10 หูฟัง Bluetooth SONY รุ่นไหนดี ปี 2025 เสียงระดับเทพ ไร้สายอิสระ


สวัสดีจ้า! กลับมาอีกแล้วกับคอนเทนต์โดนๆ เอาใจสายแกะกล่อง เอ้ย! สายช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงอย่างเราๆ วันนี้จะพาไปส่องหูฟัง Bluetooth จาก SONY ที่ปี 2025 เนี้ย เค้าออกมารุ่นไหนเด็ด รุ่นไหนปัง เสียงระดับเทพ แถมยังไร้สายอิสระ ให้ชีวิตอิสระสุดๆ ไปเลย ใครที่กำลังเล็งหาหูฟังคู่ใจตัวใหม่ บอกเลยว่าห้ามพลาด! เพราะเราคัดมาให้แล้วเน้นๆ 10 รุ่นยอดฮิต พร้อมข้อมูลจัดเต็ม เหมือนมีเพื่อนซี้มาช่วยเลือกถึงที่ แถมท้ายด้วยทริคเลือกหูฟังให้โดนใจ สไตล์กูรูออนไลน์ ช้อปยังไงให้ได้ของดี ราคาปัง ตามแบบฉบับคนไทยที่ชอบความคุ้มค่าและอินเทรนด์สุดๆ
1. SONY WH-1000XM6
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WH-1000XM6
- ราคาสินค้า: ประมาณ 15,990 - 18,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: ตัวตึงแห่งวงการหูฟังตัดเสียงรบกวน! SONY WH-1000XM6 คือที่สุดของหูฟังแบบครอบหูที่ให้คุณภาพเสียงระดับสตูดิโอ มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนขั้นสุดยอดที่พัฒนาไปอีกขั้น ด้วยชิปประมวลผล QN3 ที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิม ดีไซน์พับได้ พกพาสะดวก วัสดุพรีเมียมสวมใส่สบายหู เหมาะกับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขั้นสุด ไม่ว่าจะอยู่บนเครื่องบิน รถไฟฟ้า หรือออฟฟิศเสียงดัง ก็ดำดิ่งสู่โลกดนตรีได้อย่างไร้ขีดจำกัด เสียงใส เบสแน่น รายละเอียดมาครบ ฟังเพลงโปรดได้เต็มอิ่มทุกอารมณ์
- จุดเด่นสินค้า: ตัดเสียงรบกวนดีที่สุดในตลาด, คุณภาพเสียงระดับ Hi-Res Audio Wireless, ดีไซน์พับได้พกพาง่าย, สวมใส่สบายน้ำหนักเบา, แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนาน
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะ: ปรับระดับการตัดเสียงรบกวนอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมและกิจกรรมที่คุณทำ เช่น เดิน วิ่ง นั่ง เพื่อให้ได้ประสบการณ์การฟังที่ดีที่สุด ไม่ต้องปรับเองให้วุ่นวาย สะดวกสบายสุดๆ
- ฟังก์ชัน Speak-to-Chat: เพียงแค่คุณเริ่มพูด หูฟังจะหยุดเพลงและเปิดโหมดฟังเสียงรอบข้างให้อัตโนมัติ เพื่อให้คุณได้คุยกับคนรอบข้างโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก เหมาะมากเวลาสั่งกาแฟหรือคุยกับเพื่อนกะทันหัน
- การเชื่อมต่อ Multi-Point: เชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้สองเครื่อง สลับใช้งานระหว่างมือถือและคอมพิวเตอร์ได้อย่างแนบเนียน ไม่ต้องคอยตัดการเชื่อมต่อให้เสียเวลา เหมาะกับสายทำงานที่ต้องรับสายตลอดเวลา
- รองรับ 360 Reality Audio: สัมผัสประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริงราวกับอยู่ในคอนเสิร์ตหรือสตูดิโอ ช่วยให้การฟังเพลงหรือดูหนังดื่มด่ำยิ่งกว่าเดิม เหมือนเสียงลอยมาจากทุกทิศทาง
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเดินทาง, คนทำงานในออฟฟิศ, นักเรียน/นักศึกษา, ผู้ที่ต้องการสมาธิสูง, คนรักคุณภาพเสียงระดับพรีเมียม
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|
ครอบหู (Over-ear) | Active Noise Cancellation (ANC) ขั้นสูง | Bluetooth 5.3, Multipoint | สูงสุด 40 ชม. (ปิด ANC) / 30 ชม. (เปิด ANC) | SBC, AAC, LDAC | ประมาณ 250 กรัม | Sony |
2. SONY WF-1000XM6
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WF-1000XM6
- ราคาสินค้า: ประมาณ 9,990 - 11,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless ตัวท็อปที่มาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในกลุ่มหูฟังไร้สายขนาดเล็ก มอบเสียงคุณภาพสูงระดับเดียวกับหูฟังแบบครอบหูซีรีส์ 1000X แต่มาในขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก ใส่สบายหูตลอดวัน ไมโครโฟนคมชัดสำหรับการโทร ดีไซน์ใหม่เล็กและเบาลง เคสชาร์จขนาดเล็กลง พกใส่กระเป๋ากางเกงได้สบายๆ เหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังใหญ่ๆ แต่อยากได้คุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนระดับเทพ
- จุดเด่นสินค้า: ตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยมในขนาดเล็ก, คุณภาพเสียง Hi-Res Audio Wireless, ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา, ไมโครโฟนคุณภาพดี, เคสชาร์จกะทัดรัด
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบตัดเสียงรบกวนและโหมดฟังเสียงรอบข้างอัจฉริยะ: สลับโหมดระหว่างการตัดเสียงรบกวนและการฟังเสียงรอบข้างได้อัตโนมัติตามกิจกรรมที่ทำ ทำให้คุณได้ยินเสียงที่จำเป็นเมื่อต้องการและตัดเสียงรบกวนเมื่อต้องการสมาธิ
- ฟังก์ชัน Adaptive Sound Control: เรียนรู้พฤติกรรมและสถานที่ที่คุณอยู่ แล้วปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ เช่น เมื่อนั่งพักจะเปิดเสียงรอบข้าง เมื่อเดินจะลดเสียงลมกวน
- รองรับการชาร์จไร้สาย: สะดวกสบายในการชาร์จแบตเตอรี่ เพียงแค่วางเคสบนแท่นชาร์จไร้สายที่รองรับ ไม่ต้องเสียบสายให้ยุ่งยาก เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่เน้นความสะดวก
- ฟังก์ชันตรวจจับการสวมใส่: หยุดเพลงอัตโนมัติเมื่อถอดหูฟังออก และเล่นต่อเมื่อใส่กลับเข้าไป ช่วยประหยัดแบตเตอรี่และไม่พลาดช่วงสำคัญของเพลงหรือพอดแคสต์
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ, คนออกกำลังกายเบาๆ, คนทำงานที่ต้องการสมาธิ, ผู้ที่ชอบหูฟังขนาดเล็ก, การใช้งานในชีวิตประจำวัน
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก (ต่อข้าง) | การกันน้ำ | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless In-ear | Active Noise Cancellation (ANC) ขั้นสูง | Bluetooth 5.3, Multipoint | สูงสุด 12 ชม. (หูฟัง) + 24 ชม. (เคส) | SBC, AAC, LDAC | ประมาณ 4.8 กรัม | IPX4 | Sony |
3. SONY WH-CH720N
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WH-CH720N
- ราคาสินค้า: ประมาณ 4,990 - 5,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟังตัดเสียงรบกวนแบบครอบหูในราคาที่เข้าถึงง่าย แต่คุณภาพไม่ธรรมดา! WH-CH720N ให้เสียงที่สมดุล เบสกำลังดี พร้อมระบบ Active Noise Cancellation ที่ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างได้ในระดับที่น่าพอใจ น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไม่บีบหัว แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสุดๆ เหมาะกับคนที่อยากลองใช้หูฟังตัดเสียงรบกวน หรือต้องการหูฟังดีๆ สำหรับเดินทางในราคาที่ไม่แรงเกินไป
- จุดเด่นสินค้า: ราคาคุ้มค่า, ตัดเสียงรบกวนได้ดี, น้ำหนักเบาใส่สบาย, แบตเตอรี่อึดมาก, เสียงสมดุลฟังง่าย
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบ Active Noise Cancellation: ลดเสียงรบกวนความถี่ต่ำ เช่น เสียงเครื่องยนต์ เสียงแอร์ ช่วยให้คุณโฟกัสกับเสียงเพลงหรือพอดแคสต์ได้ดีขึ้น แม้จะไม่ได้เงียบสนิทเท่ารุ่นพี่ตัวท็อป แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- โหมด Ambient Sound: เปิดรับฟังเสียงรอบข้างได้เมื่อต้องการ โดยไม่ต้องถอดหูฟัง เหมาะสำหรับเวลาเดินบนถนนหรือฟังประกาศต่างๆ เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการสื่อสาร
- แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน: ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 50 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC ทำให้ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ เหมาะกับการเดินทางไกลหรือใช้งานตลอดวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด
- รองรับ Multipoint Connection: เชื่อมต่ออุปกรณ์ Bluetooth ได้พร้อมกันสองเครื่อง สลับการใช้งานระหว่างสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มความสะดวกในการทำงานและการรับสายโทรศัพท์
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเดินทาง, คนทำงานทั่วไป, นักเรียน/นักศึกษา, ผู้เริ่มต้นใช้งานหูฟังตัดเสียงรบกวน, การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|
ครอบหู (Over-ear) | Active Noise Cancellation (ANC) | Bluetooth 5.2, Multipoint | สูงสุด 50 ชม. (ปิด ANC) / 35 ชม. (เปิด ANC) | SBC, AAC | ประมาณ 192 กรัม | Sony |
4. SONY WF-C700N
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WF-C700N
- ราคาสินค้า: ประมาณ 3,990 - 4,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless ที่มีระบบตัดเสียงรบกวนในราคาที่เป็นมิตร ให้เสียงเบสที่ชัดเจน รายละเอียดดี พร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนที่ช่วยลดเสียงรอบข้างได้ในระดับหนึ่ง ดีไซน์กะทัดรัด ใส่สบาย กระชับหู เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเดินทาง ออกกำลังกายเบาๆ หรือทำงานที่ต้องการตัดเสียงรบกวนที่ไม่รุนแรงมาก
- จุดเด่นสินค้า: ราคาไม่แพง, มี ANC, เสียงดีเบสชัด, ขนาดเล็กใส่สบาย, กันน้ำระดับ IPX4
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบ Active Noise Cancellation: ช่วยลดเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น เสียงพูดคุยในออฟฟิศ หรือเสียงเครื่องยนต์ของรถโดยสาร ทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงหรือเนื้อหาที่ฟังได้อย่างมีสมาธิมากขึ้น
- โหมด Ambient Sound: ปรับระดับการรับเสียงจากภายนอกได้ตามต้องการ หรือจะเลือกโหมด Focus on Voice เพื่อเน้นฟังเฉพาะเสียงคนพูด เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ต้องการได้ยินเสียงรอบข้างเพื่อความปลอดภัยหรือการสื่อสาร
- การเชื่อมต่อที่เสถียร: ด้วยชิป Bluetooth ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ทำให้การเชื่อมต่อมีเสถียรภาพ สัญญาณไม่หลุดง่าย รองรับการดูวิดีโอหรือเล่นเกมได้อย่างราบรื่น ไม่ดีเลย์จนน่ารำคาญ
- การปรับแต่งเสียงผ่านแอป: ใช้แอป Sony | Headphones Connect เพื่อปรับ Equalizer หรือตั้งค่าอื่นๆ ได้ตามความชอบส่วนตัว สร้างโปรไฟล์เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเอง ทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ถูกใจที่สุด
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนทำงาน, นักเรียน/นักศึกษา, คนที่เดินทางด้วยรถโดยสาร, คนออกกำลังกายเบาๆ, ผู้ที่ต้องการหูฟัง True Wireless มี ANC ในงบจำกัด
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก (ต่อข้าง) | การกันน้ำ | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless In-ear | Active Noise Cancellation (ANC) | Bluetooth 5.2, Multipoint (ผ่านอัปเดตเฟิร์มแวร์) | สูงสุด 10 ชม. (หูฟัง) + 10 ชม. (เคส) | SBC, AAC | ประมาณ 4.6 กรัม | IPX4 | Sony |
5. SONY WH-CH520
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WH-CH520
- ราคาสินค้า: ประมาณ 1,790 - 2,490 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟัง Bluetooth แบบ On-Ear ในราคาเบาๆ ที่ให้คุณภาพเสียงเกินตัว ดีไซน์เรียบง่าย น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไม่บีบหู แบตเตอรี่อึดสุดๆ ใช้งานได้ยาวนานหลายวัน ให้เสียงที่ชัดเจน เหมาะกับการฟังเพลงทั่วไป ดูหนัง ฟังพอดแคสต์ หรือใช้เรียนออนไลน์ ทำงานออนไลน์ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหูฟังไร้สายคุณภาพดีในงบประหยัด โดยไม่เน้นฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน
- จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก, แบตเตอรี่โคตรอึด, น้ำหนักเบาใส่สบาย, เสียงดีคุ้มราคา, มีไมโครโฟนในตัว
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานมาก: สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 50 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ทำให้เหมาะกับการใช้งานตลอดทั้งวันหรือพกพาไปเดินทางโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดระหว่างทาง ฟังเพลงมาราธอนได้สบายๆ
- รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multipoint: เชื่อมต่ออุปกรณ์สองเครื่องพร้อมกันได้ เช่น เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊ก สามารถสลับการใช้งานระหว่างสองอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย สะดวกสำหรับการทำงานหรือรับสายขณะดูหนังฟังเพลงจากอีกเครื่อง
- ปรับแต่งเสียงผ่าน Equalizer ในแอป: แม้จะเป็นรุ่นเล็ก แต่ก็ยังสามารถปรับแต่งโปรไฟล์เสียงได้ตามต้องการผ่านแอป Sony | Headphones Connect ช่วยให้คุณปรับเสียงเบส เสียงกลาง เสียงแหลมให้ตรงกับแนวเพลงที่ชอบหรือความต้องการในการฟังได้
- การเชื่อมต่อที่ง่ายและเสถียร: เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่าน Bluetooth 5.2 ทำได้อย่างรวดเร็วและมีความเสถียรในการส่งสัญญาณ ทำให้เสียงไม่ขาดหายหรือกระตุกขณะใช้งาน ดูวิดีโอหรือเล่นเกมได้ไหลลื่นพอสมควร
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบจำกัด, นักเรียน/นักศึกษา, คนทำงานทั่วไป, การใช้งานในบ้านหรือที่ทำงาน, การเดินทางระยะสั้น
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|
On-ear | ไม่มี | Bluetooth 5.2, Multipoint | สูงสุด 50 ชม. | SBC, AAC | ประมาณ 132 กรัม | Sony |
6. SONY WF-C500
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WF-C500
- ราคาสินค้า: ประมาณ 2,490 - 2,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless รุ่นเล็กราคาประหยัดที่ให้คุณภาพเสียงดีเกินคาด! WF-C500 เน้นความกะทัดรัด ใส่สบายหู แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานพอสมควร เสียงชัดเจน เบสแน่นตามสไตล์ Sony มีฟังก์ชัน DSEE ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงเพลงที่ถูกบีบอัด เหมาะกับคนที่มองหาหูฟัง True Wireless สำหรับฟังเพลงทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยไม่จำเป็นต้องมีระบบตัดเสียงรบกวน
- จุดเด่นสินค้า: ราคาคุ้มค่ามาก, ขนาดเล็กใส่สบาย, แบตเตอรี่พอใช้ได้, คุณภาพเสียงดีเกินราคา, มี DSEE
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- เทคโนโลยี DSEE™: ย่อมาจาก Digital Sound Enhancement Engine ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงไฟล์เพลงดิจิทัลที่ถูกบีบอัดให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับมากขึ้น ทำให้ได้ยินรายละเอียดเสียงที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ฟังเพลงได้อรรถรสยิ่งขึ้น
- การออกแบบที่เน้นความสบาย: ด้วยรูปทรงที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ทำให้ใส่ได้พอดีกับช่องหูส่วนใหญ่ ไม่หลุดง่าย และรู้สึกสบายแม้สวมใส่เป็นเวลานาน เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เดินทาง หรือทำกิจกรรมที่ไม่โลดโผนมาก
- แบตเตอรี่ที่เพียงพอต่อการใช้งาน: หูฟังใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเคสชาร์จสำรองไฟได้อีก 10 ชั่วโมง รวมเป็น 20 ชั่วโมง เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมดกลางคัน
- การปรับแต่งเสียงผ่านแอป: สามารถใช้แอป Sony | Headphones Connect เพื่อปรับ Equalizer หรือตั้งค่าอื่นๆ ได้ตามความชอบส่วนตัว ปรับปรุงคุณภาพเสียงให้ตรงกับสไตล์การฟังของคุณได้ง่ายๆ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบจำกัด, คนทั่วไปที่ต้องการหูฟัง True Wireless สำหรับฟังเพลง, การใช้งานในชีวิตประจำวัน, การเดินทางระยะสั้น, คนที่ชอบหูฟังขนาดเล็กใส่สบาย
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก (ต่อข้าง) | การกันน้ำ | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless In-ear | ไม่มี | Bluetooth 5.0 | สูงสุด 10 ชม. (หูฟัง) + 10 ชม. (เคส) | SBC, AAC | ประมาณ 5.4 กรัม | IPX4 | Sony |
7. SONY LinkBuds S (WF-LS900N)
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: LinkBuds S (WF-LS900N)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 6,490 - 7,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟัง True Wireless ดีไซน์แหวกแนว ที่เน้นการเชื่อมต่อคุณกับโลกภายนอกด้วยดีไซน์แบบ Open-Ring (สำหรับรุ่น LinkBuds ธรรมดา) แต่รุ่น LinkBuds S นี้มาพร้อมดีไซน์ In-ear ทั่วไปแต่ยังคงเน้นความเบา สบาย และการเชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมได้อย่างแนบเนียน มี ANC ในตัว ขนาดเล็กและเบาที่สุดในโลก ( ณ ตอนเปิดตัว) สวมใส่ได้ทั้งวันโดยไม่รู้สึกอึดอัด เหมาะกับคนที่ต้องการหูฟังที่ใส่สบาย ไม่ตัดขาดจากโลกภายนอก แต่ก็มี ANC ให้ใช้เมื่อต้องการสมาธิ
- จุดเด่นสินค้า: เบาและเล็กมาก, สวมใส่สบายตลอดวัน, ANC คุณภาพดี, โหมด Ambient Sound ยอดเยี่ยม, คุณภาพเสียงดี
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- Adaptive Sound Control: ฟังก์ชันอัจฉริยะที่ปรับการตั้งค่าเสียงรอบข้างโดยอัตโนมัติตามกิจกรรมที่คุณกำลังทำ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง หรือนั่ง ช่วยให้คุณได้ยินเสียงที่จำเป็นในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมโดยอัตโนมัติ
- Auto Play: เล่นเพลงหรือเสียงโดยอัตโนมัติเมื่อคุณเริ่มกิจกรรมบางอย่าง เช่น เริ่มเดิน หรือเมื่อใส่หูฟัง โดยไม่จำเป็นต้องกดเล่นจากมือถือ ทำให้การฟังเพลงของคุณต่อเนื่องและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
- Speak-to-Chat: เมื่อคุณเริ่มพูดคุยกับคนรอบข้าง หูฟังจะหยุดเพลงและเปิดโหมดฟังเสียงรอบข้างให้อัตโนมัติ ช่วยให้คุณสามารถสนทนาได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก ทำให้ไม่พลาดทุกบทสนทนาสำคัญ
- รองรับ High-Resolution Audio Wireless: แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็รองรับการฟังเพลงคุณภาพสูงแบบไร้สายผ่าน codec LDAC ทำให้ได้ยินรายละเอียดเสียงที่ครบถ้วนและสมจริงมากขึ้น เหมาะกับสาย Audiophile ที่ต้องการความสะดวกและคุณภาพเสียงที่ดี
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ต้องการหูฟังที่ใส่สบายมากๆ, คนที่ต้องการรับรู้เสียงรอบข้างขณะใช้งาน, การใช้งานในชีวิตประจำวัน, การเดินทาง, คนที่ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก (ต่อข้าง) | การกันน้ำ | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
True Wireless In-ear | Active Noise Cancellation (ANC) | Bluetooth 5.2, Multipoint (ผ่านอัปเดตเฟิร์มแวร์) | สูงสุด 6 ชม. (หูฟัง) + 14 ชม. (เคส) | SBC, AAC, LDAC | ประมาณ 4.8 กรัม | IPX4 | Sony |
8. SONY ULT WEAR (WH-ULT900N)
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: ULT WEAR (WH-ULT900N)
- ราคาสินค้า: ประมาณ 7,990 - 8,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟังแบบครอบหูที่เน้นพลังเสียงเบสขั้นสุดตามชื่อรุ่น ULT (Ultimate) มาพร้อมปุ่ม ULT พิเศษที่ให้คุณเลือกโหมดเบสได้สองระดับ เบสหนักแน่นสะใจ! นอกจากเบสแล้วยังมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนที่ดี และเสียงกลางแหลมที่ชัดเจน ดีไซน์สวยงามทันสมัย สวมใส่สบาย เหมาะกับสาย EDM, Hip-Hop หรือคนที่ชอบฟังเพลงเน้นเบสเป็นพิเศษ และยังต้องการฟังก์ชัน ANC ด้วย
- จุดเด่นสินค้า: เบสหนักสะใจ เลือกได้ 2 ระดับ, มี ANC คุณภาพดี, ดีไซน์ทันสมัย, สวมใส่สบาย, แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ปุ่ม ULT: ปุ่มพิเศษที่ให้คุณเข้าถึงพลังเบสขั้นสุดได้ทันที มีให้เลือก 2 ระดับคือ ULT1 สำหรับเบสที่ลึกและหนักแน่น และ ULT2 สำหรับเบสที่ทรงพลังและกระหึ่มยิ่งกว่าเดิม ปรับตามแนวเพลงหรืออารมณ์ที่ต้องการได้ง่ายๆ แค่กดปุ่ม
- ระบบตัดเสียงรบกวนดิจิทัล: ช่วยให้คุณดื่มด่ำกับพลังเบสและเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอกมากวนใจ ลดเสียงรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โฟกัสกับเสียงดนตรีได้ดียิ่งขึ้น
- การออกแบบที่เน้นความสบาย: เอียร์คัพและแถบคาดศีรษะบุด้วยวัสดุนุ่มพิเศษ ทำให้สวมใส่สบายแม้ใช้งานเป็นเวลานาน ไม่บีบรัดหูหรือศีรษะ เหมาะสำหรับการฟังเพลงต่อเนื่องหลายชั่วโมง
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน: ให้เวลาฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุดถึง 30 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดวัน หรือพกพาไปเดินทางโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ เพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้แบบไม่สะดุด
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ชื่นชอบเพลงแนวเบสหนักๆ (EDM, Hip-Hop), การเดินทาง, การใช้งานในชีวิตประจำวัน, คนที่ต้องการหูฟังที่เน้นความสนุกสนานของเสียง
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|
ครอบหู (Over-ear) | Active Noise Cancellation (ANC) | Bluetooth 5.2 | สูงสุด 30 ชม. (เปิด ANC) / 50 ชม. (ปิด ANC) | SBC, AAC | ประมาณ 255 กรัม | Sony |
9. SONY WH-CH710N (อาจจะยังพอมีขายในปี 2025)
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WH-CH710N
- ราคาสินค้า: ประมาณ 3,490 - 4,590 บาท (ราคาอาจลดลง)
- คำอธิบายสินค้า: หูฟังตัดเสียงรบกวนรุ่นยอดนิยมที่ยังน่าสนใจในปี 2025 ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายและฟังก์ชันที่ครบครันสำหรับการใช้งานทั่วไป มาพร้อมระบบ Active Noise Cancellation ที่ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา ให้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sony เหมาะกับคนที่มองหาหูฟังตัดเสียงรบกวนคุณภาพดีในงบที่ไม่สูงมากนัก เป็นรุ่นที่คุ้มค่าคุ้มราคามากๆ
- จุดเด่นสินค้า: ราคาคุ้มค่า, มี ANC, แบตเตอรี่อึด, สวมใส่สบายน้ำหนักเบา, เสียงเป็นเอกลักษณ์
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- ระบบ Artificial Intelligence Noise Cancellation (AINC): ระบบตัดเสียงรบกวนอัจฉริยะที่วิเคราะห์เสียงรอบข้างและเลือกโหมดตัดเสียงรบกวนที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ ทำให้คุณได้รับประสบการณ์การตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
- แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน: สามารถใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 35 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC เพียงพอสำหรับการเดินทางไกลๆ หรือใช้งานตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างทาง ทำให้ไม่พลาดทุกความบันเทิง
- ดีไซน์แบบครอบหูที่สวมใส่สบาย: เอียร์แพดนุ่มและแถบคาดศีรษะที่ปรับได้ ทำให้สวมใส่ได้พอดีกับรูปศีรษะต่างๆ และรู้สึกสบายแม้ใช้งานเป็นเวลานาน น้ำหนักเบา ไม่ทำให้รู้สึกเมื่อยล้าหูหรือคอ
- ฟังก์ชัน Quick Attention (ไม่ใช่ Speak-to-Chat): วางมือบนเอียร์คัพด้านขวาเพื่อลดเสียงเพลงและเปิดรับเสียงรอบข้างชั่วคราว เหมาะสำหรับฟังประกาศหรือพูดคุยสั้นๆ โดยไม่ต้องถอดหูฟังออก เป็นฟังก์ชันที่สะดวกสำหรับการใช้งานในที่สาธารณะ
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบจำกัด, นักเดินทาง, คนทำงานที่ต้องการสมาธิ, การใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน, นักเรียน/นักศึกษา
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|
ครอบหู (Over-ear) | Active Noise Cancellation (ANC) | Bluetooth 5.0 | สูงสุด 35 ชม. (เปิด ANC) / 40 ชม. (ปิด ANC) | SBC, AAC | ประมาณ 223 กรัม | ไม่มี (ระบุชัดเจน) |
10. SONY WI-C100
- ชื่อแบรนด์: SONY
- ชื่อสินค้า: WI-C100
- ราคาสินค้า: ประมาณ 990 - 1,290 บาท
- คำอธิบายสินค้า: หูฟัง Bluetooth แบบ In-ear ชนิดคล้องคอ (Neckband) ที่ราคาถูกที่สุดจาก SONY แต่คุณภาพเสียงไม่ได้ถูกตามราคา! ให้เสียงที่คมชัด เบสกำลังดี น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ไม่หลุดง่าย แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน มีไมโครโฟนในตัวสำหรับการโทร กันน้ำระดับ IPX4 เหมาะกับคนที่มองหาหูฟังไร้สายราคาประหยัดสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ออกกำลังกายเบาๆ หรือใช้เป็นหูฟังสำรอง พกพาง่าย คล้องคอไว้ได้ตลอด
- จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกสุดๆ, คุณภาพเสียงดีเกินราคา, น้ำหนักเบาคล้องคอสะดวก, แบตเตอรี่นานพอตัว, กันน้ำ IPX4
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 25 ชั่วโมง: เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งวัน ฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวๆ หรือใช้ระหว่างเดินทาง ไม่ต้องคอยชาร์จบ่อยๆ ทำให้สะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน
- การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์: ตัวหูฟังออกแบบมาให้เข้ากับรูปทรงของช่องหูส่วนใหญ่ ทำให้ใส่ได้กระชับ ไม่หลุดง่าย และรู้สึกสบายแม้ใช้งานเป็นเวลานาน สายคล้องคอมีน้ำหนักเบา ไม่รู้สึกรำคาญ
- เทคโนโลยี DSEE™: ช่วยยกระดับคุณภาพเสียงไฟล์เพลงดิจิทัลที่ถูกบีบอัดให้มีคุณภาพใกล้เคียงกับต้นฉบับมากขึ้น ทำให้ได้ยินรายละเอียดเสียงที่ชัดเจนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น แม้จะเป็นหูฟังรุ่นเล็ก แต่ก็ยังได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้น
- การปรับแต่งเสียงผ่านแอป: สามารถใช้แอป Sony | Headphones Connect เพื่อปรับ Equalizer หรือตั้งค่าเสียงอื่นๆ ได้ตามความชอบส่วนตัว ปรับเสียงเบส เสียงกลาง เสียงแหลมให้ตรงกับแนวเพลงที่ชอบได้ง่ายๆ
- กันน้ำและเหงื่อระดับ IPX4: สามารถทนทานต่อน้ำกระเด็นหรือเหงื่อได้ ทำให้เหมาะกับการใช้งานระหว่างออกกำลังกายเบาๆ หรือใช้งานในสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจเล็กน้อย ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากความชื้น
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มีงบจำกัดมากๆ, นักเรียน/นักศึกษา, การใช้งานในชีวิตประจำวัน, การออกกำลังกายเบาๆ, คนที่ชอบหูฟังแบบคล้องคอ, ใช้เป็นหูฟังสำรอง
ประเภทหูฟัง | ระบบตัดเสียงรบกวน | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | Codec ที่รองรับ | น้ำหนัก | การกันน้ำ | แอปพลิเคชัน |
---|---|---|---|---|---|---|---|
Neckband In-ear | ไม่มี | Bluetooth 5.0 | สูงสุด 25 ชม. | SBC, AAC | ประมาณ 20 กรัม | IPX4 | Sony |
คำแนะนำการเลือกซื้อหูฟัง Bluetooth SONY
- 1. สำรวจไลฟ์สไตล์และความต้องการใช้งาน (จะเอาไปทำอะไรบ้างจ๊ะ?)
ก่อนจะเสียเงินเสียทองไปกับหูฟังคู่ใหม่ ลองถามใจตัวเองก่อนว่าเราจะเอาไปทำอะไรเป็นหลัก? เป็นสายทำงาน Work From Anywhere ต้องนั่งจิบกาแฟในร้านเสียงดังๆ บ่อยๆ หรือต้องเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รถเมล์ทุกวัน? ถ้าใช่! ฟังก์ชัน Active Noise Cancellation (ANC) คือสิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องมองหาเลยจ้า มันจะช่วยเนรมิตความเงียบสงบให้เราได้เหมือนเสกมนต์ ดึงเราออกจากความวุ่นวายรอบข้าง ให้จดจ่อกับเสียงเพลง พอดแคสต์ หรือการประชุมออนไลน์ได้อย่างไม่สะดุด รุ่นอย่าง WH-1000XM6 หรือ WF-1000XM6 นี่คือตัวท็อปเรื่อง ANC เลยนะ ตัดเสียงได้กริ๊บจนบางทีต้องระวังตัว เพราะอาจจะไม่ได้ยินเสียงแตรมอเตอร์ไซค์ข้างหลัง! แต่ถ้าชีวิตส่วนใหญ่อยู่บ้าน ไม่ค่อยเจอเสียงรบกวนมากนัก หรือแค่อยากได้หูฟังไว้ฟังเพลงเพลินๆ ตอนทำกับข้าว ออกกำลังกายในสวนสาธารณะ หรือใช้เรียนออนไลน์ ฟังก์ชัน ANC อาจจะไม่ใช่เรื่องจำเป็นอันดับต้นๆ ก็ได้ หูฟังที่เน้นคุณภาพเสียงดีๆ หรือความสบายในการสวมใส่ หรือแบตเตอรี่อึดๆ อย่าง WH-CH520 หรือ WF-C500 ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า นอกจากนี้ ยังต้องดูด้วยว่าเราชอบหูฟังแบบไหน? แบบครอบหู (Over-ear) นุ่มสบาย ใส่ได้นาน ตัดเสียงภายนอกได้ดีกว่าโดยธรรมชาติ แต่ขนาดจะใหญ่หน่อย หรือ แบบ In-ear (ทั้ง True Wireless และ Neckband) เล็ก กะทัดรัด พกพาง่าย ใส่ทำกิจกรรมได้คล่องตัวกว่า แต่บางคนอาจจะไม่ชอบความรู้สึกที่มีอะไรอยู่ในหู และต้องเลือกขนาดจุกหูฟังให้พอดีกับหูจริงๆ ไม่งั้นอาจจะหลุดง่ายหรือไม่สบายหูได้ (อันนี้สำคัญมากในสภาพอากาศบ้านเราที่ร้อนชื้น เหงื่อออกง่าย ต้องเลือกจุกที่กระชับและวัสดุดีๆ หน่อย) คิดดีๆ ก่อนว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรามากที่สุดนะจ๊ะ จะได้ไม่ซื้อมาแล้วเสียดายทีหลัง! - 2. คุณภาพเสียงและเทคโนโลยีที่รองรับ (อยากฟังเพลงให้ฟินแค่ไหน?)
เรื่องเสียงนี่เป็นหัวใจหลักของหูฟังเลยใช่ไหมล่ะ? SONY เค้าขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพเสียงอยู่แล้ว แต่แต่ละรุ่นก็มีคาแรกเตอร์และเทคโนโลยีที่ต่างกันไปนะ ถ้าเป็นสาย Audiophile หรือคนหูเทพที่อยากได้ยินรายละเอียดเสียงครบทุกเม็ด ฟังเพลงแบบ Hi-Res Audio (เสียงคุณภาพสูงกว่า CD) ก็ต้องมองหารุ่นที่รองรับ LDAC ซึ่งเป็น Codec ที่ SONY พัฒนาขึ้นเอง ให้การส่งข้อมูลเสียงแบบไร้สายที่ความละเอียดสูงมากๆ รุ่นท็อปๆ อย่าง WH-1000XM6, WF-1000XM6, หรือ LinkBuds S มักจะรองรับ LDAC พวกนี้จะให้เสียงที่ใส เคลียร์ รายละเอียดพริ้วไหว เบสมีมิติ ฟังแล้วเคลิ้มเหมือนนักร้องมาร้องอยู่ข้างหู! นอกจาก LDAC แล้ว ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ของ SONY ที่ช่วยเรื่องคุณภาพเสียง เช่น DSEE Extreme (Digital Sound Enhancement Engine Extreme) ที่อยู่ในรุ่นกลางๆ ถึงบน ช่วยอัปสเกลเสียงเพลงจากไฟล์ที่ถูกบีบอัด (อย่างไฟล์ MP3 ที่ฟังจากสตรีมมิ่งทั่วไป) ให้มีคุณภาพใกล้เคียง Hi-Res มากขึ้น ช่วยให้เพลงเก่าๆ ที่ฟังอยู่เสียงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หรือในรุ่นเล็กๆ ก็ยังมี DSEE ธรรมดาที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงได้เหมือนกันนะ ลองสังเกตฟังก์ชันนี้ดูเวลาเลือกซื้อ ส่วนเรื่องเบส SONY ก็มีรุ่นที่เน้นเบสเป็นพิเศษอย่าง ULT WEAR ที่มีปุ่มให้กดเพิ่มเบสได้ตามใจชอบ อันนี้ถูกใจสายตื๊ดแน่นอน แต่ถ้าไม่ได้เป็นคนหูเทพอะไรมาก หรือแค่ฟังเพลงทั่วไปจากสตรีมมิ่งหลักๆ รุ่นเริ่มต้นอย่าง WH-CH720N, WF-C700N, WH-CH520 หรือ WF-C500 ก็ให้เสียงที่ดีในระดับที่น่าพอใจสำหรับราคานั้นๆ แล้วนะ อาจจะไม่ได้มีรายละเอียดเท่ารุ่นแพงๆ แต่ก็ฟังสนุก ฟังเพลินได้ไม่ผิดหวัง อย่าลืมดู Codec อื่นๆ ที่รองรับด้วยนะ เช่น SBC, AAC ซึ่งเป็น Codec พื้นฐานที่อุปกรณ์ส่วนใหญ่รองรับ เลือกหูฟังที่รองรับ Codec ที่มือถือหรืออุปกรณ์เราใช้งานบ่อยๆ จะได้ใช้คุณภาพเสียงได้เต็มที่ - 3. ฟังก์ชันเสริมและความสะดวกสบาย (มีอะไรให้เล่นอีกบ้างนะ?)
หูฟังสมัยนี้ไม่ได้มีแค่ฟังเพลงแล้วนะจ๊ะ ฟังก์ชันเสริมต่างๆ ก็เป็นตัวช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้นเยอะเลย อย่าง Sony | Headphones Connect App (หรือชื่อใหม่ Sound Connect ในบางรุ่น) นี่คือแอปคู่ใจที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับหูฟัง SONY หลายรุ่น เพราะมันให้เราเข้าไปปรับตั้งค่าต่างๆ ได้เพียบ ทั้งปรับระดับ ANC, เปิด/ปิดโหมดฟังเสียงรอบข้าง, ปรับ Equalizer เสียงตามใจชอบ, อัปเดตเฟิร์มแวร์หูฟัง (อันนี้สำคัญมาก เพราะบางทีอัปเดตแล้วหูฟังดีขึ้นเยอะ!) รวมถึงการตั้งค่าฟังก์ชันพิเศษต่างๆ เช่น Adaptive Sound Control, Speak-to-Chat, หรือการเชื่อมต่อ Multipoint บางฟังก์ชันจะใช้งานได้เต็มที่ก็ต่อเมื่อใช้คู่กับแอปเท่านั้นนะจ๊ะ นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น แบตเตอรี่ ใครที่ใช้งานหูฟังนานๆ หรือเดินทางบ่อยๆ ควรดูรุ่นที่แบตอึดๆ หน่อย จะได้ไม่ต้องคอยหาที่ชาร์จ รุ่นอย่าง WH-CH720N หรือ WH-CH520 นี่คือที่สุดของความอึดเลยนะ ส่วนหูฟัง True Wireless ก็ต้องดูแบตของทั้งหูฟังและเคสชาร์จประกอบกัน รุ่นใหม่ๆ มักจะรองรับ Fast Charge ชาร์จแป๊บเดียวใช้ได้หลายชั่วโมง ก็ช่วยได้เยอะเวลาเร่งรีบ และที่สำคัญมากๆ สำหรับอากาศบ้านเราคือ การกันน้ำและเหงื่อ ถ้าจะเอาไปออกกำลังกาย ควรเลือกรุ่นที่มีมาตรฐาน IPX4 ขึ้นไป จะได้มั่นใจว่าเหงื่อหรือละอองน้ำไม่ทำให้หูฟังพังง่ายๆ ส่วนเรื่อง ความสบายในการสวมใส่ อันนี้ต้องลองเองถึงจะรู้ แต่โดยทั่วไปหูฟังแบบครอบหูจะใส่สบายกว่าสำหรับการใช้งานนานๆ ส่วนหูฟัง In-ear ต้องเลือกขนาดจุกให้พอดี และวัสดุดีๆ หน่อยถึงจะใส่สบายและกระชับในระยะยาว ฟังก์ชันเล็กๆ น้อยๆ อย่าง การควบคุมแบบสัมผัส (Touch Control) หรือ ปุ่มกดต่างๆ ที่ปรับตั้งค่าได้ก็ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้นะ บางรุ่นมี Quick Access ให้เข้าถึงแอปเพลงโปรดได้ง่ายๆ ด้วย - 4. ราคาและความคุ้มค่า (งบมีเท่านี้ ได้อะไรบ้าง?)
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือเรื่องงบประมาณ! หูฟัง SONY มีให้เลือกหลากหลายราคาตั้งแต่หลักพันต้นๆ ไปจนถึงหมื่นกว่าบาท รุ่นเรือธงอย่าง WH-1000XM6 หรือ WF-1000XM6 แน่นอนว่าให้ฟังก์ชันและคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด แต่ราคาก็สูงตามไปด้วย ถ้ามีงบเยอะและต้องการสิ่งที่ดีที่สุด จัดไปเลยไม่ผิดหวังจ้า แต่ถ้ามีงบจำกัด รุ่นรองๆ ลงมาอย่าง WH-CH720N หรือ WF-C700N ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ ให้ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนและคุณภาพเสียงที่ดีในราคาที่เข้าถึงง่าย ส่วนรุ่นประหยัดอย่าง WH-CH520 หรือ WF-C500 ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการหูฟังไร้สายพื้นฐานคุณภาพดีในราคาไม่ถึงสองพัน หรือสองพันกว่าบาท อย่าลืมเช็คโปรโมชั่นตามร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ด้วยนะ เพราะช่วงเทศกาลหรือวันช้อปปิ้งใหญ่ๆ มักจะมีโปรโมชั่นลดราคา แฟลชเซล หรือโค้ดส่วนลดออกมาเพียบ! ซื้อออนไลน์นอกจากสะดวกแล้ว บางทีก็ได้ราคาดีกว่าไปซื้อหน้าร้านอีกนะ แต่ต้องเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ มีรีวิวดีๆ หรือเป็นร้านค้าทางการของ SONY เอง จะได้มั่นใจว่าเป็นของแท้ ไม่โดนหลอก นอกจากนี้ ลองอ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในไทยตามเว็บบอร์ด หรือกลุ่มรีวิวสินค้าต่างๆ ดูด้วยนะ จะได้เห็นความคิดเห็นจากคนที่ใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมแบบบ้านเรา มีประโยชน์ในการตัดสินใจมากๆ เลยล่ะ สรุปคืองบเท่าไหร่ ก็เลือกหูฟังที่ให้ฟังก์ชันและคุณภาพเสียงที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของเรามากที่สุดในงบนั้นๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นแพงสุดเสมอไป ขอแค่ได้หูฟังที่ใช่สำหรับเราก็พอแล้ว!
คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟัง Bluetooth SONY
- Q: หูฟัง SONY Bluetooth รุ่นไหนตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุด?
A: ในปี 2025 รุ่นที่ตัดเสียงรบกวนได้ดีที่สุดคือ SONY WH-1000XM6 (แบบครอบหู) และ SONY WF-1000XM6 (True Wireless In-ear) ทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนขั้นสูงล่าสุดจาก SONY ที่ทำงานร่วมกับชิปประมวลผลทรงพลัง ทำให้ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ เสียงพูดคุย หรือเสียงรบกวนอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเงียบสงบเพื่อโฟกัสกับเสียงที่ฟัง - Q: SONY | Headphones Connect App ใช้ทำอะไรได้บ้าง?
A: แอป Sony | Headphones Connect (หรือ Sound Connect) เป็นแอปคู่หูสำหรับหูฟัง SONY หลายรุ่น ช่วยให้คุณปรับตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างละเอียด เช่น เปิด/ปิด หรือปรับระดับระบบตัดเสียงรบกวนและโหมดฟังเสียงรอบข้าง, ปรับ Equalizer เสียงตามแนวเพลงที่ชอบ, ตั้งค่าฟังก์ชัน Adaptive Sound Control, Speak-to-Chat, การเชื่อมต่อ Multipoint, ปรับแต่งการควบคุมแบบสัมผัส และอัปเดตเฟิร์มแวร์หูฟัง เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณใช้งานหูฟัง SONY ได้เต็มประสิทธิภาพและปรับให้เข้ากับความต้องการของคุณมากที่สุด - Q: หูฟัง SONY Bluetooth รุ่นไหนเหมาะกับการออกกำลังกาย?
A: สำหรับการออกกำลังกาย ควรเลือกรุ่นที่มีมาตรฐานการกันน้ำและเหงื่อระดับ IPX4 ขึ้นไป เช่น SONY WF-1000XM6, SONY WF-C700N, SONY WF-C500 หรือ SONY WI-C100 รุ่นเหล่านี้สามารถทนทานต่อเหงื่อหรือละอองน้ำได้ดี ทำให้ใช้งานระหว่างออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหาย แต่ถ้าเป็นการออกกำลังกายหนักๆ ที่มีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ อาจจะต้องพิจารณารุ่นที่ออกแบบมาเพื่อการกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งอาจจะมีรุ่นอื่นๆ จาก SONY หรือแบรนด์อื่นเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม - Q: สามารถเชื่อมต่อหูฟัง SONY Bluetooth กับอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันได้ไหม?
A: หูฟัง SONY Bluetooth หลายรุ่นรองรับฟังก์ชัน Multipoint Connection ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อหูฟังกับอุปกรณ์ Bluetooth ได้พร้อมกันสองเครื่อง เช่น สมาร์ทโฟนและโน้ตบุ๊ก คุณสามารถสลับการใช้งานระหว่างสองอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องตัดการเชื่อมต่อก่อน ฟังก์ชันนี้มีประโยชน์มากสำหรับคนที่ต้องทำงานและรับสายโทรศัพท์ในเวลาเดียวกัน รุ่นที่รองรับฟังก์ชันนี้มักจะเป็นรุ่นกลางถึงบนขึ้นไป - Q: ควรซื้อหูฟัง SONY Bluetooth จากที่ไหนในประเทศไทย?
A: คุณสามารถซื้อหูฟัง SONY Bluetooth ได้จากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ SONY ในประเทศไทย เช่น ร้าน SONY Store, ร้านค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำอย่าง Power Buy, Banana IT, Jaymart หรือร้านค้าออนไลน์ที่เป็นทางการบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมอย่าง Shopee, Lazada นอกจากนี้ยังมีร้านค้าเฉพาะทางด้านหูฟังอย่าง Munkonggadget หรือ SoundProofBros ที่มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและสามารถทดลองฟังก่อนตัดสินใจซื้อได้
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง
บทความยอดนิยม
1
2025-06-13 10:34
บทความที่แนะนำ
1
2025-06-13 10:34
2
2025-05-12 16:23
3
2025-05-12 16:23
4
2025-06-11 15:51
5
2025-05-12 16:23