10 หูฟัง Edifier รุ่นไหนดี ปี 2025 เสียงใส เบสแน่น คุณภาพเกินราคา


สวัสดีค่าทุกคนนน! กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะกับเจเน็ต คนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือเรื่อง Gadget ปังๆ วันนี้จะมาป้ายยาไอเทมเด็ดที่ขาดไม่ได้สำหรับสายฟัง สายดูหนัง สายเล่นเกม หรือใครที่ต้องวิดีโอคอลทั้งวัน นั่นก็คือ "หูฟัง" นั่นเองค่ะ! แต่จะให้เลือกมั่วๆ ก็เสียดายเงินแย่เนอะ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลลดราคากระหน่ำแบบนี้ หรือจะซื้อเป็นของขวัญให้คนรู้ใจก็ต้องเลือกที่ดีที่สุดไปเลย! วันนี้เจเน็ตเลยขอเอาใจสาวก Edifier แบรนด์คุณภาพที่หลายคนเลิฟในเรื่องเสียงที่คมชัด เบสแน่น คุณภาพดีเกินราคา มาดูกันว่าปี 2025 นี้ มีรุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนโดน ที่ชาวเรานักช้อปออนไลน์ตัวยงต้องมีติดกระเป๋าไว้บ้าง พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อแบบไม่มีพลาด บอกเลยว่าอ่านจบปุ๊บ พุ่งตัวไปกดสั่งซื้อออนไลน์แทบไม่ทัน!
1. Edifier W820NB Plus
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: W820NB Plus
- ราคาสินค้า: 1,500 - 2,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: Edifier W820NB Plus เป็นหูฟัง Full-Size แบบครอบหูที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นยอดฮิตอย่าง W820NB ด้วยจุดเด่นเรื่องระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ที่ทำได้ดีเกินคาดในราคานี้ ทำให้คุณสามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลง พอดแคสต์ หรือโฟกัสกับการทำงานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงรอบข้าง แถมยังรองรับ Hi-Res Audio และ Codec LDAC มอบประสบการณ์เสียงคุณภาพสูง รายละเอียดครบถ้วน เบสแน่นกำลังดี ฟังสนุกได้ทุกแนวเพลง ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไม่บีบหู ใช้งานได้ยาวนาน ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคนยุคใหม่ที่ต้องการหูฟังคู่ใจที่ครบเครื่องเรื่องเสียงและฟังก์ชัน.
- จุดเด่นสินค้า: ANC เงียบกริบ、รองรับ Hi-Res Audio & LDAC、แบตเตอรี่อึด 49 ชั่วโมง、น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย、มี Game Mode ลดดีเลย์
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเสียงพูดคุย เสียงรถยนต์ หรือเสียงรบกวนอื่นๆ ทำให้คุณสามารถฟังเพลง ดูหนัง หรือทำงานในสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายได้อย่างสงบและโฟกัส.
- โหมดฟังเสียงรอบข้าง (Ambient Sound): เปิดรับเสียงจากภายนอกได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง เหมาะสำหรับเวลาที่ต้องการฟังประกาศต่างๆ หรือพูดคุยกับคนรอบข้างชั่วคราว เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการใช้งานในชีวิตประจำวัน.
- Game Mode: ลดความหน่วงของเสียงให้ต่ำลง ทำให้ภาพและเสียงในการเล่นเกมมีความสอดคล้องกันมากขึ้น ช่วยเพิ่มอรรถรสและประสิทธิภาพในการเล่นเกมแนวต่างๆ ให้สนุกและได้เปรียบยิ่งขึ้น.
- รองรับ Hi-Res Audio & LDAC: สามารถถ่ายทอดรายละเอียดเสียงในระดับความละเอียดสูง เมื่อใช้งานกับอุปกรณ์ที่รองรับ ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่คมชัด สมจริง และใกล้เคียงกับต้นฉบับมากที่สุด ถูกใจสาย Audiophile ที่เน้นคุณภาพเสียง.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, คนทำงาน, นักเดินทาง, ผู้ที่ต้องการสมาธิ, ผู้ที่ชื่นชอบคุณภาพเสียงสูง, เล่นเกม, ดูหนังฟังเพลงในชีวิตประจำวัน
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | เวลาใช้งาน (ANC On) | เวลาใช้งาน (ANC Off) | Codecs ที่รองรับ | Bluetooth Version | น้ำหนัก |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Over-Ear | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC Hybrid | ประมาณ 33 ชม. | ประมาณ 49 ชม. | LDAC, SBC, AAC | 5.2 | ประมาณ 220 กรัม |
2. Edifier NeoBuds Pro 2
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: NeoBuds Pro 2
- ราคาสินค้า: 3,500 - 4,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงหูฟังไร้สาย True Wireless ระดับเรือธงของ Edifier ในปี 2025 ก็ต้องยกให้ NeoBuds Pro 2 เลยค่ะ รุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีเสียงขั้นสุด ทั้งไดรเวอร์แบบ Hybrid (Balanced Armature + Dynamic Driver) ให้เสียงที่ครบทุกย่าน เบสกระชับ เสียงร้องชัดใส และรายละเอียดเสียงแหลมพริ้วไหว รองรับ Hi-Res Wireless Audio และ Codec LDAC เพื่อคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด ระบบตัดเสียงรบกวน ANC ก็ทรงพลังมาก มีหลายระดับให้เลือกใช้ พร้อมโหมดฟังเสียงรอบข้าง ไมโครโฟนถึง 8 ตัวพร้อม AI ช่วยให้การโทรชัดเจน ตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดี ดีไซน์สวยงาม พรีเมียม เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟัง TWS ที่ให้คุณภาพเสียงระดับเทพและฟังก์ชันครบครัน.
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียง Hi-Res Hybrid Driver、ANC ระดับสูงหลายระดับ、ไมโครโฟน 8 ตัวพร้อม AI Clear Call、รองรับ LDAC、มีโหมด Game Mode
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบตัดเสียงรบกวน Adaptive ANC: ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม หรือเลือกปรับเองได้หลายระดับ ตั้งแต่ตัดเสียงรบกวนสูงสำหรับเดินทางบนเครื่องบิน ไปจนถึงระดับเบาๆ สำหรับใช้ในออฟฟิศ ช่วยให้คุณมีสมาธิและดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่.
- เทคโนโลยี Hybrid Driver: การผสานรวมไดรเวอร์สองประเภท (Balanced Armature และ Dynamic Driver) ช่วยให้การตอบสนองความถี่เสียงครอบคลุมและแม่นยำยิ่งขึ้น ให้เสียงเบสที่ทรงพลัง เสียงกลางที่ชัดเจน และเสียงแหลมที่มีรายละเอียดครบถ้วน เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว.
- ระบบไมโครโฟน 8 ตัวพร้อม AI: ไมโครโฟนหลายตัวทำงานร่วมกับอัลกอริทึม AI เพื่อตรวจจับและลดเสียงรบกวนรอบข้างขณะสนทนา ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงของคุณอย่างชัดเจน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เหมาะสำหรับการโทรศัพท์หรือประชุมออนไลน์นอกสถานที่.
- Hi-Res Wireless Audio และ LDAC: รองรับการส่งข้อมูลเสียงไร้สายในระดับความละเอียดสูง ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับไฟล์เพลงคุณภาพสูงได้เต็มประสิทธิภาพ มอบประสบการณ์การฟังที่สมจริงและมีรายละเอียดเสียงครบถ้วนเหมือนฟังจากไฟล์ต้นฉบับ.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่เน้นคุณภาพเสียงระดับสูง, นักเดินทาง, คนทำงานที่ต้องการประชุมออนไลน์, ผู้ที่ชื่นชอบหูฟัง TWS ฟังก์ชันครบครัน, ฟังเพลง Hi-Res
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | ประเภทไดรเวอร์ | จำนวนไมโครโฟน | Codecs ที่รองรับ | Bluetooth Version | เวลาใช้งานรวมเคส |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless In-Ear | ไร้สาย (Bluetooth) | Adaptive ANC | Hybrid (BA + Dynamic) | 8 | LDAC, LHDC, SBC, AAC | 5.3 | ประมาณ 22 ชม. |
3. Edifier WH950NB
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: WH950NB
- ราคาสินค้า: 3,800 - 4,800 บาท
- คำอธิบายสินค้า: สำหรับใครที่ชอบหูฟังแบบครอบหูที่เน้นการตัดเสียงรบกวนเป็นพิเศษ Edifier WH950NB คือตัวเลือกที่น่าสนใจในปี 2025 ค่ะ รุ่นนี้ขึ้นชื่อเรื่องระบบ ANC ที่ทำได้เงียบมาก เรียกว่าตัดเสียงรอบข้างได้อยู่หมัด ให้คุณได้มีโลกส่วนตัวในการฟังเพลงหรือทำงานได้อย่างเต็มที่ นอกจาก ANC ที่โดดเด่นแล้ว คุณภาพเสียงก็ไม่แพ้ใคร ให้เสียงที่สมดุล รายละเอียดดี เบสกำลังพอเหมาะ สวมใส่สบายด้วย Memory Foam ที่นุ่มนิ่ม ตัวหูฟังสามารถพับเก็บได้ พกพาสะดวก แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ยาวนาน รองรับ Multipoint Connection เชื่อมต่อพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟังครอบหูคุณภาพพรีเมียม เน้น ANC เป็นหลัก.
- จุดเด่นสินค้า: ANC เงียบที่สุดในย่านราคา、คุณภาพเสียงสมดุล รายละเอียดดี、สวมใส่สบายมาก、แบตเตอรี่อึด 55 ชั่วโมง、รองรับ Multipoint Connection
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ขั้นสูง: มีความสามารถในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างยอดเยี่ยม ลดเสียงที่ไม่ต้องการได้อย่างมีนัยสำคัญ ทำให้คุณสามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังฟังอยู่ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบใด.
- โหมดเสียงที่หลากหลาย: มีโหมดเสียงให้เลือกปรับตามความต้องการ เช่น โหมดฟังเพลง, โหมดดูหนัง, โหมดเล่นเกม ที่มีการปรับแต่งเสียงให้เหมาะสมกับการใช้งานแต่ละประเภท ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมหรือเล่นเกม.
- การเชื่อมต่อแบบ Multipoint: สามารถเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันได้ ทำให้คุณสามารถสลับการใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องคอยตัดการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อใหม่ สะดวกสบายในการทำงานหรือรับสาย.
- ดีไซน์พับได้และวัสดุพรีเมียม: ตัวหูฟังออกแบบให้สามารถพับเก็บได้ ทำให้พกพาสะดวก จัดเก็บง่ายในกระเป๋า นอกจากนี้ยังเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ให้สัมผัสที่นุ่มสบาย โดยเฉพาะฟองน้ำหุ้มหูฟังที่เป็น Memory Foam ช่วยลดแรงกดทับเมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการ ANC ที่ดีที่สุด, นักเดินทางบ่อยๆ, คนทำงานที่ต้องการสมาธิสูง, ผู้ที่ชอบหูฟังครอบหูใส่สบาย, ดูหนังฟังเพลง, ประชุมออนไลน์
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | เวลาใช้งาน (ANC On) | เวลาใช้งาน (ANC Off) | Codecs ที่รองรับ | Bluetooth Version | น้ำหนัก |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Over-Ear | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC ขั้นสูง | ประมาณ 40 ชม. | ประมาณ 55 ชม. | LDAC, SBC, AAC | 5.3 | ประมาณ 296 กรัม |
4. Edifier X2S
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: X2S
- ราคาสินค้า: 500 - 800 บาท
- คำอธิบายสินค้า: มาที่หูฟังไร้สายแบบ Earbuds ทรง Open-fit กันบ้างค่ะ Edifier X2S เป็นรุ่นยอดนิยมที่ครองใจสายชิลล์ในปี 2025 ด้วยดีไซน์กึ่งอินเอียร์ที่ใส่สบาย ไม่ต้องยัดเข้าไปในรูหูลึกๆ ทำให้ใส่ได้นาน ไม่อึดอัด น้ำหนักเบามากจนแทบไม่รู้สึกว่าใส่อยู่ คุณภาพเสียงต้องบอกว่าเกินราคาจริงๆ ค่ะ ให้เสียงที่ชัดเจน เบสพอมีให้ได้ยิน ไม่ได้หนักมากแต่ก็ไม่บางจนเกินไป เหมาะกับการฟังเพลงสบายๆ พอดแคสต์ หรือดูวิดีโอทั่วไป แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน มี Game Mode และกันน้ำกันฝุ่น IP54 เป็นหูฟัง Everyday Use ที่คุ้มค่าสุดๆ สำหรับคนที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In-ear.
- จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์กึ่งอินเอียร์ใส่สบาย、น้ำหนักเบามาก、คุณภาพเสียงเกินราคา、แบตเตอรี่อึด 26 ชั่วโมง、กันน้ำกันฝุ่น IP54
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ดีไซน์กึ่งอินเอียร์ (Semi In-ear): ไม่ได้ยัดเข้าไปในช่องหูทั้งหมด ทำให้สวมใส่ได้สบาย ระบายอากาศได้ดี ลดอาการเมื่อยล้าหูเมื่อใส่เป็นเวลานาน เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกไม่สบายกับการใส่หูฟังแบบ In-ear ทั่วไป แต่ยังต้องการความกระชับพอสมควร.
- น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ: ตัวหูฟังแต่ละข้างมีน้ำหนักเพียงไม่กี่กรัม ทำให้เมื่อสวมใส่แทบไม่รู้สึกถึงน้ำหนัก สร้างความรู้สึกสบายสูงสุด เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ใส่เดิน ใส่ทำงาน หรือใส่ระหว่างเดินทางโดยไม่รู้สึกถ่วงหู.
- กันน้ำและกันฝุ่น IP54: สามารถทนทานต่อละอองน้ำ เหงื่อ หรือฝุ่นได้ในระดับหนึ่ง ทำให้มั่นใจได้ในการใช้งานระหว่างออกกำลังกายเบาๆ หรือในสภาพอากาศที่มีละอองฝน ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากความชื้นและฝุ่น.
- Game Mode พร้อมความหน่วงต่ำ: โหมดพิเศษที่ช่วยลดค่าความหน่วง (Latency) ของเสียงลง ทำให้เสียงในเกมมีความล่าช้าจากภาพน้อยที่สุด ช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมบนมือถือหรือแท็บเล็ตไหลลื่นและตอบสนองได้ทันท่วงที.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ไม่ชอบหูฟังแบบ In-ear, เน้นความสบายในการสวมใส่, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน, ดูวิดีโอ, ฟังพอดแคสต์, เล่นเกมมือถือ, ออกกำลังกายเบาๆ
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | รูปแบบ | ขนาดไดรเวอร์ | Bluetooth Version | เวลาใช้งานรวมเคส | การกันน้ำ/ฝุ่น | น้ำหนักหูฟังต่อข้าง |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless Earbuds | ไร้สาย (Bluetooth) | Semi In-ear | 13 มม. | 5.3 | ประมาณ 26 ชม. | IP54 | ประมาณ 3.6 กรัม |
5. Edifier TWS1 Pro 2
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: TWS1 Pro 2
- ราคาสินค้า: 1,000 - 1,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟัง True Wireless ที่มีระบบตัดเสียงรบกวน ANC ในงบที่เป็นมิตร TWS1 Pro 2 คือคำตอบที่ใช่ค่ะ รุ่นนี้ถือเป็นหูฟัง ANC ราคาเบาๆ จาก Edifier ที่คุณภาพเสียงและฟังก์ชันไม่ธรรมดา ให้เสียงที่ชัดเจน เบสกำลังพอเหมาะ ไม่ได้หนักตึ้บ แต่ก็ไม่บางจนเกินไป ระบบ ANC ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ในระดับที่น่าพอใจสำหรับการใช้งานทั่วไป มีโหมดฟังเสียงรอบข้าง แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 24 ชั่วโมงรวมเคส รองรับ Game Mode และกันน้ำกันเหงื่อ IP54 เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่เพิ่งเริ่มต้นอยากลองใช้หูฟัง ANC ในราคาเข้าถึงง่าย.
- จุดเด่นสินค้า: ANC ในราคาเข้าถึงง่าย、คุณภาพเสียงเกินราคา、แบตเตอรี่ใช้งานได้ทั้งวัน、กันน้ำกันเหงื่อ IP54、มี Game Mode
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation: ช่วยลดทอนเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ในระดับที่ดี เมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น บนรถโดยสารสาธารณะ ร้านกาแฟ หรือบริเวณที่มีเสียงรบกวนไม่มากนัก ช่วยให้ฟังเพลงหรือพอดแคสต์ได้สบายขึ้น.
- โหมดฟังเสียงรอบข้าง (Ambient Mode): เปิดช่องให้เสียงจากภายนอกเข้ามา เพื่อให้คุณรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัวได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง สะดวกเมื่อต้องการฟังประกาศ การจราจร หรือพูดคุยกับผู้อื่น เพิ่มความปลอดภัยขณะเดินทางหรือทำกิจกรรมนอกบ้าน.
- Game Mode: ลดความหน่วง (Latency) ของเสียงให้ต่ำลง ทำให้เสียงและภาพในเกมมีความซิงค์กันได้ดีขึ้น มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นและตอบสนองได้ทันท่วงที ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน.
- กันน้ำและกันเหงื่อ IP54: ป้องกันละอองน้ำ เหงื่อ และฝุ่นได้ ทำให้สามารถใช้งานหูฟังระหว่างออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือในสภาพอากาศที่มีความชื้นได้โดยไม่ต้องกังวล ช่วยยืดอายุการใช้งานของหูฟังให้ยาวนานยิ่งขึ้น.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน นักศึกษา, ผู้เริ่มต้นใช้หูฟัง ANC, ผู้ที่ต้องการหูฟัง ANC ราคาประหยัด, ใช้งานทั่วไป, ออกกำลังกาย, เดินทางระยะสั้น
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | Bluetooth Version | เวลาใช้งานรวมเคส | การกันน้ำ/ฝุ่น | พอร์ตชาร์จ | น้ำหนัก |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless In-Ear | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC | 5.3 | ประมาณ 24 ชม. | IP54 | USB-C | ประมาณ 42 กรัม (รวมเคส) |
6. Edifier WH700NB
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: WH700NB
- ราคาสินค้า: 1,800 - 2,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หากคุณกำลังมองหาหูฟังครอบหูแบบไร้สายที่มี ANC ในราคาที่คุ้มค่า Edifier WH700NB เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในปี 2025 ค่ะ รุ่นนี้เน้นความคุ้มค่าด้วยฟังก์ชัน ANC ที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้ในระดับหนึ่ง ทำให้ฟังเพลงหรือพอดแคสต์ได้เพลินขึ้น เสียงโดยรวมมีความสมดุล เบสไม่หนักมาก แต่ก็ไม่ได้บางจนเกินไป จุดเด่นที่น่าสนใจมากๆ คือแบตเตอรี่ที่อึดสุดๆ สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องสูงสุดถึง 68 ชั่วโมง ทำให้ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่เดินทางบ่อย หรือใช้งานหูฟังเป็นเวลานานตลอดทั้งวัน ดีไซน์เรียบง่าย น้ำหนักไม่มาก สวมใส่สบายพอสมควร.
- จุดเด่นสินค้า: แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ 68 ชั่วโมง、ANC ช่วยลดเสียงรบกวน、คุณภาพเสียงสมดุล、น้ำหนักเบา、คุ้มค่าเกินราคา
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน: สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 68 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC) ทำให้คุณสามารถฟังเพลง ดูหนัง หรือใช้งานอื่นๆ ได้ตลอดทั้งวันหรือตลอดการเดินทางไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานหูฟังเป็นเวลานาน.
- ระบบ Active Noise Cancellation: ช่วยลดเสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้ในระดับหนึ่ง ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงหรือพอดแคสต์ได้อย่างสบายขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนปานกลาง เช่น ในรถโดยสารหรือออฟฟิศ.
- คุณภาพเสียงที่สมดุล: ให้เสียงที่ค่อนข้างสมดุล เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว เสียงร้องชัดเจน เสียงเบสมีพอประมาณ ไม่ได้หนักจนเกินไป ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูวิดีโอ หรือเรียนออนไลน์.
- การออกแบบที่เน้นความสบายและน้ำหนักเบา: ตัวหูฟังมีน้ำหนักไม่มาก สวมใส่สบายพอสมควร ทำให้สามารถใส่ใช้งานได้เป็นเวลานานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้าหู เหมาะสำหรับการใช้งานต่อเนื่องตลอดวัน.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่เน้นแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมาก, เดินทางบ่อย, ใช้งานต่อเนื่องทั้งวัน, ฟังเพลงทั่วไป, เรียนออนไลน์, ทำงานในออฟฟิศที่มีเสียงรบกวนไม่มาก
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | เวลาใช้งาน (ANC Off) | Bluetooth Version | ขนาดไดรเวอร์ | น้ำหนัก | พอร์ตชาร์จ |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Over-Ear | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC | ประมาณ 68 ชม. | 5.3 | 40 มม. | ประมาณ 240 กรัม | USB-C |
7. Edifier W830NB
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: W830NB
- ราคาสินค้า: 2,500 - 3,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: Edifier W830NB เป็นอีกหนึ่งหูฟังครอบหูไร้สายที่มี ANC ที่น่าจับตามองในปี 2025 ค่ะ รุ่นนี้โดดเด่นเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากๆ สูงสุดถึง 94 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC) ทำให้เป็นเพื่อนร่วมทางชั้นดีสำหรับการเดินทางไกลหลายวัน หรือใช้งานต่อเนื่องยาวๆ โดยไม่ต้องพกที่ชาร์จให้วุ่นวาย ระบบ ANC ช่วยตัดเสียงรบกวนได้ในระดับที่ดี ทำให้มีสมาธิกับการฟังมากขึ้น คุณภาพเสียงให้เบสที่ชัดเจนและมีน้ำหนัก เสียงกลางและแหลมก็ทำได้ดี เหมาะกับคนที่ชอบเบสแบบมีคุณภาพ ดีไซน์ดูเรียบหรู สวมใส่สบาย เป็นหูฟังครอบหูที่ครบเครื่องทั้งเรื่องแบตเตอรี่ ANC และคุณภาพเสียงที่ดี.
- จุดเด่นสินค้า: แบตเตอรี่สุดอึด 94 ชั่วโมง、ANC ลดเสียงรบกวนได้ดี、เสียงเบสมีคุณภาพ、ดีไซน์เรียบหรู、สวมใส่สบาย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษ: มอบเวลาการใช้งานต่อเนื่องสูงสุดถึง 94 ชั่วโมง (เมื่อปิดระบบตัดเสียงรบกวน) ช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับการฟังเพลง ดูหนัง หรือใช้งานหูฟังได้ยาวนานหลายวันต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว เหมาะสำหรับการเดินทางไกลหรือใช้งานหนัก.
- ระบบ Active Noise Cancellation: ช่วยลดทอนเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้คุณสามารถจดจ่อกับเสียงที่ต้องการฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น บนรถไฟฟ้า เครื่องบิน หรือในที่สาธารณะ.
- คุณภาพเสียงพร้อมเบสที่ชัดเจน: ให้เสียงโดยรวมที่สมดุล พร้อมด้วยเสียงเบสที่ชัดเจนและมีอิมแพ็ค เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเพลงแนวที่มีจังหวะหรือต้องการเสียงเบสที่หนักแน่นขึ้นอีกเล็กน้อย โดยที่เสียงกลางและแหลมยังคงคมชัด.
- การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4: ใช้เทคโนโลยี Bluetooth เวอร์ชันล่าสุดเพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว เสถียร และใช้พลังงานน้อยลง ช่วยให้การส่งสัญญาณเสียงมีคุณภาพและไม่สะดุด พร้อมรองรับฟังก์ชันใหม่ๆ ในอนาคต.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการแบตเตอรี่ที่อึดที่สุด, นักเดินทางบ่อยมาก, ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน, ผู้ที่ชอบเสียงเบสคุณภาพดี, ฟังเพลง, ดูหนัง, ประชุมออนไลน์
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | การตัดเสียงรบกวน | เวลาใช้งาน (ANC Off) | Bluetooth Version | ขนาดไดรเวอร์ | น้ำหนัก | พอร์ตชาร์จ |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Over-Ear | ไร้สาย (Bluetooth) | ANC | ประมาณ 94 ชม. | 5.4 | 40 มม. | ประมาณ 280 กรัม | USB-C |
8. Edifier Comfo Run
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: Comfo Run
- ราคาสินค้า: 1,900 - 2,500 บาท
- คำอธิบายสินค้า: สำหรับสายออกกำลังกายหรือคนที่ชอบหูฟังแบบ Open-ear ที่ยังได้ยินเสียงรอบข้าง Edifier Comfo Run คือตัวเลือกที่เหมาะในปี 2025 ค่ะ หูฟัง Bone Conduction หรือ Open-ear รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยและความสบายในการใช้งานระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ ให้เสียงที่ผ่านการสั่นสะเทือนผ่านกระดูก หรือบางรุ่นเป็นแบบแนบใบหู ไม่ได้ปิดช่องหู ทำให้ยังได้ยินเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกไปด้วย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ คุณภาพเสียงมีเบสที่ชัดเจนกำลังดีสำหรับการฟังระหว่างออกกำลังกาย แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร กันน้ำกันฝุ่น IP55 เหมาะกับนักวิ่ง นักปั่น หรือคนที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องการฟังเพลงพร้อมรับรู้สภาพแวดล้อม.
- จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์ Open-ear เพื่อความปลอดภัย、เบสชัดสำหรับการออกกำลังกาย、กันน้ำกันฝุ่น IP55、สวมใส่กระชับ、แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ดีไซน์แบบ Open-ear: ไม่ได้สอดเข้าไปในช่องหูหรือปิดทับใบหูทั้งหมด ทำให้คุณยังคงได้ยินเสียงจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างชัดเจน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยเมื่อใช้งานระหว่างทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน หรือเดินบนท้องถนน.
- การถ่ายทอดเสียงแบบ Bone Conduction (หรือ Open-ear Dynamic Driver): ในบางรุ่นอาจใช้เทคโนโลยี Bone Conduction ที่ส่งผ่านเสียงผ่านการสั่นสะเทือนของกระดูก หรือใช้ไดรเวอร์แบบ Open-ear Dynamic Driver ที่ส่งเสียงตรงเข้าสู่หูโดยไม่ปิดช่องหู ทั้งสองแบบเน้นการรับรู้เสียงรอบข้าง.
- กันน้ำและกันฝุ่น IP55: มีความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับที่ดี สามารถทนทานต่อเหงื่อ ละอองฝน หรือฝุ่นละอองต่างๆ ได้ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานระหว่างออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งในสภาพอากาศที่หลากหลาย.
- สวมใส่กระชับและสบาย: ออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาและมีรูปทรงที่โอบรับศีรษะได้อย่างมั่นคง ทำให้ไม่หลุดง่ายขณะเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกาย พร้อมทั้งไม่สร้างแรงกดทับบนใบหู ทำให้สวมใส่ได้สบายเป็นเวลานาน.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักวิ่ง, นักปั่นจักรยาน, ผู้ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง, ผู้ที่ต้องการความปลอดภัยในการได้ยินเสียงรอบข้าง, ฟังเพลงระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | รูปแบบ | ขนาดไดรเวอร์ | Bluetooth Version | เวลาใช้งาน | การกันน้ำ/ฝุ่น | น้ำหนัก |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Bone Conduction / Open-ear | ไร้สาย (Bluetooth) | คาดศีรษะ | 16.2 มม. | 5.3 | ประมาณ 17 ชม. | IP55 | ประมาณ 30 กรัม |
9. Edifier GX05
- ชื่อแบรนด์: Edifier HECATE
- ชื่อสินค้า: GX05
- ราคาสินค้า: 1,800 - 2,800 บาท
- คำอธิบายสินค้า: สำหรับเหล่าเกมเมอร์ตัวจริงที่ต้องการหูฟัง True Wireless ที่ตอบสนองฉับไว Edifier HECATE GX05 คือตัวเลือกที่ Edifier ภูมิใจนำเสนอในปี 2025 ค่ะ ภายใต้แบรนด์ย่อย HECATE ที่เน้น Gaming โดยเฉพาะ รุ่นนี้โดดเด่นเรื่องความหน่วงต่ำมากๆ ทำให้เสียงในเกมซิงค์กับภาพได้แทบจะเรียลไทม์ มอบความได้เปรียบในการเล่นเกมแนว FPS หรือเกมที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว คุณภาพเสียงปรับจูนมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ทำให้ได้ยินเสียงฝีเท้า เสียงระเบิด หรือทิศทางของเสียงได้อย่างชัดเจน ดีไซน์ล้ำสมัย มีไฟ RGB ตามสไตล์ Gaming Gear แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควร เป็นหูฟัง TWS ที่เกิดมาเพื่อเกมเมอร์อย่างแท้จริง.
- จุดเด่นสินค้า: ความหน่วงต่ำพิเศษ (Ultra-Low Latency)、คุณภาพเสียงเพื่อการเล่นเกม、ดีไซน์ Gaming พร้อมไฟ RGB、สวมใส่กระชับ、มี Game Mode เฉพาะ
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ความหน่วงต่ำพิเศษ (Ultra-Low Latency): มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหล ด้วยค่าความหน่วงของเสียงที่ต่ำมากๆ เพียง 60ms (หรือน้อยกว่า) ทำให้เสียงเอฟเฟกต์ในเกมและการกระทำของคุณมีความสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์ เพิ่มอรรถรสและความได้เปรียบในการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำ.
- คุณภาพเสียงที่ปรับจูนเพื่อการเล่นเกม: เสียงได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษเพื่อให้คุณได้ยินรายละเอียดสำคัญในเกมได้อย่างชัดเจน เช่น เสียงฝีเท้าของศัตรู เสียงทิศทางของกระสุน หรือเสียงสภาพแวดล้อมอื่นๆ ช่วยให้ระบุตำแหน่งและตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว.
- ดีไซน์และไฟ RGB สไตล์ Gaming: การออกแบบที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยไฟ RGB บนเคสและตัวหูฟัง ช่วยเพิ่มความสวยงามและบ่งบอกความเป็นเกมเมอร์อย่างชัดเจน สามารถปรับแต่งสีของไฟได้ผ่านแอปพลิเคชัน ให้เข้ากับอุปกรณ์ Gaming อื่นๆ ของคุณ.
- Game Mode เฉพาะสำหรับเกม: มีโหมดการทำงานพิเศษที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เมื่อเปิดใช้งานโหมดนี้ ระบบจะลดความหน่วงของเสียงลงอัตโนมัติ เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์บนมือถือ/แท็บเล็ต, ผู้ที่ต้องการหูฟัง TWS ความหน่วงต่ำ, ผู้ที่ชื่นชอบ Gaming Gear, เล่นเกมแนว FPS, เล่นเกมทั่วไป
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | ความหน่วง (Latency) | Bluetooth Version | เวลาใช้งานรวมเคส | การควบคุม | ไฟแสดงสถานะ | น้ำหนัก (รวมเคส) |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless In-Ear | ไร้สาย (Bluetooth) | Ultra-Low (ประมาณ 60ms) | 5.3 | ประมาณ 16 ชม. | สัมผัส / ปุ่ม | RGB Lighting | ประมาณ 107.6 กรัม |
10. Edifier P180 Plus
- ชื่อแบรนด์: Edifier
- ชื่อสินค้า: P180 Plus
- ราคาสินค้า: 200 - 400 บาท
- คำอธิบายสินค้า: ปิดท้ายด้วยหูฟังมีสายราคาเบาๆ ที่คุณภาพเสียงไม่เบาตามราคาเลยค่ะ Edifier P180 Plus เป็นหูฟัง Earbuds ทรงคลาสสิกที่หลายคนคุ้นเคย แม้จะเป็นหูฟังมีสาย แต่คุณภาพเสียงที่ได้ดีเกินคาด ให้เสียงกลางที่ชัดเจน เสียงเบสมีน้ำหนักพอประมาณ ไม่ได้ลงลึกมาก แต่ฟังสนุก ใช้ไดรเวอร์ขนาด 14.2 มม. ช่วยให้เวทีเสียงกว้างขึ้นเล็กน้อย มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุมในตัวสำหรับรับสาย/วางสาย และควบคุมการเล่นเพลง น้ำหนักเบา ใส่สบาย ไม่เจ็บหูง่ายๆ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่ยังชอบหูฟังมีสาย ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ หรือคนที่ต้องการหูฟังสำรองราคาไม่แพงแต่เสียงดี ใช้ได้กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ที่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงดีเกินราคา、เสียงกลางชัดเจน、เบสมีน้ำหนักพอประมาณ、น้ำหนักเบา ใส่สบาย、มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุมในตัว
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- คุณภาพเสียงที่คุ้มค่า: ด้วยไดรเวอร์ขนาด 14.2 มม. ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินคาดสำหรับหูฟังในราคานี้ โดยเฉพาะเสียงกลางที่ชัดเจน ทำให้เสียงร้องและเครื่องดนตรีบางชิ้นฟังดูโดดเด่นขึ้น เหมาะสำหรับการฟังเพลงทั่วไปหรือดูวิดีโอในชีวิตประจำวัน.
- ไมโครโฟนและรีโมทควบคุมในตัว: มีไมโครโฟนสำหรับใช้ในการสนทนา และปุ่มควบคุมพื้นฐานบนสาย ช่วยให้คุณสามารถรับสาย วางสาย เล่น/หยุดเพลง หรือข้าม/ย้อนกลับเพลงได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาบ่อยๆ.
- ดีไซน์ Earbuds ทรงคลาสสิก: รูปทรงที่คุ้นเคย ใส่สบาย ไม่ต้องยัดเข้าไปในช่องหูลึกๆ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดหรือระคายเคืองหูเมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบหูฟังแบบ Earbuds และต้องการความสบายในการใช้งานต่อเนื่อง.
- การเชื่อมต่อแบบมีสาย: ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมด สามารถใช้งานได้ทันทีที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ตหูฟัง 3.5 มม. มอบความเสถียรในการเชื่อมต่อที่มากกว่าหูฟังไร้สายในบางสถานการณ์.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ชอบหูฟังมีสาย, ต้องการหูฟังราคาประหยัดแต่เสียงดี, ใช้เป็นหูฟังสำรอง, ใช้กับอุปกรณ์ที่มีช่องเสียบ 3.5 มม., ฟังเพลง, ดูวิดีโอ, โทรศัพท์
ประเภทหูฟัง | การเชื่อมต่อ | รูปแบบ | ขนาดไดรเวอร์ | ความยาวสาย | พอร์ตเชื่อมต่อ | มีไมโครโฟน | มีรีโมทควบคุม |
---|---|---|---|---|---|---|---|
In-Ear (Earbuds) | มีสาย | Earbuds | 14.2 มม. | 1.2 ม. | 3.5 มม. | มี | มี |
คำแนะนำการเลือกซื้อหูฟัง Edifier ให้ได้เสียงใส เบสแน่น คุณภาพเกินราคา
-
1. รู้จักประเภทของหูฟังที่ใช่ ไลฟ์สไตล์แบบไหนเหมาะกับอะไรนะ?
ก่อนจะพุ่งตัวไปช้อปหูฟัง Edifier คู่ใหม่ เราต้องมาทำความรู้จักกับประเภทของหูฟังที่เราต้องการก่อนค่ะ เพราะ Edifier เขาทำออกมาหลากหลายมากๆ ทั้งแบบมีสาย ไร้สาย True Wireless ครอบหู อินเอียร์ หรือแม้แต่ Bone Conduction แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสีย และเหมาะกับการใช้งานที่ต่างกันไปถ้าเป็นสายชิลล์ ชอบฟังเพลงอยู่บ้าน ทำงานในออฟฟิศที่ไม่ได้เสียงดังมาก หรือเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่ไม่แน่นจนเกินไป หูฟังแบบ Over-Ear (ครอบหู) อย่าง Edifier W820NB Plus, WH950NB หรือ WH700NB ก็น่าสนใจค่ะ เพราะมักจะให้คุณภาพเสียงที่ดี ไดรเวอร์ใหญ่ เบสแน่น ฟังเพลงได้อิ่มเต็ม สวมใส่สบายหูได้นานกว่า แต่ก็อาจจะเทอะทะหน่อย พกพายากกว่าแบบอื่น
สำหรับสายที่เน้นความคล่องตัว พกพาง่าย ออกกำลังกาย หรือเดินทางบ่อยๆ ในเมือง หูฟัง True Wireless (TWS) หรือแบบ In-Ear (อินเอียร์) น่าจะตอบโจทย์ที่สุดค่ะ อย่าง Edifier NeoBuds Pro 2, TWS1 Pro 2 หรือ X2S (แบบกึ่งอินเอียร์) พวกนี้ตัวเล็ก ไม่มีสายเกะกะ เก็บใส่เคสพกไปไหนมาไหนสะดวก รุ่นใหม่ๆ อย่าง NeoBuds Pro 2 ก็มี ANC ตัดเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยม แต่บางคนอาจจะไม่ชอบความรู้สึกที่ต้องยัดจุกหูฟังเข้าไปในรูหู หรืออาจจะหลุดง่ายถ้าเลือกขนาดจุกไม่พอดี
ส่วนหูฟังแบบ Earbuds ที่ไม่ได้มีจุกซิลิโคนยัดเข้าไปในรูหู อย่าง Edifier P180 Plus (มีสาย) หรือ X2S (ไร้สายแบบกึ่งอินเอียร์) จะใส่สบาย ระบายอากาศได้ดีกว่า แต่ก็แลกมาด้วยเสียงภายนอกที่ยังได้ยินอยู่ และเสียงเบสอาจจะไม่แน่นเท่าแบบ In-ear ค่ะ
สุดท้ายคือหูฟัง Bone Conduction หรือ Open-ear แบบ Edifier Comfo Run ที่เสียงไม่ได้เข้าตรงๆ ผ่านช่องหู แต่อาศัยการสั่นสะเทือนผ่านกระดูก หรือเป็นแบบแนบใบหูแต่ไม่ปิดช่องหู เหมาะมากๆ สำหรับสายออกกำลังกายกลางแจ้งที่ต้องการได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัย หรือคนที่ไม่ชอบมีอะไรมาอุดหูเลย
ลองสำรวจไลฟ์สไตล์ของตัวเองดูค่ะว่าส่วนใหญ่ใช้หูฟังตอนไหน ที่ไหน ทำกิจกรรมอะไรบ้าง เพื่อเลือกประเภทหูฟังที่เหมาะกับการใช้งานจริงๆ จะได้ใช้คุ้มค่าและมีความสุขกับการฟังเพลงในทุกๆ วันค่ะ
-
2. เสียงแบบไหนที่ใช่ เลือกให้ตรงจริต ฟังก์ชันเสริมอะไรที่จำเป็น?
พอเลือกประเภทหูฟังที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือก "เสียง" ที่เราชอบค่ะ Edifier ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียงที่ดีเกินราคา แต่แต่ละรุ่นก็มี "Sound Signature" หรือแนวเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ต่างกันไป บางรุ่นเน้นเบสแน่นๆ อย่าง Edifier W820NB Plus หรือ W830NB ที่มีเบสชัดมีน้ำหนัก ฟังเพลงแนว Pop, Rock, EDM สนุก หรือบางรุ่นอย่าง NeoBuds Pro 2 ที่เป็น Hybrid Driver ก็ให้เสียงที่ครบถ้วน รายละเอียดดี ทั้งเบส เสียงกลาง เสียงแหลม เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว หรือถ้าชอบเสียงร้องชัดๆ เสียงดนตรีใสๆ บางรุ่นก็ทำได้ดีเช่นกันค่ะ ลองอ่านรีวิวจากหลายๆ แหล่ง หรือถ้ามีโอกาสลองฟังก่อนซื้อก็จะดีที่สุดค่ะนอกจากแนวเสียงแล้ว ฟังก์ชันเสริมต่างๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ ถ้าต้องใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังบ่อยๆ อย่างบนรถไฟฟ้า รถเมล์ หรือออฟฟิศที่มีคนคุยกันเสียงดัง ANC (Active Noise Cancellation) หรือระบบตัดเสียงรบกวนถือว่าจำเป็นมากๆ อย่างรุ่น Edifier WH950NB ที่ ANC เทพ หรือ W820NB Plus ที่ ANC ก็ทำได้ดีในราคานี้ ลองดูว่ารุ่นที่เราสนใจมี ANC หรือเปล่า และระดับการตัดเสียงรบกวนเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังมีโหมด Ambient Sound หรือ Transparency Mode ที่ช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากเวลาเดินทาง ต้องการฟังประกาศ หรือคุยกับคนอื่นแบบสั้นๆ ค่ะ
สำหรับสายเกมเมอร์ที่เล่นเกมบนมือถือ หรือดูวิดีโอที่ต้องการความซิงค์ของภาพและเสียง ฟังก์ชัน Game Mode หรือ Low Latency ก็สำคัญมากๆ ค่ะ อย่าง Edifier HECATE GX05 ที่เป็นหูฟัง Gaming โดยเฉพาะ จะมีความหน่วงต่ำมากๆ ทำให้เสียงในเกมไม่ดีเลย์ เล่นเกมได้ลื่นไหลและแม่นยำขึ้น หรือรุ่นอื่นๆ อย่าง W820NB Plus หรือ TWS1 Pro 2 ก็มี Game Mode เช่นกัน แต่ระดับความหน่วงอาจจะไม่ต่ำเท่าหูฟัง Gaming โดยเฉพาะค่ะ
แบตเตอรี่ก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาค่ะ ยิ่งใช้งานนาน ยิ่งต้องการแบตเตอรี่ที่อึด อย่าง Edifier W830NB ที่แบตอึดถึง 94 ชั่วโมง หรือ WH700NB ที่ 68 ชั่วโมง ส่วนหูฟัง TWS ก็ดูเวลาใช้งานรวมเคสชาร์จค่ะ นอกจากนี้ฟังก์ชันอื่นๆ เช่น การกันน้ำกันฝุ่น (ดูค่า IP Rating ยิ่งเลขสูงยิ่งกันได้ดี) การเชื่อมต่อ Multipoint (เชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์) หรือการรองรับ Codec คุณภาพสูงอย่าง LDAC หรือ aptX ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้นค่ะ เลือกฟังก์ชันที่จำเป็นกับการใช้งานของเราจริงๆ จะได้ไม่จ่ายเงินเพิ่มกับสิ่งที่เราไม่ได้ใช้ค่ะ
-
3. งบประมาณและความคุ้มค่า เลือก Edifier ยังไงให้ได้ของดีในราคาโดนใจ?
เรื่องงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ แต่ Edifier เนี่ยขึ้นชื่อเรื่อง "คุณภาพเกินราคา" อยู่แล้ว ทำให้เราสามารถหาหูฟังดีๆ ได้ในงบที่ไม่ต้องสูงมากค่ะ ลองกำหนดงบประมาณสูงสุดที่เราพร้อมจะจ่าย แล้วค่อยมาเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันและคุณภาพเสียงที่ตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุดภายในงบนั้นค่ะหูฟัง Edifier มีช่วงราคาที่หลากหลายมากๆ ตั้งแต่ไม่กี่ร้อยบาทไปจนถึงหลายพันบาท รุ่นราคาประหยัดอย่าง Edifier P180 Plus หรือ X2S ก็ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินคาคาเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในเรทเดียวกัน เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด หรือต้องการหูฟังสำรอง หรือไม่ได้เน้นฟังก์ชันหวือหวาอะไรมาก แค่ต้องการหูฟังที่เสียงใช้ได้ ฟังเพลงได้ ดูวิดีโอได้
รุ่นในช่วงราคาปานกลางอย่าง Edifier W820NB Plus หรือ TWS1 Pro 2 จะเริ่มมีฟังก์ชันที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามา เช่น ระบบตัดเสียงรบกวน ANC หรือ Game Mode ที่ช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหูฟังที่ฟังก์ชันครบครันมากขึ้น คุณภาพเสียงดีขึ้น แต่ยังอยู่ในงบที่ไม่สูงจนเกินไปค่ะ
ส่วนรุ่นราคาสูงขึ้นมาหน่อยอย่าง Edifier NeoBuds Pro 2 หรือ WH950NB ก็จะมาพร้อมเทคโนโลยีเสียงขั้นสูง เช่น Hybrid Driver, รองรับ Hi-Res Wireless Audio, ANC ระดับพรีเมียม, แบตเตอรี่ที่อึดขึ้น หรือวัสดุที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่เน้นคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในราคาที่ยังเข้าถึงได้ ไม่ได้แพงเท่าแบรนด์ Hi-end จ๋าๆ ค่ะ
นอกจากการเลือกตามช่วงราคาแล้ว อย่าลืมเปรียบเทียบสเปกและฟังก์ชันของแต่ละรุ่นในงบที่เราตั้งไว้ด้วยนะคะ ดูว่ารุ่นไหนให้ฟังก์ชันที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด คุณภาพเสียงเป็นอย่างไร อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเยอะๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ และที่สำคัญ! อย่าลืมมองหาโปรโมชั่นดีๆ ตามแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งนะคะ Edifier มักจะมีส่วนลดและข้อเสนอที่น่าสนใจอยู่เสมอ ช่วยให้เราได้หูฟังคุณภาพเกินราคาในราคาที่คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยค่ะ
คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟัง Edifier
- Q: หูฟัง Edifier เหมาะกับการฟังเพลงแนวไหนบ้าง?
A: หูฟัง Edifier มีหลายรุ่นและหลายแนวเสียงค่ะ บางรุ่นเน้นเบสอย่าง W820NB Plus หรือ W830NB ก็เหมาะกับ Pop, Rock, EDM หรือ Hip-Hop ส่วนรุ่นที่เป็น Hybrid Driver อย่าง NeoBuds Pro 2 จะให้เสียงที่สมดุล ฟังได้หลากหลายแนวเพลง ทั้ง Jazz, Classical, Acoustic หรือเพลงที่มีรายละเอียดเยอะๆ ค่ะ แนะนำให้ลองอ่านรีวิวของแต่ละรุ่นเพื่อดู Sound Signature ที่ชัดเจน หรือถ้าเป็นไปได้ลองฟังก่อนซื้อค่ะ Edifier โดยรวมแล้วให้คุณภาพเสียงที่ดี คุ้มค่ากับราคาค่ะ - Q: ระบบ Active Noise Cancellation (ANC) ของ Edifier ดีแค่ไหน?
A: ระบบ ANC ของ Edifier ถือว่าทำได้ดีมากเมื่อเทียบกับหูฟังในระดับราคาเดียวกันค่ะ โดยเฉพาะรุ่นที่เน้น ANC อย่าง WH950NB ที่ได้รับการยอมรับว่าเงียบจริงจัง หรือรุ่น W820NB Plus และ NeoBuds Pro 2 ที่มี ANC คุณภาพดี ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ในระดับที่น่าพอใจสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ เสียงพูดคุย หรือเสียงพัดลม ทำให้เราสามารถจดจ่อกับสิ่งที่ฟังได้มากขึ้นค่ะ ระดับประสิทธิภาพของ ANC อาจแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นและประเภทหูฟัง แนะนำให้ดูสเปกและอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเพื่อประกอบการตัดสินใจค่ะ - Q: หูฟัง Edifier รุ่นไหนเหมาะกับการเล่นเกมมากที่สุด?
A: สำหรับเกมเมอร์ที่เน้นความหน่วงต่ำสุดๆ เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและแม่นยำ รุ่นที่แนะนำเป็นพิเศษคือ Edifier HECATE GX05 ซึ่งเป็นหูฟัง Gaming True Wireless ที่ออกแบบมาเพื่อความหน่วงต่ำเป็นพิเศษโดยเฉพาะค่ะ ส่วนรุ่นอื่นๆ เช่น W820NB Plus, TWS1 Pro 2 หรือ NeoBuds Pro 2 ก็มี Game Mode ที่ช่วยลดความหน่วงได้ในระดับหนึ่ง ทำให้เหมาะกับการเล่นเกมทั่วไปบนมือถือหรือแท็บเล็ตเช่นกันค่ะ ถ้าเน้น Gaming จริงจัง มองหารุ่นที่มีคำว่า HECATE หรือระบุว่ามีความหน่วงต่ำพิเศษ (Ultra-Low Latency) จะตอบโจทย์กว่าค่ะ - Q: แบตเตอรี่หูฟัง Edifier ใช้งานได้นานตามที่ระบุไว้จริงไหม?
A: ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ระบุในสเปกสินค้ามักจะเป็นค่าสูงสุดที่ทดสอบภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดค่ะ ในการใช้งานจริง ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ระดับเสียงที่เปิด, การเปิดใช้งาน ANC หรือฟังก์ชันอื่นๆ, Codec ที่ใช้, อุณหภูมิ และความเสถียรของการเชื่อมต่อบลูทูธค่ะ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหูฟัง Edifier ถือว่ามีแบตเตอรี่ที่อึดและใช้งานได้นานตามมาตรฐานหรือดีกว่าเมื่อเทียบกับหูฟังในราคาใกล้เคียงกันค่ะ รุ่นที่โดดเด่นเรื่องแบตเตอรี่มากๆ เช่น WH700NB หรือ W830NB ที่ใช้งานได้หลายสิบชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งค่ะ - Q: ซื้อหูฟัง Edifier ออนไลน์จากที่ไหนได้บ้างในไทย?
A: ในประเทศไทยสามารถหาซื้อหูฟัง Edifier ออนไลน์ได้สะดวกสบายมากๆ ค่ะ ช่องทางหลักๆ ที่เป็นที่นิยมก็มี Shopee และ Lazada ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ มีร้านค้า Official Store ของ Edifier เอง และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ให้เลือกซื้อมากมายค่ะ นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ของร้านค้า Gadget หรือร้านเครื่องเสียงออนไลน์ต่างๆ ที่นำเข้าและจำหน่ายหูฟัง Edifier ด้วยเช่นกัน การซื้อออนไลน์มีข้อดีคือสะดวก เปรียบเทียบราคาได้ง่าย และมักจะมีโปรโมชั่นส่วนลดต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งค่ะ อย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าและอ่านรีวิวจากผู้ซื้อคนอื่นๆ ก่อนตัดสินใจสั่งซื้อนะคะ.
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
- [Akponential] หูฟังที่ดีที่สุดปี 2025 (เสียงดีสุด? ไมค์ดีสุด? เล่นเกมส์ดี ...
- 10 อันดับ หูฟังบลูทูธ ยี่ห้อไหนดี 2025
- รีวิวTop10 หูฟัง Clip-On บลูทูธ เทียบกันชัด ๆ ตามชอบ รุ่นไหนดีที่สุด ...
- 10 อันดับสุดยอดหูฟังขายดีประจำปี 2024 | Top 10 Headphones ...
- แนะนำหูฟังไร้สายดีๆ ราคาไม่เกิน 3000 ณ ตอนนี้ | 425Audio รีวิว
แนะนำสำหรับคุณ
10 อันดับ SSD ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เร็วแรงทะลุโลก บูทเครื่องไว
10 ที่เก็บสายหูฟัง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 จัดระเบียบสาย ไม่พันกัน ดีไซน์เก๋
10 ลำโพงไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อิสระแห่งเสียงเพลง พกพาสะดวก
10 หูฟัง Panasonic รุ่นไหนดี ปี 2025 เสียงคุณภาพญี่ปุ่น ทนทานน่าใช้
10 เฮดโฟน SONY รุ่นไหนดี ปี 2025 ตัดเสียงรบกวนขั้นเทพ ดื่มด่ำทุกโน้ตเพลง
10 เครื่องปริ้น Epson รุ่นไหนดี ปี 2025 แท็งค์แท้ ประหยัดหมึก พิมพ์เยอะคุ้ม