สวัสดีจ้า! วันนี้ดิฉัน ตัวแม่แห่งวงการช้อปปิ้งออนไลน์ ขอเอาใจสาย Gadget และคนยุคใหม่ที่ชีวิตต้อง On The Go ตลอดเวลา กับหัวข้อแซ่บๆ ที่ว่าด้วยเรื่องของ "เครื่องปริ้นพกพา รุ่นไหนดี ปี 2025 เล็กกระทัดรัด พิมพ์ได้ทุกที่ ทุกเวลา"! เพราะเข้าใจนะว่าชีวิตยุคนี้มันเร่งรีบ จะปริ้นงานทีต้องวิ่งหาร้าน หรืออยากได้รูปด่วนๆ มาแปะสมุด แปะโน้ต ก็ไม่สะดวกเลยใช่ไหมล่ะ เครื่องปริ้นพกพานี่แหละคือคำตอบ! มันไม่ใช่แค่พรินเตอร์ย่อส่วนนะ แต่มันคือผู้ช่วยชีวิตที่จะทำให้ทุกการพิมพ์ของคุณง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ไม่ว่าจะทำงาน ส่งของ หรือจะสร้างสรรค์โมเมนต์น่ารักๆ ก็จัดไปอย่าให้เสีย!
1. Xiaomi Mi Portable Photo Printer
- ชื่อแบรนด์: Xiaomi
- ชื่อสินค้า: Mi Portable Photo Printer
- ราคาสินค้า: ประมาณ 1,790 - 2,299 บาท
- คำอธิบายสินค้า: เจ้าเครื่องปริ้นจิ๋วแต่แจ๋วจาก Xiaomi ตัวนี้คือขวัญใจสายมินิมอลและคนชอบถ่ายรูปสุดๆ ด้วยขนาดที่เล็กเท่าพาวเวอร์แบงค์ พกใส่กระเป๋าเสื้อยังได้ ดีไซน์เรียบหรู ใช้งานง่ายผ่านแอปฯ ในมือถือ ไม่ต้องง้อหมึก เพราะใช้เทคโนโลยี ZINK Thermal Printing ให้ภาพสีสวย คมชัด แถมยังเป็นสติกเกอร์ได้ด้วยนะ จะพิมพ์รูปธรรมดา หรือจะเล่นใหญ่พิมพ์รูป AR มีเสียง มีวิดีโอก็ยังได้! เหมาะกับทุกเทศกาล อยากแชร์รูปให้เพื่อนทันทีหลังถ่ายเสร็จก็จัดไป
- จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็ก พกพาง่าย, พิมพ์รูป AR ได้, ใช้เทคโนโลยี ZINK ไร้หมึก, เชื่อมต่อ Bluetooth หลายเครื่องพร้อมกันได้, กระดาษพิมพ์เป็นสติกเกอร์ได้
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์ภาพถ่ายด่วน: ใช้พิมพ์ภาพถ่ายจากมือถือได้ทันที สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอ เหมาะสำหรับนักเดินทาง หรือคนที่ชอบเก็บโมเมนต์ประทับใจแล้วอยากได้รูปออกมาเป็นแผ่นทันทีเพื่อแบ่งปันหรือนำไปตกแต่ง.
- ฟังก์ชัน AR Photo/Sound Photo: สามารถฝังวิดีโอสั้นๆ หรือเสียงลงในรูปภาพได้ พอสแกนรูปผ่านแอปฯ ก็จะเล่นวิดีโอหรือเสียงนั้นๆ ขึ้นมา เหมือนรูปมีชีวิต! สร้างความสนุกสนานและเซอร์ไพรส์ให้กับเพื่อนๆ หรือคนที่ได้รับรูปได้ดีเยี่ยม.
- พิมพ์ภาพแบบสติกเกอร์: กระดาษพิมพ์ของรุ่นนี้เป็นแบบมีกาวด้านหลัง ทำให้รูปที่พิมพ์ออกมาสามารถแกะแล้วแปะเป็นสติกเกอร์ได้เลย เหมาะกับการนำไปตกแต่งสมุดบันทึก ไดอารี่ หรือของใช้ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและสร้างสรรค์.
- เชื่อมต่อหลายเครื่องพร้อมกัน: รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้หลายเครื่องพร้อมกัน ทำให้สามารถแชร์เครื่องพิมพ์กับเพื่อนๆ ได้สะดวก เหมาะสำหรับเวลาไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมร่วมกันหลายคน อยากพิมพ์รูปจากหลายๆ เครื่องพร้อมกันก็ไม่มีปัญหา.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: วัยรุ่น, คนชอบถ่ายรูป, นักเดินทาง, คนชอบทำไดอารี่/สมุดสะสม, งานปาร์ตี้, เทศกาลต่างๆ
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษ | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก | ฟังก์ชันพิเศษ |
---|
Thermal (ZINK) | 313 x 400 dpi | 2x3 นิ้ว (50x76 มม.) | Bluetooth 5.0 BLE | 500 mAh | ประมาณ 181 กรัม | AR Photo, Sound Photo |
2. Canon Mini Photo Printer INSPiC [P] PV-123
- ชื่อแบรนด์: Canon
- ชื่อสินค้า: Mini Photo Printer INSPiC [P] PV-123
- ราคาสินค้า: ประมาณ 3,990 บาท
- คำอธิบายสินค้า: Canon ก็มาจ้า! รุ่น INSPiC [P] PV-123 เป็นเครื่องพิมพ์รูปพกพาขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวกสุดๆ ดีไซน์เก๋ มีหลายสีให้เลือก ใช้เทคโนโลยี ZINK เหมือนกัน ไม่ต้องเติมหมึก แค่มีกระดาษก็พิมพ์ได้เลย พิมพ์รูปได้รวดเร็วทันใจ แถมรูปที่ได้ยังเป็นสติกเกอร์ในตัวด้วยนะ ใช้งานง่ายผ่านแอป Canon Mini Print ที่มีฟังก์ชันตกแต่งรูปให้เล่นเพียบ เหมาะกับสายโซเชียลที่ชอบแชร์โมเมนต์แบบรูปจริง หรือจะทำของขวัญ DIY ก็เลิศ
- จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา, พิมพ์ด้วยเทคโนโลยี ZINK ไร้หมึก, พิมพ์รูปเป็นสติกเกอร์ได้, มีแอปฯ ตกแต่งรูปให้เลือกเยอะ, พิมพ์รูปได้รวดเร็ว
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์ภาพถ่ายจากมือถือ: เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth แล้วสั่งพิมพ์รูปภาพได้โดยตรง สะดวกมากๆ สำหรับการพิมพ์รูปถ่ายที่อยากเก็บเป็นที่ระลึกหรือแบ่งปันในทันที.
- พิมพ์ภาพแบบสติกเกอร์: กระดาษ ZINK ที่ใช้พิมพ์มีกาวในตัว สามารถแกะแล้วแปะเป็นสติกเกอร์ได้เลย เพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งข้าวของต่างๆ หรือสมุดบันทึกให้ไม่ซ้ำใคร.
- ตกแต่งรูปผ่านแอป Canon Mini Print: แอปพลิเคชันมีฟิลเตอร์ เฟรม และสติกเกอร์ต่างๆ ให้เลือกตกแต่งรูปภาพก่อนพิมพ์ ช่วยให้รูปที่พิมพ์ออกมามีความน่าสนใจและเป็นสไตล์ของตัวเองมากขึ้น.
- พิมพ์รูปจากโซเชียลมีเดีย: สามารถเชื่อมต่อแอปฯ เข้ากับบัญชีโซเชียลมีเดียของเราเพื่อดึงรูปมาพิมพ์ได้โดยตรง สะดวกสุดๆ สำหรับสายโซเชียลที่ชอบเก็บรูปจาก IG หรือ Facebook มาพิมพ์เป็นรูปจริง.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สายโซเชียล, คนชอบทำ DIY, นักเรียน, นักศึกษา, คนชอบตกแต่งสมุด/ของใช้, ของขวัญ
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษ | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|
Thermal (ZINK) | 314 x 400 dpi | 2x3 นิ้ว (50x76 มม.) | Bluetooth | 500 mAh | ประมาณ 160 กรัม | Canon Mini Print |
3. Fujifilm Instax Mini Link
- ชื่อแบรนด์: Fujifilm
- ชื่อสินค้า: Instax Mini Link Smartphone Printer
- ราคาสินค้า: ประมาณ 3,590 - 4,490 บาท
- คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงกล้องฟิล์ม หรือกล้องอินสแตนท์ ก็ต้องมี Fujifilm ใช่ไหมล่ะ เครื่องปริ้นพกพารุ่นนี้ก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน! ดีไซน์น่ารัก สีสันสดใส ใช้งานง่ายผ่านแอปฯ Instax Mini Link จุดเด่นคือพิมพ์รูปจากวิดีโอได้ และมีฟังก์ชันสนุกๆ อย่าง Match Test หรือ Party Print ที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับการรวมตัวกับเพื่อนๆ พิมพ์รูปออกมาเป็นกระดาษ Instax Mini ที่คุ้นเคย คุณภาพดี เก็บโมเมนต์น่ารักๆ ได้ทันที
- จุดเด่นสินค้า: พิมพ์รูปจากวิดีโอได้, มีฟังก์ชันสนุกๆ ในแอปฯ (Match Test, Party Print), พิมพ์ลงบนกระดาษ Instax Mini, ดีไซน์น่ารัก สีสันสดใส, เชื่อมต่อ Bluetooth ได้สูงสุด 5 เครื่อง
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์รูปจากวิดีโอ (Video Print): สามารถเลือกเฟรมที่ชอบจากวิดีโอในมือถือแล้วสั่งพิมพ์ออกมาเป็นรูปภาพได้เลย ฟังก์ชันนี้เจ๋งมากสำหรับคนที่ชอบถ่ายวิดีโอและอยากแคปโมเมนต์สวยๆ มาเก็บไว้เป็นรูปถ่าย.
- Match Test / Party Print: ฟังก์ชันสนุกๆ ในแอปฯ ที่ช่วยสร้างสีสันในงานปาร์ตี้ เช่น Match Test ทายใจว่าเรากับเพื่อนเข้ากันได้แค่ไหน หรือ Party Print ที่ให้หลายๆ คนส่งรูปมารวมกันแล้วพิมพ์เป็นภาพคอลลาจเดียว.
- พิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพ Instax: พิมพ์รูปออกมาบนกระดาษ Instax Mini Film ซึ่งให้สีสันและความรู้สึกแบบกล้อง Instax ภาพที่ได้มีเอกลักษณ์ เหมาะกับการเก็บเป็นความทรงจำหรือนำไปตกแต่ง.
- เชื่อมต่อและพิมพ์ได้หลายอุปกรณ์: สามารถเชื่อมต่อเครื่องพิมพ์กับสมาร์ทโฟนได้สูงสุด 5 เครื่องพร้อมกันผ่าน Bluetooth สะดวกสำหรับการใช้งานร่วมกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: วัยรุ่น, คนชอบกล้อง Instax, งานปาร์ตี้, รวมกลุ่มเพื่อน, นักเดินทาง, คนชอบเก็บความทรงจำแบบรูปถ่าย
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษ | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก | ฟังก์ชันพิเศษ |
---|
Exposure Technology | 800 x 600 dots | Instax Mini Film (62x46 มม.) | Bluetooth | Lithium Ion | ประมาณ 209 กรัม | Video Print, Match Test, Party Print |
4. Paperang P2
- ชื่อแบรนด์: Paperang
- ชื่อสินค้า: Paperang P2
- ราคาสินค้า: ประมาณ 1,250 - 1,690 บาท
- คำอธิบายสินค้า: Paperang นี่ก็เป็นอีกแบรนด์ที่มาแรงในกลุ่มเครื่องพิมพ์พกพาขนาดเล็ก โดยเฉพาะรุ่น P2 ที่อัปเกรดความละเอียดขึ้นเป็น 300 DPI ทำให้พิมพ์ได้คมชัดขึ้น ตัวเล็ก เบา ดีไซน์น่ารัก ใช้งานง่ายผ่านแอปฯ Paperang รองรับภาษาไทย ใช้เทคโนโลยี Thermal Printing ไม่ต้องใช้หมึก แค่มีกระดาษความร้อนก็พร้อมลุย เหมาะกับแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องพิมพ์ใบปะหน้า หรือคนที่ชอบพิมพ์ข้อความ รูปภาพขาวดำ สำหรับตกแต่งไดอารี่
- จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็ก พกพาง่าย, พิมพ์ด้วยความละเอียด 300 DPI, ใช้เทคโนโลยี Thermal Printing ไร้หมึก, ใช้งานผ่านแอป Paperang รองรับภาษาไทย, แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์ใบปะหน้า/ฉลากสินค้า: เหมาะมากๆ สำหรับแม่ค้าออนไลน์ สามารถเชื่อมต่อกับแอปฯ ขนส่งหรือพิมพ์ข้อมูลที่อยู่ลูกค้าออกมาเป็นฉลากแปะกล่องได้อย่างรวดเร็วและชัดเจน
- พิมพ์ข้อความ/รูปภาพขาวดำ: ใช้พิมพ์ข้อความสั้นๆ โน้ต หรือรูปภาพขาวดำเพื่อนำไปตกแต่งสมุดบันทึก ไดอารี่ หรือแพลนเนอร์ สร้างสรรค์ผลงาน DIY ได้หลากหลายสไตล์.
- พิมพ์ใบเสร็จ/คูปอง: สามารถใช้พิมพ์ใบเสร็จขนาดเล็ก หรือคูปองโปรโมชั่นต่างๆ ได้สะดวกสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่ต้องการเครื่องพิมพ์ใบเสร็จขนาดใหญ่ พกพาไปใช้งานตามตลาดนัดหรืองานอีเวนต์ได้สบาย.
- พิมพ์จากแอปฯ Paperang: ควบคุมการทำงานทั้งหมดผ่านแอปพลิเคชัน Paperang ซึ่งมีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น การปรับขนาดตัวอักษร เพิ่มรูปภาพ หรือเลือกเทมเพลตต่างๆ แอปฯ รองรับภาษาไทย ใช้งานง่าย.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: แม่ค้าออนไลน์, นักเรียน, นักศึกษา, คนชอบทำไดอารี่/แพลนเนอร์, ธุรกิจขนาดเล็ก, งานอีเวนต์
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษ | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|
Thermal | 300 DPI | 57x30 มม., 77x30 มม. | Bluetooth 4.0, USB | 1000 mAh | ประมาณ 180 กรัม | Paperang |
5. PeriPage A9
- ชื่อแบรนด์: PeriPage
- ชื่อสินค้า: PeriPage A9
- ราคาสินค้า: ประมาณ 1,160 - 2,269 บาท
- คำอธิบายสินค้า: PeriPage A9 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกยอดฮิตในกลุ่มเครื่องพิมพ์พกพาขนาดเล็ก จุดเด่นคือรองรับกระดาษได้หลายขนาด รวมถึงกระดาษสติกเกอร์แบบไดคัทได้ด้วย พิมพ์ด้วยระบบความร้อน ไม่ต้องใช้หมึก เชื่อมต่อง่ายทั้งกับมือถือและคอมพิวเตอร์ ใช้งานผ่านแอปฯ PeriPage ที่มีฟังก์ชันหลากหลาย เหมาะกับคนที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทั้งพิมพ์รูป พิมพ์ข้อความ พิมพ์ฉลาก หรือจะเอาไปใช้กับงานที่ต้องการกระดาษขนาดพิเศษหน่อยก็ทำได้
- จุดเด่นสินค้า: รองรับกระดาษหลายขนาด, พิมพ์สติกเกอร์ไดคัทได้, ใช้เทคโนโลยี Thermal Printing ไร้หมึก, เชื่อมต่อได้ทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์, ใช้งานง่ายผ่านแอปฯ
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์รูปภาพ/ข้อความ: สามารถพิมพ์รูปภาพขาวดำ กราฟ หรือข้อความต่างๆ ได้อย่างคมชัด เหมาะสำหรับนำไปตกแต่งสมุด DIY ทำโน้ตสรุป หรือพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการ.
- พิมพ์ฉลาก/สติกเกอร์: รองรับการพิมพ์บนกระดาษสติกเกอร์ได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงแบบไดคัท สะดวกสำหรับทำฉลากสินค้า ฉลากที่อยู่ หรือสติกเกอร์ตกแต่งต่างๆ.
- รองรับกระดาษหลายขนาด: สามารถใช้กับกระดาษความร้อนได้หลายขนาด เช่น 57x30 มม. หรือ 77x30 มม. ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานให้เหมาะกับงานพิมพ์แต่ละแบบ.
- เชื่อมต่อหลากหลายอุปกรณ์: เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน (iOS/Android) ผ่าน Bluetooth และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ (Windows/MacOS) ผ่าน USB ได้ ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักเรียน, นักศึกษา, แม่ค้าออนไลน์, คนชอบทำ DIY, งานอดิเรก, การพิมพ์ฉลากขนาดเล็ก
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษสูงสุด | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก | แอปพลิเคชัน |
---|
Thermal | 203 DPI | 77x30 มม. หรือ 107x30 มม. (รุ่น MAX) | Bluetooth, USB | 211 กรัม | ประมาณ 800 mAh (รุ่น A9) | PeriPage |
6. Brother PocketJet PJ-763MFi
- ชื่อแบรนด์: Brother
- ชื่อสินค้า: PocketJet PJ-763MFi
- ราคาสินค้า: ประมาณ 7,990 - 8,500 บาท (ไม่รวมแบตเตอรี่)
- คำอธิบายสินค้า: มาถึงฝั่งเครื่องพิมพ์เอกสารพกพาขนาด A4 กันบ้าง Brother PocketJet PJ-763MFi เป็นรุ่นที่เน้นความเป็นมืออาชีพ ขนาดกะทัดรัด พิมพ์เอกสารขนาด A4 ได้จริง คุณภาพคมชัด 300 DPI ใช้เทคโนโลยี Thermal ไม่ต้องใช้หมึก รุ่น MFi รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple (iPhone, iPad) ได้อย่างเสถียร เหมาะกับเซลล์ ฟรีแลนซ์ หรือคนที่ต้องเดินทางและจำเป็นต้องพิมพ์เอกสารด่วนนอกสถานที่ ราคาสูงหน่อย แต่คุ้มค่ากับคุณภาพและความสะดวกในการพิมพ์เอกสารเต็มรูปแบบ
- จุดเด่นสินค้า: พิมพ์เอกสารขนาด A4 ได้จริง, คุณภาพคมชัด 300 DPI, ใช้เทคโนโลยี Thermal ไร้หมึก, รองรับการเชื่อมต่อ MFi (สำหรับ Apple), ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารขนาด A4: สามารถพิมพ์เอกสารขนาดมาตรฐาน A4 ได้เต็มรูปแบบ เหมาะสำหรับพิมพ์สัญญา ใบเสนอราคา รายงาน หรือเอกสารสำคัญอื่นๆ ขณะอยู่นอกออฟฟิศ.
- พิมพ์ด้วยเทคโนโลยีความร้อน: ใช้กระดาษความร้อน ไม่ต้องใช้หมึกพิมพ์ ลดความยุ่งยากในการพกพาและเปลี่ยนตลับหมึก ทำให้สะดวกต่อการใช้งานนอกสถานที่.
- รองรับการเชื่อมต่อ MFi และ Bluetooth: รุ่น MFi ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานร่วมกับอุปกรณ์ iOS (iPhone, iPad) ได้อย่างราบรื่นผ่าน Bluetooth นอกจากนี้ยังรองรับ Bluetooth มาตรฐานสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วย.
- ความละเอียดในการพิมพ์ 300 DPI: ให้งานพิมพ์เอกสารที่มีความคมชัด อ่านง่าย เพียงพอสำหรับการพิมพ์ข้อความ กราฟ หรือรูปภาพประกอบในเอกสาร.
- แบตเตอรี่เสริมสำหรับการพกพา: แม้บางแพ็คเกจจะไม่ได้รวมแบตเตอรี่มาให้ แต่ก็มีแบตเตอรี่เสริมที่สามารถซื้อเพิ่มเพื่อใช้งานแบบไร้สายได้อย่างเต็มที่.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักธุรกิจ, เซลล์, ฟรีแลนซ์, วิศวกร, นักกฎหมาย, งานภาคสนาม, การเดินทางเพื่อธุรกิจ
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษสูงสุด | การเชื่อมต่อ | ความเร็วในการพิมพ์ | น้ำหนัก | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
Thermal | 300 DPI | A4 | Bluetooth (MFi), USB | ถึง 13.5 หน้า/นาที | ประมาณ 480 กรัม (ไม่รวมแบตฯ) | รองรับ MFi |
7. Canon PIXMA TR150
- ชื่อแบรนด์: Canon
- ชื่อสินค้า: PIXMA TR150
- ราคาสินค้า: ประมาณ 11,885 - 12,900 บาท (รวมแบตเตอรี่)
- คำอธิบายสินค้า: Canon PIXMA TR150 เป็นเครื่องพิมพ์พกพาขนาด A4 ที่ใช้ระบบอิงค์เจ็ท (ใช้หมึก) ทำให้พิมพ์งานสีได้ คุณภาพคมชัด ทั้งข้อความและรูปภาพ มีแบตเตอรี่ในตัว พิมพ์ได้แม้ไม่มีปลั๊ก เชื่อมต่อได้หลากหลาย ทั้ง Wi-Fi, Wi-Fi Direct, AirPrint เหมาะกับคนที่ต้องการพิมพ์เอกสารแบบเต็มรูปแบบ ทั้งสีและขาวดำ รวมถึงรูปถ่าย ด้วยคุณภาพที่ใกล้เคียงเครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะ แต่พกพาไปได้สะดวก
- จุดเด่นสินค้า: พิมพ์เอกสารขนาด A4 ได้ (อิงค์เจ็ท), พิมพ์สีได้ คุณภาพดี, มีแบตเตอรี่ในตัว, รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย (Wi-Fi, AirPrint), พกพาสะดวกสำหรับงานเอกสาร
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารสีและขาวดำขนาด A4: สามารถพิมพ์เอกสารได้ทั้งแบบสีและขาวดำบนกระดาษขนาด A4 เหมาะสำหรับพิมพ์รายงาน ใบเสนอราคา หรือเอกสารที่มีกราฟและรูปภาพสี.
- พิมพ์ภาพถ่ายคุณภาพสูง: ด้วยระบบอิงค์เจ็ท ทำให้สามารถพิมพ์ภาพถ่ายสีที่มีคุณภาพดีได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพิมพ์รูปถ่ายขนาดต่างๆ ด้วยเครื่องพิมพ์พกพา.
- การเชื่อมต่อแบบไร้สายหลากหลาย: รองรับ Wi-Fi, Wi-Fi Direct, AirPrint และ Mopria Print Service ช่วยให้สั่งพิมพ์จากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กได้อย่างสะดวก ไม่ต้องใช้สาย.
- มีแบตเตอรี่ในตัว: มาพร้อมแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ในตัว ทำให้สามารถใช้งานเครื่องพิมพ์ได้โดยไม่ต้องเสียบปลั๊กไฟตลอดเวลา เพิ่มความสะดวกในการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่.
- บันทึกเทมเพลตที่ใช้งานบ่อย: สามารถบันทึกรูปแบบเอกสารหรือเทมเพลตที่ใช้งานบ่อยไว้ในตัวเครื่องได้ ช่วยให้พิมพ์เอกสารเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วเพียงกดปุ่ม.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักธุรกิจ, เซลล์, ฟรีแลนซ์, นักเรียน, นักศึกษา, คนที่ต้องการพิมพ์เอกสารสีนอกสถานที่, การเดินทางเพื่อธุรกิจ
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษสูงสุด | การเชื่อมต่อ | ความเร็วในการพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | น้ำหนัก | แบตเตอรี่ |
---|
Inkjet | สูงสุด 4800 x 1200 dpi | A4 | Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB | 9.0 ipm / 5.5 ipm | ประมาณ 2.1 กก. (รวมแบตเตอรี่) | ในตัว (พิมพ์ได้ถึง 330 แผ่น) |
8. HP OfficeJet 200 Portable Printer
- ชื่อแบรนด์: HP
- ชื่อสินค้า: OfficeJet 200 Portable Printer
- ราคาสินค้า: ประมาณ 12,443 - 12,900 บาท
- คำอธิบายสินค้า: HP OfficeJet 200 เป็นเครื่องพิมพ์พกพาขนาด A4 ที่เน้นงานเอกสารเป็นหลัก ใช้ระบบอิงค์เจ็ท พิมพ์ได้ทั้งขาวดำและสี คุณภาพดี คมชัด มีแบตเตอรี่ในตัว พกพาไปใช้งานได้สะดวก รองรับการเชื่อมต่อไร้สายหลายรูปแบบ ทั้ง Wi-Fi, Wi-Fi Direct และ HP ePrint เหมาะกับนักธุรกิจ เซลล์ หรือคนที่ต้องทำงานนอกสถานที่และต้องการเครื่องพิมพ์เอกสารที่เชื่อถือได้ คุณภาพงานพิมพ์เทียบเท่าเครื่องตั้งโต๊ะ
- จุดเด่นสินค้า: พิมพ์เอกสารขนาด A4 (อิงค์เจ็ท), พิมพ์สีได้ คุณภาพคมชัด, มีแบตเตอรี่ในตัว, รองรับการเชื่อมต่อไร้สายหลากหลาย (Wi-Fi, HP ePrint), เหมาะกับงานเอกสารระดับมืออาชีพ
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารสีและขาวดำขนาด A4: สามารถพิมพ์เอกสารมาตรฐานขนาด A4 ได้ทั้งแบบสีและขาวดำ เหมาะสำหรับพิมพ์งานเอกสารทางธุรกิจ รายงาน หรือสไลด์นำเสนอ.
- คุณภาพการพิมพ์สูง: ให้งานพิมพ์ที่มีความละเอียดคมชัด ทั้งตัวอักษร กราฟ และรูปภาพสี คุณภาพเทียบเท่าเครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ.
- รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย: สามารถเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi, Wi-Fi Direct และใช้บริการ HP ePrint เพื่อพิมพ์จากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้สะดวก สั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่.
- มีแบตเตอรี่แบบชาร์จได้: มาพร้อมแบตเตอรี่ในตัว ทำให้สามารถพกพาเครื่องพิมพ์ไปใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องปลั๊กไฟ เหมาะสำหรับการทำงานหรือนำเสนอข่าวนอกสถานที่.
- หน้าจอแสดงผล: มีหน้าจอ MGD ขนาด 2.0 นิ้ว ช่วยให้ตั้งค่าและควบคุมการทำงานต่างๆ ของเครื่องพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักธุรกิจ, เซลล์, ผู้บริหาร, ฟรีแลนซ์, งานนำเสนอ, การประชุมนอกสถานที่, การทำงานภาคสนาม
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษสูงสุด | การเชื่อมต่อ | ความเร็วในการพิมพ์ (ขาวดำ/สี) | น้ำหนัก | แบตเตอรี่ |
---|
Inkjet | สูงสุด 4800 x 1200 dpi | A4 | Wi-Fi, Wi-Fi Direct, USB | 10 ppm / 7 ppm | ประมาณ 2.1 กก. | ในตัว |
9. Phomemo M08F
- ชื่อแบรนด์: Phomemo
- ชื่อสินค้า: Phomemo M08F Portable Printer A4
- ราคาสินค้า: ประมาณ 2,900 - 3,480 บาท
- คำอธิบายสินค้า: Phomemo M08F เป็นเครื่องพิมพ์พกพาขนาด A4 ที่ใช้เทคโนโลยี Thermal Printing ไม่ต้องใช้หมึก ตัวเครื่องบางเบา พกพาง่ายกว่าเครื่องพิมพ์ A4 ทั่วไปเยอะ เหมาะกับคนที่ต้องการพิมพ์เอกสารขนาดเต็มรูปแบบ แต่เน้นความสะดวกและไม่ต้องยุ่งยากเรื่องหมึก เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับมือถือ หรือ USB กับคอมพิวเตอร์ได้ คุณภาพการพิมพ์สำหรับเอกสารขาวดำถือว่าคมชัดดี เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับฟรีแลนซ์ นักเรียน หรือคนทำงานที่ต้องการพิมพ์เอกสาร A4 นอกสถานที่
- จุดเด่นสินค้า: พิมพ์เอกสารขนาด A4 (Thermal), ไม่ต้องใช้หมึก, ตัวเครื่องบางเบา พกพาง่าย, เชื่อมต่อ Bluetooth และ USB, เหมาะสำหรับพิมพ์เอกสารขาวดำ
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์เอกสารขนาด A4: สามารถพิมพ์เอกสารมาตรฐานขนาด A4 ได้โดยใช้กระดาษความร้อน เหมาะสำหรับพิมพ์งานเอกสาร ใบเสร็จ หรือข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการพิมพ์แบบเต็มหน้า.
- เทคโนโลยีการพิมพ์ไร้หมึก: ใช้หลักการพิมพ์ด้วยความร้อน ไม่ต้องใช้ตลับหมึกหรือโทนเนอร์ ช่วยลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากในการดูแลรักษา.
- พกพาสะดวก: ด้วยการออกแบบให้มีขนาดบางและน้ำหนักเบา ทำให้สามารถพกพาเครื่องพิมพ์นี้ไปในกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าเอกสารได้อย่างง่ายดาย.
- รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย: เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตผ่าน Bluetooth และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB ได้ ครอบคลุมการใช้งานทั้งแบบไร้สายและมีสาย.
- แบตเตอรี่ในตัว: มีแบตเตอรี่แบบชาร์จได้ในตัว ทำให้สามารถใช้งานเครื่องพิมพ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งจ่ายไฟภายนอก.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ฟรีแลนซ์, นักเรียน, นักศึกษา, คนทำงานนอกสถานที่, การประชุม, การนำเสนอ, การพิมพ์เอกสารเร่งด่วน
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ขนาดกระดาษสูงสุด | การเชื่อมต่อ | แบตเตอรี่ | น้ำหนัก | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
Thermal | 203 DPI | A4 (8.26"x11.69") | Bluetooth, USB | 1200 mAh | น้ำหนักเบา (เล็กกว่าเครื่องพิมพ์ทั่วไป 80%) | พิมพ์แบบไร้หมึก |
10. Brother PT-E110VP
- ชื่อแบรนด์: Brother
- ชื่อสินค้า: PT-E110VP Handheld Label Printer
- ราคาสินค้า: ประมาณ 1,500 - 2,000 บาท
- คำอธิบายสินค้า: ปิดท้ายด้วยเครื่องพิมพ์ฉลากพกพาจาก Brother รุ่น PT-E110VP แม้จะไม่ใช่เครื่องพิมพ์เอกสารหรือรูปภาพ แต่เป็นผู้ช่วยชั้นดีสำหรับคนที่ต้องพิมพ์ฉลากบ่อยๆ ตัวเครื่องมีคีย์บอร์ด QWERTY ในตัว ใช้งานง่าย พิมพ์ฉลากได้หลายขนาด หลากสี ใช้เทป TZe ของ Brother ซึ่งมีความทนทาน กันน้ำ กันแดดได้ดี เหมาะสำหรับช่างเทคนิค งานอุตสาหกรรม ร้านค้า หรือคนที่ต้องการจัดระเบียบสิ่งของด้วยฉลากที่ดูเป็นมืออาชีพ
- จุดเด่นสินค้า: เครื่องพิมพ์ฉลากแบบพกพา, มีคีย์บอร์ดในตัว ใช้งานง่าย, ใช้เทป TZe ทนทาน กันน้ำ, พิมพ์ฉลากได้หลายขนาด/สี, เหมาะสำหรับงานจัดระเบียบ
- ฟังก์ชันการใช้งาน:
- พิมพ์ฉลาก: สามารถพิมพ์ข้อความ สัญลักษณ์ ตัวเลข เพื่อทำเป็นฉลากได้หลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับติดบนสายไฟ ท่อ อุปกรณ์ เครื่องมือ หรือชั้นวางของ.
- มีคีย์บอร์ดในตัว: สะดวกในการพิมพ์ข้อความลงบนฉลากโดยตรง ไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือมือถือ พิมพ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ.
- ใช้เทป TZe ของ Brother: เทป TZe มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพอากาศ การขีดข่วน สารเคมี และน้ำ ทำให้ฉลากที่พิมพ์ออกมาติดแน่น ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน.
- พิมพ์ได้หลายขนาดและความกว้าง: รองรับการใช้เทป TZe หน้ากว้างหลายขนาด (เช่น 6, 9, 12 มม.) สามารถเลือกขนาดฉลากให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการติดได้.
- หน้าจอแสดงผล LCD: ช่วยให้มองเห็นข้อความและรูปแบบฉลากก่อนพิมพ์ ลดข้อผิดพลาดในการพิมพ์.
- กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ช่างเทคนิค, วิศวกร, ช่างไฟฟ้า, งานซ่อมบำรุง, ร้านค้า, ออฟฟิศ, บ้าน, งานจัดระเบียบ
เทคโนโลยีการพิมพ์ | ความละเอียด | ชนิดเทปที่รองรับ | ขนาดเทปสูงสุด | การเชื่อมต่อ | แหล่งพลังงาน | คุณสมบัติพิเศษ |
---|
Thermal Transfer | 180 DPI | TZe Tape | 12 มม. | ไม่มี (คีย์บอร์ดในตัว) | ถ่าน AA / อะแดปเตอร์ AC | คีย์บอร์ด QWERTY, หน้าจอ LCD |
วิธีเลือกซื้อเครื่องปริ้นพกพาคู่ใจ ฉบับตัวแม่!
- 1. รู้จักตัวเองก่อน ว่าจะใช้ปริ้นอะไรเป็นหลัก (ใช้เหมือนเลือกแฟน ต้องดูที่ไลฟ์สไตล์)
อันดับแรกเลยนะจ๊ะ ก่อนจะเสียตังค์เปย์เครื่องปริ้นพกพา ต้องถามใจตัวเองก่อนว่าเราจะเอาไปทำอะไรมากที่สุด? เหมือนจะเลือกแฟนนั่นแหละ ต้องดูว่าไลฟ์สไตล์เข้ากันได้ไหม ถ้าเป็นสายถ่ายรูป ชอบแชร์โมเมนต์ลงโซเชียล อยากได้รูปออกมาแปะสมุด แปะผนังห้อง แนะนำให้ไปทางเครื่องพิมพ์รูปพกพาไซส์เล็กๆ จิ๋วๆ อย่างพวก Xiaomi Mi Portable Photo Printer, Canon INSPiC หรือ Fujifilm Instax Mini Link พวกนี้เค้าเน้นพิมพ์รูปขนาดเล็ก สีสันสดใส แถมบางรุ่นกระดาษเป็นสติกเกอร์ได้ด้วยนะ พิมพ์ปุ๊บได้รูปปั๊บ ถูกใจวัยรุ่น วัยทำงาน หรือสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์สุดๆ แต่ถ้าชีวิตคุณมันหนักไปทางเอกสาร ต้องพกพางานไปพรีเซนต์ลูกค้า เซ็นสัญญา หรือต้องพิมพ์ใบส่งของ ใบเสร็จนอกสถานที่ เครื่องพิมพ์เอกสารพกพาขนาด A4 อย่าง Brother PocketJet หรือ Canon PIXMA TR150 จะตอบโจทย์กว่า พวกนี้จะพิมพ์ได้ขนาดมาตรฐาน A4 คุณภาพคมชัด เหมาะกับงานที่เป็นทางการ แต่ราคาก็จะสูงขึ้นมาหน่อยนะ หรือถ้าเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องพิมพ์ใบปะหน้าเยอะๆ หรือคนทำธุรกิจที่ต้องพิมพ์ฉลากติดสินค้า เครื่องพิมพ์ Thermal เล็กๆ อย่าง Paperang หรือ PeriPage จะเหมาะกว่า เพราะพิมพ์ได้รวดเร็ว ประหยัด ไม่ต้องใช้หมึก แต่ส่วนใหญ่จะพิมพ์ได้แค่ขาวดำนะจ๊ะ การรู้จักความต้องการของตัวเองอย่างแท้จริงจะช่วยให้เราเลือกประเภทเครื่องพิมพ์ได้ถูกตั้งแต่แรก ไม่เสียเงินฟรี และได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งานของเราจริงๆ จ้า เหมือนเลือกแฟนที่ใช่ ชีวิตก็แฮปปี้เนอะ!
- 2. คุณภาพงานพิมพ์และความละเอียด (ชัดไม่ชัด วัดกันตรงนี้แหละ!)
เรื่องคุณภาพงานพิมพ์นี่ก็สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นเลยนะจ๊ะ ยิ่งถ้าต้องพิมพ์รูป พิมพ์เอกสารสำคัญๆ ที่ต้องการความคมชัดสูงๆ ยิ่งต้องพิจารณาให้ดี คุณภาพงานพิมพ์ของเครื่องปริ้นพกพาจะบอกเป็นค่า DPI (Dots Per Inch) ตัวเลขยิ่งสูง ก็ยิ่งคมชัด ถ้าเน้นพิมพ์รูปถ่ายสวยๆ หรือภาพที่มีรายละเอียดเยอะๆ ควรเลือกเครื่องที่มีความละเอียดสูงๆ ไว้ก่อน อย่างน้อยก็ 300 DPI ขึ้นไป เพื่อให้รูปออกมาไม่แตก ไม่เบลอ สีสันสดใส อย่างพวกเครื่องพิมพ์รูป ZINK ส่วนใหญ่ก็จะมีความละเอียดประมาณ 300-400 DPI ซึ่งเพียงพอสำหรับการพิมพ์รูปขนาดเล็กแล้ว ส่วนเครื่องพิมพ์เอกสารขนาด A4 ถ้าเน้นพิมพ์ข้อความ รายงานทั่วๆ ไป ความละเอียด 200-300 DPI ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว แต่ถ้าต้องพิมพ์เอกสารที่มีกราฟ ตาราง หรือรูปภาพประกอบที่ต้องการความคมชัดมากๆ อาจจะต้องมองหารุ่นที่ความละเอียดสูงกว่านี้หน่อย หรือถ้าเป็นเครื่องพิมพ์ฉลาก ส่วนใหญ่ความละเอียดเริ่มต้นก็จะประมาณ 180 DPI ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการพิมพ์ตัวอักษรหรือบาร์โค้ดแล้ว นอกจากการดูค่า DPI แล้ว เทคโนโลยีการพิมพ์ก็มีผลนะจ๊ะ เครื่องพิมพ์แบบ Thermal (ใช้ความร้อน) ส่วนใหญ่จะพิมพ์ได้แค่ขาวดำ และอาจจะไม่เหมาะกับการพิมพ์รูปที่ต้องการไล่เฉดสีมากๆ แต่จะเด่นเรื่องความเร็วและความประหยัด ส่วนเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท (ใช้หมึก) จะพิมพ์สีได้ คุณภาพงานพิมพ์รูปภาพดีกว่า แต่ก็ต้องคอยเปลี่ยนตลับหมึกและมีค่าใช้จ่ายเรื่องหมึกเพิ่มขึ้นมานะ ฉะนั้น เลือกให้เหมาะกับประเภทงานพิมพ์ของเรานะจ๊ะ จะได้งานพิมพ์ที่ออกมาสวย คมชัด ไม่ผิดหวัง!
- 3. การเชื่อมต่อและแบตเตอรี่ (ไปไหนไปด้วย ช่องทางไหนดี แล้วแบตอึดไหม)
เครื่องปริ้นพกพามันก็ต้องพกไปใช้ข้างนอกใช่ไหมล่ะ เรื่องการเชื่อมต่อกับแบตเตอรี่นี่เลยเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เหมือนเวลาจะไปเที่ยว ก็ต้องดูว่าเดินทางสะดวกไหม แล้วแบตมือถือจะหมดกลางทางหรือเปล่า เครื่องพิมพ์พกพาส่วนใหญ่จะเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน Bluetooth ทำให้สั่งพิมพ์จากมือถือหรือแท็บเล็ตได้สะดวกสุดๆ บางรุ่นก็รองรับ Wi-Fi หรือ Wi-Fi Direct ด้วยนะ ยิ่งเชื่อมต่อได้หลายแบบ ยิ่งครอบคลุมการใช้งานมากขึ้น บางทีไปในที่ที่ไม่มีสัญญาณ Wi-Fi การเชื่อมต่อ Bluetooth ก็ยังช่วยชีวิตได้ ถ้าต้องใช้กับคอมพิวเตอร์ด้วย ก็ดูว่ามีพอร์ต USB ให้เชื่อมต่อไหม ส่วนเรื่องแบตเตอรี่นี่สำคัญสุดๆ เลยจ้า เพราะเครื่องพิมพ์พกพามันใช้แบตในตัวนี่แหละ ควรดูความจุของแบตเตอรี่ (เป็น mAh) และจำนวนหน้าที่พิมพ์ได้ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ถ้าต้องพกไปใช้นอกสถานที่บ่อยๆ หรือใช้งานต่อเนื่องนานๆ ควรเลือกรุ่นที่แบตเตอรี่อึดๆ พิมพ์ได้เยอะๆ หน่อย บางรุ่นอาจจะมีแบตเตอรี่เสริมให้ซื้อเพิ่มด้วยนะจ๊ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าแบตจะหมดกลางคัน นอกจากนี้ก็ดูเรื่องแหล่งชาร์จด้วยว่าเป็นแบบไหน ใช้สาย Micro-USB หรือ Type-C ทั่วไปหรือเปล่า จะได้หาง่ายๆ ถ้าลืมสายชาร์จนะจ๊ะ เลือกเครื่องที่เชื่อมต่อง่าย แบตอึดๆ จะได้พกไปลุยได้ทุกที่ ไม่มีสะดุด!
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับเครื่องปริ้นพกพา
- Q: เครื่องปริ้นพกพาแบบ Thermal กับ Inkjet ต่างกันยังไง?
A: เครื่องปริ้นพกพาแบบ Thermal ใช้ความร้อนในการพิมพ์ ไม่ต้องใช้หมึกพิมพ์ พิมพ์ได้เร็ว ส่วนใหญ่พิมพ์ได้แค่ขาวดำ เหมาะกับพิมพ์ใบเสร็จ ฉลาก หรือข้อความสั้นๆ ส่วนแบบ Inkjet ใช้ตลับหมึกพิมพ์ พิมพ์สีได้ คุณภาพงานพิมพ์รูปภาพดีกว่า เหมาะกับพิมพ์เอกสารสี หรือรูปถ่าย แต่ก็ต้องคอยเปลี่ยนตลับหมึกและมีค่าใช้จ่ายเรื่องหมึกนะจ๊ะ เลือกให้เหมาะกับประเภทงานที่ต้องการพิมพ์เลยจ้า
- Q: กระดาษที่ใช้กับเครื่องปริ้นพกพาหาซื้อยากไหม และมีแบบไหนบ้าง?
A: กระดาษสำหรับเครื่องปริ้นพกพาส่วนใหญ่หาซื้อได้ไม่ยากแล้วนะจ๊ะ มีขายตามร้านออนไลน์ทั่วไป ถ้าเป็นเครื่องพิมพ์ Thermal ก็ใช้กระดาษความร้อน มีทั้งแบบม้วนและแบบแผ่น บางรุ่นพิมพ์บนกระดาษสติกเกอร์ได้ด้วยนะ ถ้าเป็นเครื่องพิมพ์รูปพกพาแบบ ZINK ก็ใช้กระดาษ ZINK Photo Paper ซึ่งเป็นสติกเกอร์ในตัว ส่วนเครื่องพิมพ์ Inkjet พกพา ก็ใช้กระดาษโฟโต้หรือกระดาษธรรมดาขนาด A4 ได้เหมือนเครื่องพิมพ์ทั่วไป
- Q: แบตเตอรี่ของเครื่องปริ้นพกพาใช้งานได้นานแค่ไหน?
A: ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับรุ่นและความจุแบตเตอรี่นะจ๊ะ เครื่องพิมพ์รูปพกพาไซส์เล็กส่วนใหญ่จะพิมพ์ได้ประมาณ 20-30 แผ่นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ส่วนเครื่องพิมพ์เอกสาร A4 แบบ Thermal อาจจะพิมพ์ได้ถึง 100-120 แผ่น และแบบ Inkjet A4 อาจจะพิมพ์ได้หลายร้อยแผ่น แนะนำให้ดูข้อมูลในสเปคของแต่ละรุ่น หรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อประกอบการตัดสินใจนะจ๊ะ
- Q: เครื่องปริ้นพกพาสามารถพิมพ์จาก iPhone หรือ Android ได้ไหม?
A: เครื่องปริ้นพกพาส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาให้เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนอยู่แล้วจ้า รุ่นใหม่ๆ รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กับทั้งระบบ iOS (iPhone) และ Android ได้สบายๆ บางรุ่นยังรองรับ AirPrint สำหรับอุปกรณ์ Apple โดยเฉพาะด้วยนะ แค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเฉพาะของแบรนด์นั้นๆ มาติดตั้งบนมือถือ ก็สั่งพิมพ์ได้เลย สะดวกสุดๆ
วิดีโอที่เกี่ยวข้อง