่ะ. เลือกใช้ให้เหมาะกับประเภทของงานและปริมาณงานพิมพ์ของเรานะคะ.
- Q: ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องพิมพ์นานๆ ควรทำยังไงกับหมึก?
A: ถ้าไม่ได้ใช้เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทนานๆ มีโอกาสที่หมึกจะแห้งหรือหัวพิมพ์อุดตันได้ค่ะ. วิธีป้องกันเบื้องต้นคือ อย่าถอดตลับหมึกออกจากเครื่องโดยไม่จำเป็น เพราะการถอดเข้าถอดออกบ่อยๆ อาจทำให้หัวพิมพ์มีอากาศเข้าไปและแห้งได้. และพยายาม เปิดเครื่องพิมพ์ไว้อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือสั่งพิมพ์ทดสอบเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้หมึกได้ไหลเวียนบ้างค่ะ. ถ้าเครื่องพิมพ์มีฟังก์ชันทำความสะอาดหัวพิมพ์ ก็สามารถใช้ฟังก์ชันนี้ช่วยได้นะคะ. ส่วนเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ปัญหาผงหมึกแห้งน้อยกว่า แต่ถ้าทิ้งไว้นานมากๆ ผงหมึกอาจจับตัวเป็นก้อนได้ค่ะ.
- Q: จะรู้ได้อย่างไรว่าหมึกใกล้หมดหรือหมดแล้ว?
A: เครื่องพิมพ์ส่วนใหญ่จะมีโปรแกรมหรือไดรเวอร์ที่ติดตั้งมาพร้อมเครื่อง ซึ่งสามารถตรวจสอบระดับหมึกที่เหลืออยู่ได้ค่ะ. บางรุ่นอาจมีไฟแสดงสถานะที่ตัวเครื่อง หรือมีข้อความแจ้งเตือนบนหน้าจอเครื่องพิมพ์หรือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อหมึกใกล้หมด. สังเกตจากคุณภาพงานพิมพ์ก็ได้ค่ะ ถ้าสีเริ่มจาง ไม่สม่ำเสมอ หรือมีเส้นขาวๆ ปรากฏขึ้น อาจเป็นสัญญาณว่าหมึกใกล้หมดแล้ว หรือหัวพิมพ์เริ่มมีปัญหาค่ะ. อย่าปล่อยให้หมึกหมดเกลี้ยงถึงค่อยเปลี่ยนนะคะ เพราะอาจทำให้หัวพิมพ์เสียหายได้ค่ะ.
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง