10 หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงใสคมชัด แบตอึดสุดยอด

user avatar
ZestOfficeSupplies·2025-05-29 17:05
点赞
10 หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงใสคมชัด แบตอึดสุดยอด

สวัสดีค่าาา ทุกคน! วันนี้จะมาเม้าท์มอยเรื่องแกดเจ็ตคู่ใจที่ขาดไม่ได้ในยุค 5G อย่าง ‘หูฟังบลูทูธ’ นี่แหละค่ะคุณณณ! ชีวิตประจำวันชาวไทยอย่างเราๆ เนี่ย ต้องเจออะไรต่อมิอะไรสารพัด ทั้งรถติด เพลงเพราะ หนังสนุก หรือแม้กระทั่งต้องประชุมงานออนไลน์แบบด่วนๆ หูฟังดีๆ สักอันนี่เหมือนเพื่อนแท้เลยนะ จะเดินทางไปไหน มาไหน นั่ง BTS, MRT หรือรถเมล์ร้อน ก็อยากได้ยินเสียงเพลงใสๆ ชัดๆ แบบไม่มีเสียงนกเสียงกา เสียงเครื่องยนต์มารบกวนใช่ไหมล่ะ ยิ่งช่วงเทศกาลหยุดยาว ที่ต้องเดินทางกลับบ้าน หรือไปเที่ยวกับครอบครัว การมีหูฟังดีๆ คู่ใจสักอันเนี่ย ช่วยให้การเดินทางราบรื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ! แถมเทคโนโลยีปี 2025 เนี่ยไปไกลมากกก แบตอึด ฟังกันยาวๆ ข้ามวันข้ามคืนได้สบาย! วันนี้เปมิกาคนเดิม เพิ่มเติมคือเป็นกูรูเรื่องช้อปปิ้งออนไลน์ จะขออาสามาป้ายยา 10 หูฟังบลูทูธตัวท็อป ที่คัดมาแล้วว่าเด็ดจริง เสียงใสคมชัด แบตอึดสุดยอด แถมมีหลากหลายสไตล์ให้เลือกช้อปตามใจชอบ พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่า!

1. Sony WF-1000XM5

  • ชื่อแบรนด์: Sony
  • ชื่อสินค้า: WF-1000XM5
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 7,290 - 9,490 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ตัวท็อปสายคุณภาพเสียงและระบบตัดเสียงรบกวนระดับเทพ! Sony WF-1000XM5 มาพร้อมชิปประมวลผล V2 ใหม่ล่าสุด ที่ทำให้การตัดเสียงรบกวนทำได้ยอดเยี่ยมกว่าเดิมสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงคนคุย เสียงรถ เสียงเครื่องบิน คือเงียบกริบ! ให้คุณได้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงแบบเต็มอิ่มถึงใจ แถมยังรองรับ Hi-Res Audio ฟังเพลงความละเอียดสูงได้สบาย รายละเอียดเสียงมาครบ เบสแน่น กลางชัด แหลมใส เป็นหูฟังที่เกิดมาเพื่อคนรักเสียงเพลงและต้องการสมาธิขั้นสุด ไม่ผิดหวังแน่นอนสำหรับตัวนี้ค่ะ.
  • จุดเด่นสินค้า: ระบบตัดเสียงรบกวนดีที่สุด、คุณภาพเสียง Hi-Res Audio、ชิปประมวลผล V2 ใหม่、รองรับ LDAC และ DSEE Extreme、ดีไซน์เล็กกะทัดรัดขึ้น
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ตัดเสียงรบกวนขั้นสุดยอด: ด้วยเทคโนโลยี Active Noise Cancellation (ANC) ที่ทำงานร่วมกับชิป V2 ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ทำให้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง เช่น รถไฟฟ้า BTS/MRT หรือบนเครื่องบิน ช่วยให้มีสมาธิกับการฟังเพลงหรือทำงานได้อย่างเต็มที่.
    • คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ: รองรับ Hi-Res Audio พร้อม codec คุณภาพสูงอย่าง LDAC และมีเทคโนโลยี DSEE Extreme ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงเพลงทั่วไปให้ใกล้เคียงกับ Hi-Res Audio มอบประสบการณ์การฟังเพลงที่เต็มอิ่ม รายละเอียดเสียงครบถ้วน ทั้งเสียงร้อง เสียงดนตรี และเบสที่ทรงพลัง.
    • เชื่อมต่อหลากหลายและเสถียร: รองรับ Bluetooth 5.3 ทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็วและเสถียร สามารถเชื่อมต่อพร้อมกันได้สองอุปกรณ์ (Multipoint Connection) สลับใช้งานระหว่างมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างราบรื่น ไม่พลาดทุกการสื่อสาร.
    • ปรับเสียงอัตโนมัติตามสถานการณ์: มีระบบ Adaptive Sound Control ที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมและสถานที่ที่คุณอยู่ แล้วปรับการตั้งค่าเสียงและการตัดเสียงรบกวนให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อเดินอยู่ริมถนนก็จะเปิดรับเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัย.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนรักเสียงเพลงตัวจริง, ผู้ที่ต้องการสมาธิสูง, นักเดินทาง, ใช้ในระบบขนส่งสาธารณะ, ทำงานในออฟฟิศที่มีเสียงรบกวน.
ประเภทหูฟังการตัดเสียงรบกวนBluetoothแบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส)การกันน้ำCodecไดรเวอร์น้ำหนักหูฟัง
In-Ear True WirelessAdaptive ANC5.38 ชม. + 16 ชม. (รวม 24 ชม.)IPX4SBC, AAC, LDAC, LC3Dynamic Driver X 8.4 มม.5.9 กรัม/ข้าง

2. Samsung Galaxy Buds3 Pro

  • ชื่อแบรนด์: Samsung
  • ชื่อสินค้า: Galaxy Buds3 Pro
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 7,490 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: สาย Samsung หรือชาว Android ที่เน้นคุณภาพเสียงระดับโปร ต้องดูตัวนี้เลยค่ะ Galaxy Buds3 Pro มาแบบจัดเต็ม ทั้ง Ultimate Hi-Fi 24bit/96kHz, ลำโพง 2 ตัวในหูฟังแต่ละข้าง และระบบเสียง 360 องศา ที่ทำให้ดูหนังฟังเพลงได้สมจริงเหมือนอยู่ในโรงหนังหรือคอนเสิร์ตเลยทีเดียวค่ะ เสียงใส เบสแน่น เก็บรายละเอียดได้ครบ แถมมี Adaptive ANC ที่ปรับระดับได้ตามใจ หรือจะให้ปรับอัตโนมัติก็ฉลาดสุดๆ ดีไซน์ใหม่ก็ใส่สบายขึ้นเยอะค่ะ.
  • จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียง Hi-Fi、ระบบเสียง 360 องศา、Adaptive ANC ปรับระดับได้、ดีไซน์ใหม่ใส่สบาย、ไมโครโฟนคมชัด
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ดื่มด่ำกับเสียงเพลงและคอนเทนต์: มอบประสบการณ์เสียงระดับ Ultimate Hi-Fi ด้วยความละเอียด 24bit/96kHz และระบบเสียง 360 องศา ทำให้การฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกม มีมิติและสมจริงมากยิ่งขึ้น ได้ยินรายละเอียดเสียงที่คมชัด เบสที่ทรงพลัง และเสียงรอบทิศทางที่น่าทึ่ง.
    • ควบคุมเสียงรบกวนได้ดั่งใจ: ด้วย Adaptive ANC ที่สามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ถึง 5 ระดับ หรือจะเลือกใช้ Ambient Mode เพื่อฟังเสียงรอบข้างก็ได้เช่นกัน มีระบบปรับอัตโนมัติที่ฉลาด ช่วยให้คุณควบคุมเสียงในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่นและปลอดภัย.
    • สนทนาชัดเจนทุกสถานการณ์: มาพร้อมไมโครโฟน 3 ตัวต่อข้าง ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Beamforming ช่วยโฟกัสเสียงพูดของคุณ ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงที่คมชัด แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน เช่น คุยโทรศัพท์ขณะเดินอยู่ริมถนนหรือในที่สาธารณะ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Samsung/Android, คนที่เน้นคุณภาพเสียงระดับสูง, ดูหนังฟังเพลง, เล่นเกม, ประชุมออนไลน์, ใช้งานในชีวิตประจำวัน.
ประเภทหูฟังการตัดเสียงรบกวนคุณภาพเสียงจำนวนไมโครโฟนBluetoothระบบเสียงพิเศษการกันน้ำราคาเปิดตัว
In-Ear True WirelessAdaptive ANCUltimate Hi-Fi 24bit/96kHz3 ตัว/ข้าง + Beamformingไม่ระบุ (รองรับ Samsung Seamless Codec)360 AudioIP Standard (ไม่ระบุรุ่น)7,490 บาท

3. Xiaomi Buds 5 Pro

  • ชื่อแบรนด์: Xiaomi
  • ชื่อสินค้า: Buds 5 Pro
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 5,990 - 6,490 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ใครเป็นสาวก Xiaomi หรือมองหาหูฟังที่ฟีเจอร์แน่นๆ คุณภาพเสียงดี ในราคาที่เข้าถึงง่าย ต้องลอง Buds 5 Pro ค่ะ จุดเด่นคือระบบตัดเสียงรบกวนที่ทรงพลังถึง 55dB แถมจูนเสียงโดย Harman AudioEFX ชื่อนี้การันตีคุณภาพเสียงได้เลยค่ะ! เสียงคมชัด เบสแน่น รายละเอียดดี รองรับ Lossless Audio ด้วยนะ ดีไซน์ก็สวยล้ำทันสมัย มีฟังก์ชัน AI ช่วยเรื่องการบันทึกเสียง ถอดความ หรือแปลภาษาได้ด้วย เหมาะกับคนยุคใหม่ที่ใช้หูฟังหลากหลายรูปแบบสุดๆ.
  • จุดเด่นสินค้า: ANC สูงสุด 55dB、จูนเสียงโดย Harman AudioEFX、รองรับ Lossless Audio (Qualcomm aptX)、มีฟังก์ชัน AI อัจฉริยะ、ราคาคุ้มค่า
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ตัดเสียงรบกวนได้ลึกและปรับได้: ระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ที่ลดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 55dB สามารถปรับระดับได้หลากหลายตามความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน ช่วยให้คุณมีพื้นที่ส่วนตัวในการฟังเพลงหรือทำงานได้ดียิ่งขึ้น แม้อยู่ในที่ที่เสียงดังมากๆ.
    • คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi: มาพร้อมไดรเวอร์แบบแกนร่วม 3 ตัว และแอมพลิฟายเออร์คู่ รองรับการถอดรหัสเสียงแบบ Lossless อย่าง Qualcomm aptX และได้รับการจูนเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญจาก Harman AudioEFX มอบประสบการณ์เสียงที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วน และสมดุลในทุกย่านความถี่.
    • ฟังก์ชัน AI อัจฉริยะ: มีฟีเจอร์ที่ใช้ AI ช่วยในการบันทึกเสียง ถอดความเสียงพูด หรือแม้กระทั่งแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สะดวกและเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการประชุม การเรียน หรือการทำงานที่ต้องมีการบันทึกและจัดการข้อมูลเสียง.
    • ควบคุมง่ายและเชื่อมต่อเสถียร: สามารถควบคุมการเล่นเพลง รับสาย หรือเรียกใช้งานฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยท่าทางการสัมผัสบนตัวหูฟัง การเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ก็มีความเสถียรสูง พร้อมใช้งานได้ทันที.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Xiaomi, คนที่มองหาหูฟัง ANC คุณภาพดีราคาไม่แรง, ฟังเพลงหลากหลายแนว, ประชุม/เรียนออนไลน์, ใช้งานฟังก์ชัน AI.
ประเภทหูฟังการตัดเสียงรบกวนBluetoothคุณภาพเสียงการจูนเสียงฟังก์ชันพิเศษราคาเปิดตัวIP Standard
In-Ear True WirelessANC สูงสุด 55dBไม่ระบุ (รองรับ Qualcomm aptX Lossless)Lossless (Qualcomm aptX), Hi-Res AudioHarman AudioEFXAI Features5,990 - 6,490 บาทมี (ไม่ระบุรุ่น)

4. OPPO Enco Buds3 Pro

  • ชื่อแบรนด์: OPPO
  • ชื่อสินค้า: Enco Buds3 Pro
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 999 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ใครมีงบจำกัด แต่อยากได้หูฟังบลูทูธที่คุณภาพเกินราคา แบตอึดแบบตะโกน! ต้องยกให้ OPPO Enco Buds3 Pro ตัวนี้เลยค่ะ! ด้วยราคาแค่พันต้นๆ แต่ให้ไดรเวอร์มาถึง 12.4 มม. เสียงดีเกินคาด มีฟีเจอร์ Enco Master ปรับเสียงได้ตามสไตล์ ที่เด็ดสุดคือแบตเตอรี่ที่เคลมว่าใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 54 ชั่วโมง! ใส่ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมกันไปยาวๆ ลืมเรื่องชาร์จไปได้เลยค่ะ แถมยังกันน้ำกันฝุ่น IP55 ใส่ออกกำลังกายได้สบายหายห่วง.
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาประหยัดสุดคุ้ม、แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 54 ชม.、ไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 12.4 มม.、กันน้ำกันฝุ่น IP55、มีฟีเจอร์ปรับแต่งเสียง Enco Master
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลงได้ยาวนานสุดๆ: จุดเด่นที่ทำให้หลายคนต้องว้าว คือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานร่วมกับเคสชาร์จได้ยาวนานสูงสุดถึง 54 ชั่วโมง ทำให้คุณเพลิดเพลินกับเสียงเพลง พอดแคสต์ หรือคอนเทนต์ต่างๆ ได้ตลอดทั้งวันและข้ามคืน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด เหมาะกับการเดินทางไกลๆ หรือคนที่ขี้เกียจชาร์จบ่อยๆ.
    • คุณภาพเสียงเกินราคา: แม้จะเป็นหูฟังในงบประหยัด แต่มาพร้อมไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 12.4 มม. ที่ให้เสียงที่ทรงพลัง โดยเฉพาะเสียงเบสที่แน่นฟังสนุก นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Enco Master ที่ช่วยให้คุณปรับแต่ง EQ ของเสียงได้ตามความชอบ ทำให้ได้เสียงที่เป็นสไตล์ของคุณเอง.
    • ใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์: ด้วยคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP55 ทำให้ OPPO Enco Buds3 Pro เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ใส่ลุยฝนเล็กน้อย หรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น โดยไม่ต้องกลัวหูฟังเสียหายจากเหงื่อหรือละอองน้ำ.
    • เชื่อมต่อไว ความหน่วงต่ำ: ใช้ Bluetooth 5.4 ในการเชื่อมต่อ ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างหูฟังกับอุปกรณ์มีความรวดเร็วและเสถียร นอกจากนี้ยังมีโหมดความหน่วงต่ำที่ช่วยให้การดูหนังหรือเล่นเกมมีภาพและเสียงที่ซิงค์กันได้ดี ลดปัญหาความหน่วงของเสียง.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบจำกัด, นักเรียน นักศึกษา, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน, ออกกำลังกาย, เดินทาง, คนที่เน้นแบตเตอรี่อึด.
ประเภทหูฟังBluetoothแบตเตอรี่ (รวมเคส)ไดรเวอร์การกันน้ำ/กันฝุ่นฟีเจอร์เสียงความหน่วงราคา
In-Ear True Wireless5.4สูงสุด 54 ชม.12.4 มม.IP55Enco Master, EQต่ำ~999 บาท

5. Marshall Motif II A.N.C.

  • ชื่อแบรนด์: Marshall
  • ชื่อสินค้า: Motif II A.N.C.
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 7,490 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: สายคลาสสิก ชอบดีไซน์เท่ๆ ไม่ซ้ำใคร พร้อมคุณภาพเสียงสไตล์ Marshall ต้องตัวนี้เลยค่ะ Motif II A.N.C. ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ที่อัปเกรดมาให้ดีขึ้น ช่วยให้ดื่มด่ำกับเสียงเพลงสไตล์ Marshall ได้เต็มที่ เบสแน่น เสียงร้องคมชัด รายละเอียดกีตาร์มาเต็ม! แบตเตอรี่ก็อึดขึ้น ใช้งานรวมเคสได้ถึง 30 ชั่วโมง แถมไมโครโฟนยังใช้ AI ช่วยให้คุยโทรศัพท์ชัดแจ๋ว และยังรักษ์โลกด้วยวัสดุรีไซเคิลอีกด้วยนะ ครบเครื่องจริงๆ!
  • จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์ Marshall สุดคลาสสิก、คุณภาพเสียงเอกลักษณ์ Marshall (เบสแน่น กลางชัด)、ANC อัปเกรด、แบตเตอรี่อึด 30 ชม. (รวมเคส)、ไมโครโฟน AI คุยชัด
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ดื่มด่ำเสียงเพลงสไตล์ร็อค: มอบประสบการณ์เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Marshall ที่โดดเด่นด้วยเสียงเบสที่หนักแน่นทรงพลัง เสียงกลางที่คมชัด และรายละเอียดของเครื่องดนตรีที่ครบถ้วน ทำให้การฟังเพลงแนวร็อค บลูส์ หรือเพลงที่มีจังหวะสนุกๆ ได้อรรถรสเหมือนอยู่หน้าเวทีคอนเสิร์ต.
    • ตัดเสียงรบกวนเพื่อความเป็นส่วนตัว: มาพร้อมระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างที่ไม่ต้องการ ทำให้คุณสามารถจดจ่ออยู่กับเสียงเพลงหรือพอดแคสต์ได้อย่างเต็มที่ แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่วุ่นวาย เช่น บนรถไฟฟ้าหรือในร้านกาแฟ.
    • คุยโทรศัพท์คมชัดทุกสาย: มีไมโครโฟนที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ช่วยในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างขณะสนทนา ทำให้เสียงพูดของคุณชัดเจนมากยิ่งขึ้นสำหรับปลายสาย เหมาะสำหรับการรับสายโทรศัพท์สำคัญๆ หรือการประชุมออนไลน์ แม้จะอยู่ในที่ที่มีเสียงดัง.
    • ใช้งานได้นาน ไม่ต้องชาร์จบ่อย: แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก รวมการใช้งานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง ทำให้เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวันหรือระหว่างการเดินทางไกลๆ.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชื่นชอบแบรนด์ Marshall, สายแฟชั่นที่เน้นดีไซน์, ฟังเพลงแนวร็อค/เบสหนัก, ใช้งานในชีวิตประจำวัน, เดินทาง.
ประเภทหูฟังการตัดเสียงรบกวนBluetoothแบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส)การกันน้ำดีไซน์ไมโครโฟนวัสดุ
In-Ear True WirelessANC (อัปเกรด)5.36 ชม. + 24 ชม. (รวม 30 ชม.)IPX5Marshall Classicมี (AI)มีวัสดุรีไซเคิล

6. SoundPEATS Clear

  • ชื่อแบรนด์: SoundPEATS
  • ชื่อสินค้า: Clear
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 799 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้าเบื่อดีไซน์หูฟังแบบเดิมๆ อยากได้อะไรที่มันแหวกแนว มีสไตล์หน่อย SoundPEATS Clear ตัวนี้คือคำตอบ! มาพร้อมดีไซน์โปร่งใส มองเห็นข้างในนิดๆ เก๋สุดๆ! ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ฟังก์ชันก็ครบครันนะจ๊ะ ทั้ง Bluetooth 5.3 เชื่อมต่อไว ดูหนัง เล่นเกมดีเลย์ต่ำ มี ENC ช่วยให้คุยโทรศัพท์ชัดขึ้น และที่สำคัญคือราคาดีต่อใจมากๆ ใครที่มองหาหูฟัง True Wireless ราคาน่ารัก คุณภาพเสียงดี และมีดีไซน์ไม่ซ้ำใคร ต้องลองตัวนี้เลยค่ะ.
  • จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์โปร่งใสสุดเก๋、ราคาเป็นมิตร、Bluetooth 5.3 เชื่อมต่อไว、มี Game Mode ดีเลย์ต่ำ、ENC ไมโครโฟนคุยชัด
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • เชื่อมต่อรวดเร็วและเสถียร: ใช้เทคโนโลยี Bluetooth 5.3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุด ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างหูฟังกับอุปกรณ์มีความรวดเร็ว เสถียร และใช้พลังงานน้อยลง สัญญาณไม่ค่อยหลุดง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทั้งฟังเพลง ดูหนัง หรือคุยโทรศัพท์.
    • สนุกกับการเล่นเกมมากขึ้น: มี Game Mode ที่ช่วยลดค่าความหน่วง (Latency) ของเสียงให้ต่ำลง ทำให้เสียงในเกมซิงค์กับภาพได้ดีขึ้น เพิ่มอรรถรสและความได้เปรียบในการเล่นเกม เหมาะสำหรับคอเกมบนมือถือที่ต้องการประสบการณ์เสียงที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว.
    • สนทนาคมชัดด้วย ENC: มาพร้อมไมโครโฟนที่ใช้เทคโนโลยี ENC (Environmental Noise Cancellation) ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างขณะสนทนา ทำให้เสียงพูดของคุณมีความชัดเจนมากขึ้นสำหรับปลายสาย แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนระดับปานกลาง.
    • ปรับแต่งและควบคุมสะดวก: สามารถใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันของ SoundPEATS เพื่อปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ เช่น EQ เสียง หรือโหมดการใช้งาน นอกจากนี้ยังรองรับการควบคุมแบบสัมผัสที่ตัวหูฟัง ทำให้สั่งงานได้ง่ายและสะดวก.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: วัยรุ่น นักศึกษา, คนที่มองหาหูฟังราคาประหยัด, เน้นดีไซน์มีสไตล์, เล่นเกมบนมือถือ, ใช้งานทั่วไป.
ประเภทหูฟังBluetoothแบตเตอรี่ (ต่อหูฟัง)ไดรเวอร์ดีไซน์Game Modeไมโครโฟนราคา
In-Ear True Wireless5.37 ชม.12 มม.โปร่งใสมีENC~799 บาท

7. Edifier X2S

  • ชื่อแบรนด์: Edifier
  • ชื่อสินค้า: X2S
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 549 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: จิ๋วแต่แจ๋ว! ยกให้ Edifier X2S เป็นหูฟังบลูทูธราคานักเรียนนักศึกษาที่ฟังก์ชันครบเครื่องจริงๆ ค่ะ ด้วยงบห้าร้อยกว่าบาท แต่ได้หูฟังแบบ Earbuds กึ่ง In-ear ที่ใส่สบาย ดีไซน์โค้งรับใบหู ใส่ได้นานไม่เมื่อยหู มาพร้อม Bluetooth 5.3 สัญญาณนิ่ง เชื่อมต่อไกลได้ถึง 10 เมตร ที่เด็ดคือมี AI ช่วยตัดเสียงรบกวนเวลาคุยโทรศัพท์ ทำให้เสียงเราชัดเจนขึ้น และแบตเตอรี่ใช้งานรวมเคสได้ถึง 26 ชั่วโมง! เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังแบบมีจุก อยากได้หูฟังใส่สบายๆ คุยโทรศัพท์ชัด และแบตอึดพอสมควรในราคาเบาๆ.
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก、ดีไซน์ Earbuds กึ่ง In-ear ใส่สบาย、AI ENC ไมโครโฟนคุยชัด、แบตเตอรี่รวมเคส 26 ชม.、Bluetooth 5.3 เสถียร
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • สนทนาชัดเจนด้วย AI: มาพร้อมเทคโนโลยี AI ที่ช่วยในการกรองและลดเสียงรบกวนจากภายนอกขณะที่คุณกำลังคุยโทรศัพท์ ทำให้เสียงพูดของคุณมีความชัดเจนและคมชัดมากขึ้นสำหรับคู่สนทนา เหมาะสำหรับการโทรศัพท์ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน ช่วยให้การสื่อสารราบรื่น.
    • สวมใส่สบายตลอดวัน: ด้วยดีไซน์แบบ Earbuds กึ่ง In-ear ที่ออกแบบมาให้มีความโค้งรับกับสรีระของใบหู ทำให้สามารถสวมใส่ได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกอึดอัดหรือปวดหู เหมาะสำหรับคนที่ต้องใส่หูฟังนานๆ ในระหว่างวัน ไม่ว่าจะฟังเพลง ทำงาน หรือคุยโทรศัพท์.
    • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 6.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 26 ชั่วโมง ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวันหรือสองวันสำหรับการใช้งานทั่วไป.
    • เชื่อมต่อเสถียร ระยะไกล: ใช้ Bluetooth 5.3 ในการเชื่อมต่อ ทำให้สัญญาณมีความเสถียรสูงและสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ในระยะสูงสุดถึง 10 เมตรโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ทำให้คุณสามารถวางโทรศัพท์ไว้ใกล้ๆ และเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในระยะที่กำหนด.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบประมาณจำกัดมากๆ, นักเรียน นักศึกษา, คนที่ไม่ชอบหูฟังมีจุก, เน้นใส่สบาย, คุยโทรศัพท์, ฟังเพลงทั่วไป.
ประเภทหูฟังBluetoothแบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส)การกันน้ำ/กันฝุ่นไมโครโฟนระยะเชื่อมต่อดีไซน์ราคา
Earbuds กึ่ง In-ear True Wireless5.36.5 ชม. + 19.5 ชม. (รวม 26 ชม.)IP54AI ENC10 เมตรโค้งรับหู~549 บาท

8. AUKEY EP-N8

  • ชื่อแบรนด์: AUKEY
  • ชื่อสินค้า: EP-N8
  • ราคาสินค้า: ไม่ระบุ (รุ่นใกล้เคียง EP-N6 ราคา ~2,980 - 1,490 บาท)
  • คำอธิบายสินค้า: AUKEY เป็นอีกแบรนด์ที่น่าจับตาในตลาดหูฟังราคาเข้าถึงง่ายแต่คุณภาพดีค่ะ รุ่น EP-N8 นี้เน้นเรื่องระบบตัดเสียงรบกวนที่ทางแบรนด์เคลมว่าขั้นสุดยอด! ช่วยให้คุณหนีจากความวุ่นวายภายนอก แล้วจมดิ่งสู่โลกดนตรีส่วนตัวได้อย่างเต็มที่ แถมยังมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX7 ใส่ลุยได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเหงื่อเยอะแค่ไหน หรือฝนตกปรอยๆ ก็ไม่ต้องกลัวเสียหาย ที่สำคัญคือแบตเตอรี่สุดอึด ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง! เหมาะกับสายลุย สายออกกำลังกาย หรือคนที่ต้องการหูฟัง ANC ดีๆ ในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป.
  • จุดเด่นสินค้า: ระบบตัดเสียงรบกวนขั้นสุดยอด、กันน้ำระดับ IPX7、แบตเตอรี่อึด 30 ชม.、ราคาคุ้มค่า、เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ตัดเสียงรบกวนเพื่อสมาธิ: มาพร้อมระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้คุณสามารถมีสมาธิกับการฟังเพลง พอดแคสต์ หรือทำงานได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เสียงดัง เช่น การเดินทาง หรือในพื้นที่สาธารณะ.
    • ทนทานต่อเหงื่อและน้ำ: ด้วยมาตรฐานการกันน้ำระดับ IPX7 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันน้ำเข้าได้ แม้จะจมอยู่ในน้ำชั่วคราว ทำให้ AUKEY EP-N8 เป็นหูฟังที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใส่ออกกำลังกายหนักๆ ที่มีเหงื่อเยอะ หรือใช้งานกลางแจ้งในสภาพอากาศที่อาจมีฝนตก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากน้ำ.
    • แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเมื่อรวมการชาร์จจากเคส ทำให้เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวันและยังเหลือแบตเตอรี่สำรองสำหรับการเดินทางหรือใช้งานในวันถัดไป เหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้หูฟังเป็นเวลานานในระหว่างวัน หรือในการเดินทางไกล.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักกีฬา, คนที่ชอบออกกำลังกาย, ใช้งานกลางแจ้ง, เดินทาง, คนที่ต้องการหูฟัง ANC ที่กันน้ำได้.
ประเภทหูฟังการตัดเสียงรบกวนแบตเตอรี่ (รวมเคส)การกันน้ำBluetoothไมโครโฟนราคาเหมาะสำหรับ
In-Ear True WirelessANC (ขั้นสูง)สูงสุด 30 ชม.IPX7ไม่ระบุมีไม่ระบุ (อยู่ในกลุ่มราคาคุ้มค่า)ออกกำลังกาย, กลางแจ้ง

9. JBL Tune Beam

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: Tune Beam
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 3,432 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงเรื่องเสียง คุณภาพ JBL นี่ไว้ใจได้เลยค่ะ! JBL Tune Beam เป็นหูฟัง True Wireless ที่ให้เสียงเบสแน่นตามสไตล์ JBL ฟังสนุกทุกแนวเพลง มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ช่วยให้คุณได้ยินเสียงเพลงชัดเจนขึ้น และยังมี Transparency Mode ให้ได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัย ดีไซน์สวยงามใส่สบาย กระชับหู แถมแบตเตอรี่ใช้งานรวมเคสได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง! ใช้กันลืมชาร์จไปเลยค่ะ เหมาะกับคนที่ชอบเสียงเบสหนักๆ ฟังเพลงสนุกๆ และต้องการหูฟังแบตอึดๆ ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน.
  • จุดเด่นสินค้า: เสียงเบสแน่นสไตล์ JBL、แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 48 ชม. (รวมเคส)、มี ANC และ Transparency Mode、Bluetooth 5.3 เสถียร、กันน้ำ/กันฝุ่น IP54
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • พลังเสียงเบสเต็มอิ่ม: มาพร้อมไดรเวอร์ที่ให้เสียงเบสที่หนักแน่น ทรงพลัง เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ JBL ทำให้การฟังเพลงแนว Pop, Hip-Hop, EDM หรือแนวเพลงที่มีจังหวะสนุกๆ ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเสียงเบสที่โดดเด่นเป็นพิเศษ.
    • ควบคุมเสียงรบกวนและรับฟังเสียงรอบข้าง: มีระบบ Active Noise Cancellation (ANC) สำหรับตัดเสียงรบกวนจากภายนอก ช่วยให้คุณจดจ่อกับเสียงเพลงได้ดีขึ้น และยังมี Transparency Mode ที่เปิดให้ได้ยินเสียงรอบข้าง เช่น เสียงประกาศ หรือเสียงสภาพแวดล้อม เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน.
    • ใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องกลัวแบตหมด: แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อใช้งานร่วมกับเคสชาร์จจะสามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 48 ชั่วโมง ซึ่งเป็นระยะเวลาที่นานมากๆ ทำให้สามารถใช้งานได้หลายวันโดยไม่ต้องชาร์จเคสบ่อยๆ.
    • ทนทานต่อละอองน้ำและฝุ่น: ด้วยมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่นระดับ IP54 ทำให้ JBL Tune Beam สามารถทนทานต่อละอองน้ำ เหงื่อ และฝุ่นได้ เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป หรือใส่ออกกำลังกายเบาๆ ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากความชื้นและฝุ่น.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบเสียงเบสหนัก, ฟังเพลงหลากหลายแนว, เดินทาง, ออกกำลังกายเบาๆ, ใช้งานในชีวิตประจำวัน, คนที่เน้นแบตเตอรี่อึดมากๆ.
ประเภทหูฟังการตัดเสียงรบกวนBluetoothแบตเตอรี่ (หูฟัง+เคส)การกันน้ำ/กันฝุ่นไดรเวอร์น้ำหนักหูฟังราคา
In-Ear True WirelessANC5.312 ชม. + 36 ชม. (รวม 48 ชม.)IP546 มม.5.0 กรัม/ข้าง~3,432 บาท

10. iSuper Evo Buds ANC Pro

  • ชื่อแบรนด์: iSuper
  • ชื่อสินค้า: Evo Buds ANC Pro
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 989 - 1,099 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: แบรนด์ไทยที่เข้าใจคนไทยจริงๆ ค่ะ iSuper Evo Buds ANC Pro เป็นหูฟังที่ปรับจูนเสียงมาให้เข้ากับรสนิยมคนไทยโดยเฉพาะ ให้เสียงเบสที่หนักแน่น ฟังสนุก รายละเอียดเสียงดี ที่สำคัญคือระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive ANC ที่ทำได้ดีมากๆ ลดเสียงรบกวนได้ถึง -46dB! แถมยังมี Transparency Mode ให้ได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัย ไมโครโฟน 6 ตัวพร้อม ENC ช่วยให้คุยโทรศัพท์ชัดสุดๆ ดีไซน์ก็ทำมาเพื่อสรีระหูคนเอเชียโดยเฉพาะ ใส่สบายกระชับหูไม่หลุดง่าย ฟังก์ชันครบ แบตอึด ชาร์จไร้สายได้อีก คุ้มเกินราคาจริงๆ ค่ะ.
  • จุดเด่นสินค้า: ปรับจูนเสียงตามสไตล์คนไทย、Adaptive ANC สูงสุด -46dB、ไมโครโฟน 6 ตัว + ENC คุยชัด、ดีไซน์ Asian Fit ใส่สบายกระชับ、รองรับชาร์จไร้สาย
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • เสียงที่ถูกใจคนไทย: หูฟังรุ่นนี้ได้รับการปรับจูนเสียงโดยผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้โทนเสียงที่ถูกใจคนไทยโดยเฉพาะ โดยเน้นเสียงเบสที่หนักแน่นฟังสนุก เสียงกลางที่คมชัด และรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน ทำให้การฟังเพลงไทย เพลงสากล หรือคอนเทนต์ต่างๆ มีอรรถรสมากยิ่งขึ้น.
    • ตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ: มาพร้อมระบบ Adaptive ANC ที่สามารถลดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง -46dB และยังสามารถปรับระดับการตัดเสียงด้วย AI ตามสถานการณ์ที่พบเจอ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบสำหรับการฟังเพลงหรือทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
    • สนทนาคมชัดระดับโปร: มีไมโครโฟนถึง 6 ตัวต่อข้าง ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี ENC (Environmental Noise Cancellation) เพื่อตรวจจับและลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้เสียงพูดของคุณขณะคุยโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น แม้จะอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนสูง.
    • สวมใส่สบายพอดีหูคนเอเชีย: ออกแบบโดยคำนึงถึงสรีระของรูปทรงหูคนเอเชีย ทำให้หูฟังมีขนาดและรูปทรงที่เหมาะสม สามารถสวมใส่ได้อย่างกระชับสบาย ไม่หลุดง่าย แม้จะเคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่างๆ เป็นเวลานาน เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน.
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบเสียงเบสหนัก, ฟังเพลงไทย, ใช้งานในชีวิตประจำวัน, ประชุม/เรียนออนไลน์, ออกกำลังกาย (เบาๆ), ต้องการหูฟังที่เข้ากับรูปทรงหู.
ประเภทหูฟังการตัดเสียงรบกวนBluetoothแบตเตอรี่ (ต่อหูฟัง)ไมโครโฟนไดรเวอร์การชาร์จราคา
In-Ear True WirelessAdaptive ANC สูงสุด -46dB5.48.5 ชม.6 ตัว + ENCDynamic 13 มม.USB-C, Wireless Charge~989 - 1,099 บาท

คำแนะนำการเลือกซื้อหูฟังบลูทูธคู่ใจ ปี 2025

  • 1. รู้จักไลฟ์สไตล์ตัวเอง แล้วเลือกให้ตรงจุด!
    ก่อนจะเสียเงินเสียทองเปย์หูฟังบลูทูธมาเป็นคู่หูเนี่ย ต้องลองสำรวจตัวเองก่อนเลยค่ะว่าในแต่ละวันเราใช้ชีวิตแบบไหนบ้าง หูฟังส่วนใหญ่จะถูกใช้ตอนไหน ที่ไหนบ้าง? ถ้าเป็นสายที่ชีวิตเร่งรีบ ต้องเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่าง BTS, MRT หรือรถเมล์ ที่มีเสียงรอบข้างค่อนข้างดังระงมไปหมด แบบนี้ฟังก์ชัน Active Noise Cancellation (ANC) หรือระบบตัดเสียงรบกวนคือสิ่งจำเป็นอันดับต้นๆ เลยค่ะ เพราะจะช่วยให้เราสามารถหลุดไปอยู่ในโลกส่วนตัว ฟังเพลงโปรด หรือฟังพอดแคสต์ได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องคอยเร่งเสียงหนีเสียงภายนอกจนเป็นอันตรายต่อหูในระยะยาว นอกจากนี้ ถ้าต้องใช้งานหูฟังระหว่างเดินทางนานๆ หรือใช้ทำงาน ประชุมออนไลน์ การเลือกหูฟังที่มี แบตเตอรี่อึดๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ จะได้ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ ระหว่างวันให้เสียอารมณ์ ลองดูรุ่นที่ระบุระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของหูฟัง และระยะเวลาการใช้งานรวมกับเคสชาร์จให้ดีนะคะ ยิ่งเยอะยิ่งดีกับชีวิตคนยุคนี้!
    แต่ถ้าเป็นสายชิลล์ๆ อยู่บ้านเป็นหลัก หรือทำงานในที่ที่ค่อนข้างเงียบอยู่แล้ว อาจจะไม่จำเป็นต้องเน้นฟังก์ชัน ANC มากเท่าไหร่ ก็สามารถมองหารุ่นที่ให้ คุณภาพเสียง ที่ถูกใจเป็นพิเศษได้เลยค่ะ บางคนชอบเบสแน่นๆ ฟังเพลงแดนซ์ เพลงฮิปฮอปสนุกๆ ก็มองหารุ่นที่เน้นเบส หรือถ้าชอบฟังเพลงร้อง ฟังสบายๆ เน้นรายละเอียดเครื่องดนตรี ก็อาจจะเลือกรุ่นที่ให้เสียงกลางแหลมที่ชัดใส หรือรองรับ Codec คุณภาพสูงอย่าง LDAC หรือ aptX ได้ค่ะ
    สำหรับสายรักสุขภาพ ชอบออกกำลังกาย ไม่ว่าจะวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเข้ายิม สิ่งที่ต้องมองหาก็คือคุณสมบัติ กันน้ำกันฝุ่น (IP Rating) ค่ะ เพราะเหงื่อและความชื้นอาจทำให้หูฟังเสียหายได้ เลือกรุ่นที่มีค่า IPX4 ขึ้นไปก็จะช่วยป้องกันเหงื่อและละอองน้ำได้สบาย หรือถ้าจะใส่วิ่งตากฝนเบาๆ หรือใส่อาบน้ำ (อันนี้แล้วแต่ไลฟ์สไตล์นะ!) ก็อาจจะต้องมองหารุ่นที่มี IPX7 ขึ้นไปเลยค่ะ นอกจากนี้สำหรับสายออกกำลังกายกลางแจ้ง การมี Transparency Mode หรือโหมดฟังเสียงรอบข้างก็สำคัญมากๆ เพื่อความปลอดภัย จะได้ยังคงได้ยินเสียงรถ เสียงคน หรือเสียงสภาพแวดล้อมรอบตัวขณะทำกิจกรรมค่ะ.
  • 2. แบตเตอรี่และระบบชาร์จ: อึดแค่ไหน ถึงจะพอ?
    เรื่องแบตเตอรี่นี่เป็นหัวใจสำคัญของหูฟังบลูทูธเลยจริงๆ ค่ะ โดยเฉพาะกับชีวิตคนไทยที่ต้องเดินทางฝ่าฟันรถติดอันยาวนาน หรือบางทีต้องใช้หูฟังทำงาน ประชุมออนไลน์ ติดต่อสื่อสารกันทั้งวัน ถ้าแบตหมดระหว่างทางนี่คือจบเลยนะ! เวลาดูสเปกหูฟังบลูทูธ จะมีตัวเลขแบตเตอรี่บอกสองแบบหลักๆ คือ ระยะเวลาการใช้งานต่อการชาร์จหนึ่งครั้งของตัวหูฟังเอง (มักจะอยู่ระหว่าง 4-12 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรุ่นและฟังก์ชันที่เปิดใช้งาน เช่น ANC) และ ระยะเวลาการใช้งานรวมกับเคสชาร์จ (อันนี้แหละตัวเลขที่จะดูอลังการหน่อย เพราะเคสคือแหล่งพลังงานสำรอง)
    สำหรับคนที่ใช้งานหนัก ใช้หูฟังตลอดวัน หรือเดินทางบ่อยๆ แนะนำให้มองหารุ่นที่ให้แบตเตอรี่รวมกับเคสชาร์จได้ ตั้งแต่ 20 ชั่วโมงขึ้นไป นอกจากความอึดของแบตเตอรี่แล้ว ระบบการชาร์จ ก็เป็นอีกเรื่องที่ควรพิจารณาค่ะ หูฟังบลูทูธส่วนใหญ่ใช้พอร์ต USB Type-C ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ สะดวกในการใช้งานร่วมกับสายชาร์จมือถือรุ่นใหม่ๆ ได้เลย แต่ถ้าอยากได้ความสะดวกสบายขึ้นไปอีก ลองมองหารุ่นที่รองรับ Wireless Charging หรือการชาร์จแบบไร้สายด้วยค่ะ แค่วางเคสบนแท่นชาร์จไร้สายก็ชาร์จได้ทันที สะดวกสุดๆ! และฟังก์ชัน Fast Charge หรือชาร์จเร็วก็มีประโยชน์มากๆ ในเวลาเร่งด่วน ชาร์จแค่ไม่กี่นาทีก็ได้แบตเตอรี่มาใช้งานได้อีกหลายชั่วโมงเลยค่ะ.
  • 3. คุณภาพเสียงและการเชื่อมต่อ: ฟังแล้วฟิน คุยแล้วชัด
    มาถึงหัวใจหลักของหูฟังนั่นก็คือ คุณภาพเสียง นั่นเองค่ะ หูฟังบลูทูธสมัยนี้พัฒนาไปไกลมาก คุณภาพเสียงดีขึ้นเยอะเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์ค่ะ คุณภาพเสียงที่ดีไม่ได้หมายถึงแค่เสียงดังอย่างเดียวนะคะ แต่หมายถึงความคมชัด รายละเอียดเสียง ความสมดุลของเสียงในแต่ละย่าน (เบส กลาง แหลม) และมิติของเสียงด้วย
    ปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพเสียงของหูฟังบลูทูธหลักๆ เลยก็คือ ขนาดและประเภทของไดรเวอร์ (Driver) ค่ะ ไดรเวอร์คือส่วนที่สร้างเสียงขึ้นมา ยิ่งไดรเวอร์มีคุณภาพดี ขนาดเหมาะสม ก็จะให้เสียงที่ดีขึ้นตามไปด้วยค่ะ นอกจากนี้ Codec ที่หูฟังและอุปกรณ์รองรับก็สำคัญไม่แพ้กัน Codec คือรูปแบบการเข้ารหัสและถอดรหัสเสียงในการส่งข้อมูลผ่าน Bluetooth Codec คุณภาพสูงอย่าง LDAC (ของ Sony) หรือ aptX (ของ Qualcomm) จะสามารถส่งข้อมูลเสียงได้มากกว่า Codec พื้นฐานอย่าง SBC หรือ AAC ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกับไฟล์ต้นฉบับมากขึ้นค่ะ ถ้าเป็นสาย Audiophile หรือชอบฟังเพลงคุณภาพสูง ควรเลือกรุ่นที่รองรับ Codec คุณภาพสูงเหล่านี้ด้วยนะคะ
    อีกเรื่องที่สำคัญคือ คุณภาพของไมโครโฟน ค่ะ เพราะหูฟังบลูทูธส่วนใหญ่เราก็ใช้คุยโทรศัพท์หรือประชุมงานด้วย รุ่นที่ดีๆ มักจะมีไมโครโฟนหลายตัว และมีเทคโนโลยีช่วยในการ ลดเสียงรบกวนขณะสนทนา (ENC - Environmental Noise Cancellation) ทำให้เสียงพูดของเราชัดเจนขึ้นสำหรับคู่สนทนา แม้เราจะอยู่ในที่ที่มีเสียงดังก็ตามค่ะ อันนี้มีประโยชน์มากๆ กับชีวิตในเมืองไทยที่บางทีต้องคุยโทรศัพท์ริมถนน หรือในที่สาธารณะที่มีเสียงรบกวนเยอะ.
  • 4. ดีไซน์และความสบายในการสวมใส่: สวยด้วย ใส่สบายด้วย
    หูฟังบลูทูธเป็นเหมือนแฟชั่นไอเท็มอย่างหนึ่งเลยนะคะ ดีไซน์ก็สำคัญไม่แพ้ฟังก์ชันเลยค่ะ ซึ่งหูฟังบลูทูธแบบ True Wireless ที่นิยมในปัจจุบันมีรูปทรงหลักๆ สองแบบคือ แบบ In-Ear ที่มีจุกยางสอดเข้าไปในรูหู และ แบบ Earbuds ที่วางอยู่บริเวณปากรูหู (หรือบางรุ่นเป็นแบบกึ่ง In-ear)
    แบบ In-Ear มีข้อดีคือ ช่วยกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีกว่า เพราะจุกยางจะช่วยซีลช่องหู ทำให้เสียงเพลงเข้าสู่หูเราได้เต็มที่ และเสียงภายนอกเข้ามายาก เหมาะกับคนที่ต้องการสมาธิ หรือใช้งานในที่ที่เสียงดัง แต่บางคนอาจรู้สึกอึดอัด ไม่สบายหูเมื่อใส่เป็นเวลานานค่ะ ส่วนแบบ Earbuds จะให้ความรู้สึกที่ สบายหูมากกว่า ไม่รู้สึกอึดอัดเท่าแบบ In-Ear แต่ก็จะไม่สามารถกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดีเท่า และอาจมีเสียงเล็ดลอดออกไปข้างนอกได้ง่ายกว่า เหมาะกับคนที่เน้นใส่สบาย หรือต้องการได้ยินเสียงรอบข้างบ้างเพื่อความปลอดภัยค่ะ บางแบรนด์อย่าง iSuper ก็มีการออกแบบมาเพื่อสรีระหูคนเอเชียโดยเฉพาะ ทำให้ใส่ได้กระชับสบายยิ่งขึ้นค่ะ
    นอกจากรูปทรงแล้ว วัสดุ ที่ใช้ทำหูฟังก็มีผลต่อความสบายในการสวมใส่และความทนทานนะคะ เลือกวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวก็จะดีที่สุดค่ะ สีสันและดีไซน์ก็เลือกตามความชอบได้เลยค่ะ เดี๋ยวนี้มีหูฟังบลูทูธดีไซน์เก๋ๆ สีสันน่ารักๆ ออกมาเยอะแยะมากมาย ให้เลือกแมทช์กับสไตล์การแต่งตัวได้ไม่ซ้ำเลยค่ะ.
  • 5. ราคาและแบรนด์: ของดีไม่จำเป็นต้องแพงเสมอไป
    งบประมาณเป็นเรื่องสำคัญในการเลือกซื้อค่ะ หูฟังบลูทูธมีให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว ซึ่งราคาที่แตกต่างกันก็มักจะมาพร้อมกับฟังก์ชันและคุณภาพที่แตกต่างกันไปด้วยค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าของถูกจะไม่ดีเสมอไปนะคะ ในปี 2025 นี้ หูฟังบลูทูธราคาเป็นมิตรหลายรุ่นก็ให้ฟังก์ชันพื้นฐานที่ครบครัน คุณภาพเสียงใช้ได้ และแบตเตอรี่ที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้วค่ะ
    ถ้ามีงบประมาณจำกัด หูฟังในช่วงราคาหลักร้อยถึงพันต้นๆ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ค่ะ หลายแบรนด์อย่าง Edifier, SoundPEATS, AUKEY, TOZO, Baseus หรือแม้กระทั่งแบรนด์ไทยอย่าง iSuper ก็มีหูฟังบลูทูธคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย ให้ฟังก์ชันพื้นฐานครบ ทั้งการเชื่อมต่อที่เสถียร แบตเตอรี่ใช้ได้นานพอสมควร และคุณภาพเสียงที่ดีในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้หูฟังบลูทูธค่ะ
    ถ้ามีงบประมาณมากขึ้นมาหน่อย ในช่วงราคาหลักพันกลางๆ ถึงปลายๆ ก็จะได้หูฟังที่มีฟังก์ชันพิเศษเพิ่มเข้ามา เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน ANC ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นชัดเจน รองรับ Codec คุณภาพสูง หรือมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นที่ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการฟังก์ชันพิเศษเหล่านี้เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นค่ะ
    ส่วน หูฟังระดับพรีเมียม ราคหลักหลายพันบาท ก็มักจะเป็นรุ่นท็อปจากแบรนด์ดังอย่าง Sony, Samsung, Apple, Bose ที่ให้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด มีระบบตัดเสียงรบกวนที่ล้ำสมัย ฟังก์ชันครบครัน แบตเตอรี่อึด ดีไซน์สวยงาม และวัสดุคุณภาพดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประสบการณ์การฟังเพลงที่ดีที่สุด และพร้อมลงทุนกับหูฟังคู่ใจค่ะ การเลือกซื้อออนไลน์ก็สะดวกสบายมากๆ เดี๋ยวนี้มีแพลตฟอร์มให้เลือกเยอะแยะ ทั้งเว็บไซต์ของแบรนด์เอง หรือ E-commerce Marketplace ชื่อดัง ลองเปรียบเทียบราคา โปรโมชั่น และอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อนะคะ จะได้ของดีในราคาที่คุ้มค่าที่สุดค่ะ.

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟังบลูทูธ

  • Q: หูฟังบลูทูธใช้งานได้นานแค่ไหน?
    A: ระยะเวลาการใช้งานหูฟังบลูทูธแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นค่ะ โดยทั่วไปหูฟัง True Wireless สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องต่อการชาร์จหนึ่งครั้งประมาณ 4-12 ชั่วโมง และเมื่อชาร์จเพิ่มจากเคส จะสามารถใช้งานรวมได้ตั้งแต่ 20 ชั่วโมงไปจนถึง 50+ ชั่วโมงเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ของหูฟังและเคส รวมถึงฟังก์ชันที่เปิดใช้งานด้วยค่ะ.
  • Q: หูฟังบลูทูธราคาแพงกว่า คุณภาพดีกว่าเสมอไปไหม?
    A: ไม่เสมอไปค่ะ หูฟังบลูทูธราคาแพงมักจะมีฟังก์ชันและคุณภาพเสียงที่ดีกว่ารุ่นราคาถูกจริง แต่หูฟังราคาเป็นมิตรหลายรุ่นในปัจจุบันก็ให้คุณภาพที่ดีเกินราคามากๆ ค่ะ ควรเลือกหูฟังที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์การใช้งานของเรามากที่สุด โดยพิจารณาจากฟังก์ชันที่จำเป็น คุณภาพเสียงที่รับได้ และงบประมาณที่มีค่ะ.
  • Q: หูฟังบลูทูธใช้คุยโทรศัพท์ได้ชัดไหม?
    A: หูฟังบลูทูธส่วนใหญ่มีไมโครโฟนในตัวสำหรับคุยโทรศัพท์ค่ะ แต่คุณภาพไมโครโฟนจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น รุ่นที่ดีมักจะมีไมโครโฟนหลายตัวและมีเทคโนโลยี ENC (Environmental Noise Cancellation) ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้เสียงพูดของเราชัดเจนมากขึ้นสำหรับปลายสายค่ะ.
  • Q: IP Rating บนหูฟังบลูทูธคืออะไร สำคัญไหม?
    A: IP Rating (Ingress Protection Rating) คือมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นค่ะ มีประโยชน์มากๆ โดยเฉพาะถ้าคุณนำหูฟังไปใช้ออกกำลังกาย หรือใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นเยอะ ตัวเลขหลัง IP จะบอกระดับการป้องกัน เช่น IPX4 กันละอองน้ำและเหงื่อ, IP54 กันฝุ่นและละอองน้ำ, IPX7 กันน้ำได้ลึกชั่วคราว ถ้าเป็นสายออกกำลังกายหรือใช้งานกลางแจ้ง แนะนำให้เลือกรุ่นที่มี IP Rating ตั้งแต่ IPX4 ขึ้นไปค่ะ.
  • Q: จะเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธกับมือถือได้อย่างไร?
    A: โดยทั่วไปการเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธทำได้ง่ายมากๆ ค่ะ แค่เปิด Bluetooth บนมือถือ เปิดหูฟังบลูทูธ (บางรุ่นอาจต้องกดปุ่ม Pairing) แล้วเลือกชื่อหูฟังในรายการอุปกรณ์ Bluetooth บนมือถือ แค่นี้ก็เชื่อมต่อได้แล้วค่ะ บางรุ่นรองรับ Google Fast Pair หรือการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์พร้อมกันหลายเครื่อง (Multipoint Connection) ก็จะยิ่งสะดวกขึ้นค่ะ.

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่ะชาวโซเชียลที่น่ารักทุกคน! วันนี้เจ๊มาพร้อมเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป แต่พอถึงเวลาต้องใช้ทีไรล่ะก็... โอ๊ยยย ปวดหัวตึ้บ! นั่นก็คือเรื่องของ "เครื่องปริ้น" นั่นเองค่า! ในยุคที่เรา Work From Home (WFH) กันบ้างเรียนออนไลน์กัน
10 เครื่องปริ้น ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พิมพ์เร็ว คมชัด ทันใจ
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยสายช้อป! ยุคนี้อะไรๆ ก็ต้องออนไลน์เนอะ โดยเฉพาะ "โน้ตบุ๊ก" คู่ใจ ที่จะเป็นทั้งเพื่อนเรียน เพื่อนทำงาน และเพื่อนเล่นเกมของเรา วันนี้ผมในฐานะกูรูด้านไอที ขอมาไขข้อข้องใจยอดฮิตที่ว่า "โน้ตบุ๊ก ราคาไม่เกิน 20000 บาท ยี่ห้
10 โน้ตบุ๊ก ราคาไม่เกิน 20000 บาท ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สเปคคุ้ม ทำงานลื่น เล่นเกมเพลิน
สวัสดีค่าทุกคน! กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะกับดิฉัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงของเมืองไทย! วันนี้เราจะมาเม้าท์มอยกันถึงเรื่องที่ชาว Creator หรือคนทำงานสายวิดีโอต้องกรีดร้อง นั่นก็คือการเลือกซื้อ Notebook ตัดต่อ นั่นเองค่ะ! เชื่อว่าห
10 Notebook ตัดต่อ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เรนเดอร์ไว งานเทพ สร้างสรรค์ไม่สะดุด