10 Capture Card ตัวไหนดี ปี 2025 สตรีมคมชัด ไลฟ์ลื่นไหล คุณภาพโปร

user avatar
ZestOfficeSupplies·2025-05-28 16:26
点赞
10 Capture Card ตัวไหนดี ปี 2025 สตรีมคมชัด ไลฟ์ลื่นไหล คุณภาพโปร

สวัสดีจ้า! วันนี้มาเม้าท์มอยกันเรื่องอุปกรณ์คู่ใจสายสตรีมเมอร์ยุค 2025 กับหัวข้อเด็ดๆ ที่ว่าด้วย “10 Capture Card ตัวไหนดี ปี 2025 สตรีมคมชัด ไลฟ์ลื่นไหล คุณภาพโปร” บอกเลยว่ายุคนี้ใครๆ ก็อยากไลฟ์ อยากสตรีม ไม่ว่าจะเล่นเกม โชว์สกิล หรือจะไลฟ์ขายของให้ปังๆ การมีภาพที่คมชัด เสียงที่ซิงค์เป๊ะๆ มันสำคัญม้ากมาก! และหัวใจหลักของงานนี้ก็คือเจ้า Capture Card นี่แหละค่ะ หน้าที่ของมันง่ายๆ เลยคือแปลงสัญญาณภาพและเสียงจากอุปกรณ์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นเกมคอนโซล กล้องโปร หรือคอมพิวเตอร์อีกเครื่อง ให้มาเข้าคอมฯ หลักที่เราใช้ไลฟ์ได้แบบเนียนๆ ไม่กระตุก ไม่ดีเลย์ ให้คนดูหนีไปไหน วันนี้อีเว้นท์อัปเดตมาให้แล้วกับ 10 ตัวเด็ดที่น่าจับตาในปี 2025 พร้อมเคล็ดลับเลือกซื้อแบบไม่มีกั๊ก ตามสไตล์กูรูสายช้อปปิ้งออนไลน์ตัวจริง!

1. Elgato Game Capture HD60 X

  • ชื่อแบรนด์: Elgato
  • ชื่อสินค้า: Game Capture HD60 X
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 7,xxx - 9,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Elgato HD60 X คือ External Capture Card ยอดฮิต ที่นักสตรีมหลายคนไว้วางใจ ด้วยดีไซน์กะทัดรัด พกพาง่าย ติดตั้งง่ายแบบ Plug-and-play ไม่ต้องงมไดรเวอร์ให้ปวดหัว เหมาะกับทั้งสายคอนโซล (PS5, Xbox Series X/S, Switch) และ PC ที่อยากสตรีมภาพคุณภาพสูงถึง 1080p60 HDR10 หรือ 4K30 HDR10 ตัวนี้รองรับ VRR Passthrough สูงสุดถึง 4K60 HDR10 ทำให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด แม้จะส่งภาพเข้าคอมฯ ไปพร้อมกัน เหมาะกับมือใหม่ที่อยากได้ Capture Card คุณภาพดี ใช้งานง่าย และมือโปรที่ต้องการความเสถียรในการสตรีม
  • จุดเด่นสินค้า: ติดตั้งง่ายแบบ Plug-and-play, รองรับ VRR และ HDR Passthrough, ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก, คุณภาพวิดีโอคมชัด, ใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • บันทึกและสตรีมเกมคอนโซล: สามารถเชื่อมต่อกับ PS5, Xbox Series X/S, Nintendo Switch และบันทึกหรือสตรีมภาพเกมความละเอียดสูงไปยังคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
    • รองรับ Passthrough คุณภาพสูง: ส่งสัญญาณภาพไปยังจอเล่นเกมได้สูงสุดถึง 4K60 HDR10 พร้อมเทคโนโลยี VRR ช่วยให้ภาพไม่ฉีกขาด เล่นเกมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
    • ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ยอดนิยม: ทำงานร่วมกับ OBS Studio, Streamlabs, Elgato 4K Capture Utility และโปรแกรมอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น มีฟังก์ชัน Flashback Recording ย้อนบันทึกช็อตเด็ดได้
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักสตรีมเกมคอนโซลและ PC, ผู้เริ่มต้นใช้งาน Capture Card, ผู้ที่ต้องการอุปกรณ์พกพาสะดวก, ผู้ที่ต้องการภาพ Passthrough คุณภาพสูง
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRขนาด (กว้างxยาวxสูง)น้ำหนัก
USB 3.0 Type-CHDMI 2.04K60 HDR10, 1440p120, 1080p2404K30 HDR10, 1080p60 HDR10Passthrough & บันทึก (HDR10)Passthrough112 x 72 x 18 มม.91 กรัม

2. AVerMedia Live Gamer Ultra 2.1 (GC553G2)

  • ชื่อแบรนด์: AVerMedia
  • ชื่อสินค้า: Live Gamer Ultra 2.1 (GC553G2)
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 8,xxx - 10,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึง Capture Card ระดับโปรสำหรับเกมเมอร์ยุคใหม่ AVerMedia Live Gamer Ultra 2.1 คือตัวตึง! ด้วยพอร์ต HDMI 2.1 ทำให้รองรับ Passthrough ความละเอียดสูงลิ่วและเฟรมเรตจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น 4K144Hz, 4K120Hz หรือ 1440p240Hz เหมาะสุดๆ กับคนที่ใช้คอนโซล Next-Gen หรือ PC แรงๆ ต่อจอเทพๆ ตัวนี้เชื่อมต่อผ่าน USB 3.2 Gen 2 Type-C ให้แบนด์วิดท์สูงปรี๊ด การถ่ายโอนข้อมูลรวดเร็ว ดีเลย์น้อย ทำให้การสตรีมเกมแอคชั่นที่ต้องการความแม่นยำเป็นไปอย่างราบรื่น แถมยังรองรับ RGB lighting ปรับแต่งได้ตามใจสายแต่งคอมฯ อีกด้วย
  • จุดเด่นสินค้า: รองรับ HDMI 2.1 Passthrough สูงสุด 4K144Hz, เชื่อมต่อ USB 3.2 Gen 2 ความเร็วสูง, ดีเลย์ต่ำมาก, รองรับ RGB Lighting, คุณภาพการบันทึกสูง
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • Passthrough ความละเอียดและเฟรมเรตสูงพิเศษ: เพลิดเพลินกับการเล่นเกมบนจอความละเอียด 4K ที่เฟรมเรตสูงถึง 144Hz หรือ 120Hz ผ่าน HDMI 2.1 โดยไม่รู้สึกถึงความหน่วงจากการใช้งาน Capture Card
    • บันทึกวิดีโอคุณภาพสูงสุด: สามารถบันทึกวิดีโอเกมที่ความละเอียด 4K ที่ 144Hz (บน Windows) หรือ 4K ที่ 60Hz (บน macOS) พร้อมรองรับ HDR10 ให้ภาพสวยงามสมจริง
    • รองรับเสียงรอบทิศทาง 5.1: สามารถบันทึกเสียงเกมแบบ Multi-channel surround sound 5.1 ได้ มอบประสบการณ์เสียงที่สมบูรณ์แบบทั้งสำหรับผู้บันทึกและผู้ชม
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์ที่ใช้คอนโซล/PC ระดับ Hi-End, สตรีมเมอร์ที่ต้องการภาพ Passthrough และบันทึกคุณภาพสูงสุด, ผู้ที่ใช้จอเกมมิ่ง High Refresh Rate
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงรองรับ RGB
USB 3.2 Gen 2 Type-CHDMI 2.12160p144 HDR/VRR, 1440p240 HDR/VRR, 1080p360 HDR/VRR2160p144 (Windows), 2160p60 (macOS)Passthrough & บันทึก (HDR10)PassthroughHDMI (Multi-channel), 3.5mm (ผ่านอะแดปเตอร์)รองรับ

3. Elgato 4K Pro

  • ชื่อแบรนด์: Elgato
  • ชื่อสินค้า: 4K Pro
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 11,xxx - 14,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: สำหรับสายโปรที่ต้องการสุดยอดประสิทธิภาพ Elgato 4K Pro คือ Internal Capture Card แบบ PCIe ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้! มันสามารถบันทึกภาพได้ถึง 4K ที่ 60fps พร้อม HDR10 และที่น่าทึ่งคือรองรับ Passthrough ได้สูงสุดถึง 8K ที่ 60Hz หรือ 4K ที่ 240Hz เลยทีเดียว ด้วยการเชื่อมต่อแบบ PCIe Gen 2 x4 ทำให้มีแบนด์วิดท์สูงมาก ดีเลย์ต่ำสุดๆ เหมาะกับการสตรีมหรือบันทึกเกมที่ต้องการความแม่นยำเฟรมต่อเฟรม เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ Dual PC Setup หรือ Workstation ที่ต้องการคุณภาพและความเสถียรระดับสูงสุด
  • จุดเด่นสินค้า: Internal Card ประสิทธิภาพสูง, รองรับ Passthrough สูงสุด 8K60 / 4K240, บันทึก 4K60 HDR10 ได้, ดีเลย์ต่ำมาก, เหมาะกับ Dual PC Setup
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • บันทึกภาพระดับมืออาชีพ: บันทึกวิดีโอเกมที่ความละเอียดสูงถึง 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที พร้อม HDR10 เพื่อคุณภาพสูงสุดสำหรับวิดีโอคอนเทนต์
    • Passthrough สำหรับจอเทพ: ส่งสัญญาณภาพไปยังจอเล่นเกมได้สูงสุดถึง 8K ที่ 60Hz หรือ 4K ที่ 240Hz ผ่าน HDMI 2.1 เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลไร้ที่ติบนจอ High Refresh Rate
    • รองรับหลายแอปพร้อมกัน: สามารถส่งฟีดภาพจาก Capture Card ไปยังหลายๆ โปรแกรมพร้อมกันได้ เช่น สตรีมบน OBS และบันทึกไฟล์ดิบใน 4K Capture Utility ไปด้วย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สตรีมเมอร์/นักสร้างคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ, ผู้ใช้งาน Dual PC Setup, Workstation ที่ต้องการบันทึกภาพคุณภาพสูงสุด, ผู้ที่ต้องการดีเลย์ต่ำที่สุด
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงฟอร์มแฟคเตอร์
PCIe Gen 2 x4HDMI 2.18K60, 4K240, 4K144, 1440p240, 1080p360 (HDR/VRR)4K60, 1440p144, 1080p240 (HDR10)Passthrough & บันทึก (HDR10)PassthroughHDMIInternal (PCIe Card)

4. NZXT Signal 4K30

  • ชื่อแบรนด์: NZXT
  • ชื่อสินค้า: Signal 4K30
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 5,xxx - 7,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: NZXT Signal 4K30 เป็น External Capture Card ดีไซน์เรียบหรู ใช้งานง่าย สไตล์มินิมอล สามารถบันทึกภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 30fps พร้อม HDR และ Passthrough ได้ถึง 4K ที่ 60Hz พร้อม HDR เช่นกัน จุดเด่นคือความง่ายในการใช้งานแบบ Plug-and-play เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้น หรือต้องการ Capture Card ที่ไม่ซับซ้อน คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่าย แม้จะบันทึก 4K ได้ที่ 30fps ซึ่งอาจไม่เหมาะกับเกมที่ภาพเคลื่อนไหวเร็วมากๆ แต่ก็เพียงพอสำหรับการสตรีมคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ หรือบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงที่ไม่เน้นเฟรมเรตสูงลิ่ว
  • จุดเด่นสินค้า: ดีไซน์มินิมอลสวยงาม, ติดตั้งง่ายแบบ Plug-and-play, บันทึก 4K30 HDR ได้, Passthrough 4K60 HDR ได้, ราคาเป็นมิตร
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • บันทึกคอนเทนต์คุณภาพ 4K: สามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที พร้อมรองรับ HDR เพื่อความคมชัดและสีสันที่สวยงาม เหมาะกับคอนเทนต์ที่ไม่เน้นเฟรมเรตสูง เช่น การนำเสนอผลงาน หรือไลฟ์สไตล์
    • Passthrough เพื่อการเล่นเกมที่ไหลลื่น: ส่งสัญญาณภาพเกมออกไปยังจอแสดงผลได้สูงสุดถึง 4K ที่ 60Hz พร้อม HDR ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ยังคงคุณภาพสูง
    • ใช้งานง่ายด้วย USB-C: เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB 3.2 Gen 1 Type-C ทำให้ติดตั้งและใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องลงไดรเวอร์เพิ่มเติมบน Windows และ Mac
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นสตรีม/สร้างคอนเทนต์, ผู้ที่ต้องการ Capture Card 4K ในงบประมาณจำกัด, ผู้ที่เน้นความเรียบง่ายและดีไซน์สวยงาม, การสตรีมที่ไม่เน้นเฟรมเรตสูงมาก
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงขนาด (กว้างxยาวxสูง)
USB 3.2 Gen 1 Type-CHDMI 2.04K60 HDR, 1440p144Hz HDR, 1080p240Hz HDR4K30 HDRPassthrough & บันทึกไม่ระบุชัดเจนในแหล่งข้อมูลHDMIดีไซน์กะทัดรัด

5. AVerMedia Live Gamer 4K (GC573)

  • ชื่อแบรนด์: AVerMedia
  • ชื่อสินค้า: Live Gamer 4K (GC573)
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 8,xxx - 10,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: AVerMedia Live Gamer 4K (GC573) เป็น Internal Capture Card แบบ PCIe ที่ให้ประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า สามารถบันทึกภาพได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60fps พร้อม HDR และ Passthrough ได้ถึง 4K ที่ 60fps พร้อม HDR เช่นกัน การเชื่อมต่อแบบ PCIe ทำให้ได้ความเสถียรและดีเลย์ที่ต่ำ เหมาะสำหรับเกมเมอร์และสตรีมเมอร์ที่จริงจังกับการถ่ายทอดสด ต้องการคุณภาพระดับ 4K และมีคอมพิวเตอร์แบบ Desktop ที่มีสล็อต PCIe ว่างอยู่ เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ Internal Card ประสิทธิภาพดีในงบประมาณที่สมเหตุสมผล
  • จุดเด่นสินค้า: Internal Card ประสิทธิภาพดีในราคาสมเหตุสมผล, บันทึก 4K60 HDR ได้, Passthrough 4K60 HDR ได้, ดีเลย์ต่ำ, มีไฟ RGB ในตัว
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • บันทึกและสตรีม 4K คุณภาพสูง: สามารถบันทึกวิดีโอเกมที่ความละเอียด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมรองรับ HDR เพื่อคุณภาพสูงสุดในการสตรีมและทำคอนเทนต์
    • Passthrough ไหลลื่น 4K60: ส่งสัญญาณภาพเกมไปยังจอเล่นเกมได้ที่ความละเอียด 4K ที่ 60Hz พร้อม HDR มั่นใจได้ถึงประสบการณ์การเล่นเกมที่ยังคงความคมชัดและลื่นไหล
    • ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ RECentral: รองรับการใช้งานเต็มรูปแบบกับซอฟต์แวร์ RECentral ของ AVerMedia ซึ่งมีฟังก์ชันการบันทึกและสตรีมที่หลากหลาย รวมถึงการบันทึก HDR และสตรีมไปยังหลายแพลตฟอร์ม
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: เกมเมอร์/สตรีมเมอร์ที่ต้องการคุณภาพ 4K60, ผู้ที่ต้องการ Capture Card แบบ Internal ในราคาที่คุ้มค่า, ผู้ที่มีคอมพิวเตอร์ Desktop และสล็อต PCIe ว่าง
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงฟอร์มแฟคเตอร์
PCIe Gen 2 x4HDMI 2.02160p60 HDR, 1440p144, 1080p2402160p60 HDR, 1440p60, 1080p120, 1080p60 HDRPassthrough & บันทึก (HDR)ไม่ระบุชัดเจนในแหล่งข้อมูลHDMIInternal (PCIe Card)

6. Elgato Game Capture HD60 S+

  • ชื่อแบรนด์: Elgato
  • ชื่อสินค้า: Game Capture HD60 S+
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 6,xxx - 8,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Elgato HD60 S+ เป็นอีกหนึ่ง External Capture Card ยอดนิยมจาก Elgato ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและสตรีมเมอร์ทั่วไปที่เน้นความเสถียรและใช้งานง่าย สามารถบันทึกภาพได้ที่ 1080p60 HDR10 และรองรับ Passthrough แบบ Zero-Lag ที่ 4K60 HDR10 จุดเด่นคือความเข้ากันได้ดีกับคอนโซลต่างๆ และการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ Elgato ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีฟังก์ชัน Instant Gameview ที่ช่วยลดดีเลย์ในการแสดงผลบนหน้าจอคอมฯ และ Flashback Recording สำหรับย้อนบันทึกช็อตประทับใจ แม้จะบันทึกได้สูงสุดที่ 1080p60 แต่ก็เพียงพอสำหรับการสตรีมบนแพลตฟอร์มส่วนใหญ่แล้ว
  • จุดเด่นสินค้า: ติดตั้งง่าย, รองรับ Passthrough 4K60 HDR10 แบบ Zero-Lag, Instant Gameview ดีเลย์ต่ำ, Flashback Recording, เข้ากันได้ดีกับคอนโซล
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • สตรีมและบันทึก Full HD: สามารถสตรีมและบันทึกวิดีโอเกมที่ความละเอียด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที พร้อมรองรับ HDR10 ให้ภาพที่คมชัดและสีสันสดใสสำหรับการทำคอนเทนต์
    • Passthrough คุณภาพสูง: ส่งสัญญาณภาพเกมไปยังจอเล่นเกมได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60Hz พร้อม HDR10 โดยไม่มีความหน่วง ให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่ถูกลดทอน
    • ใช้งานง่ายร่วมกับซอฟต์แวร์ Elgato: ทำงานร่วมกับ Elgato 4K Capture Utility ได้อย่างลงตัว มีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น Instant Gameview และ Flashback Recording ช่วยให้การสตรีมง่ายขึ้น
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นสตรีมเมอร์, สตรีมเมอร์คอนโซลและ PC ที่ต้องการความละเอียด 1080p60 ที่เสถียร, ผู้ที่ต้องการ Passthrough 4K60 ที่ไม่มีดีเลย์, ผู้ที่ชอบระบบนิเวศของ Elgato
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงคุณสมบัติเด่น
USB 3.0 Type-CHDMI 2.04K60 HDR10 (Zero-Lag)1080p60 HDR10Passthrough & บันทึก (HDR10)ไม่ระบุชัดเจนในแหล่งข้อมูลHDMIInstant Gameview, Flashback Recording

7. AVerMedia Live Gamer MINI (GC311)

  • ชื่อแบรนด์: AVerMedia
  • ชื่อสินค้า: Live Gamer MINI (GC311)
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 2,xxx - 3,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: AVerMedia Live Gamer MINI เป็น External Capture Card ที่เน้นความกะทัดรัด พกพาสะดวก และราคาเข้าถึงง่าย เหมาะสุดๆ สำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากลองสตรีมเกมคอนโซลหรือ PC แบบ Full HD 1080p ที่ 60fps ตัวนี้ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-play ผ่าน USB 2.0 ไม่ต้องลงไดรเวอร์ (บนบางระบบ) และรองรับ Passthrough ที่ 1080p60 แม้จะไม่ได้มีฟังก์ชันหรูหราเท่ารุ่นพี่ แต่ให้คุณภาพการสตรีม 1080p60 ที่ไว้ใจได้ เหมาะกับคนที่งบน้อย หรืออยากได้ Capture Card ตัวสำรองสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่
  • จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก, ราคาประหยัด, ติดตั้งง่ายแบบ Plug-and-play, สตรีมและบันทึก 1080p60 ได้
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • สตรีมและบันทึก Full HD 60fps: สามารถบันทึกและสตรีมวิดีโอเกมที่ความละเอียด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งเป็นมาตรฐานคุณภาพที่ดีสำหรับการสตรีมบนแพลตฟอร์มทั่วไป
    • Passthrough Full HD: ส่งสัญญาณภาพเกมออกไปยังจอแสดงผลได้ที่ความละเอียด 1080p ที่ 60Hz ทำให้ยังคงเล่นเกมได้อย่างราบรื่นบนจอ Full HD
    • ใช้งานง่ายด้วย USB 2.0: เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB 2.0 ติดตั้งและใช้งานได้สะดวก ไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อาจไม่คุ้นเคยกับการตั้งค่าอุปกรณ์
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นสตรีมเมอร์ งบประมาณจำกัด, สตรีมเมอร์ที่ต้องการ Capture Card สำหรับพกพา, การสตรีมที่เน้นความละเอียด 1080p60, นักเรียน/นักศึกษาที่อยากลองสตรีม
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงขนาด (กว้างxยาวxสูง)
USB 2.0 (Micro)HDMI1080p601080p60ไม่รองรับไม่รองรับHDMI100 x 57 x 18.8 มม.

8. Razer Ripsaw X

  • ชื่อแบรนด์: Razer
  • ชื่อสินค้า: Ripsaw X
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 4,xxx - 6,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Razer Ripsaw X เป็น External Capture Card ขนาดเล็กกะทัดรัดจากแบรนด์เกมมิ่งเกียร์ยอดนิยม ดีไซน์สวยงามสไตล์ Razer รองรับการบันทึกภาพสูงสุด 4K ที่ 30fps และ Passthrough ได้ถึง 4K ที่ 60fps จุดเด่นคือความง่ายในการใช้งานแบบ Plug-and-play ผ่าน USB 3.0 เหมาะกับการเชื่อมต่อกับกล้อง Mirrorless/DSLR เพื่อใช้เป็น Webcam คุณภาพสูงสำหรับการสตรีม หรือจะใช้กับเกมคอนโซล/PC ก็ได้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยู่ใน Ecosystem ของ Razer หรือมองหา Capture Card คุณภาพดี ขนาดเล็ก พกพาสะดวก
  • จุดเด่นสินค้า: ขนาดเล็ก พกพาสะดวก, ดีไซน์สวยงามสไตล์ Razer, บันทึก 4K30 ได้, Passthrough 4K60 ได้, Plug-and-play
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • แปลงกล้องเป็น Webcam คุณภาพสูง: เชื่อมต่อกล้อง Mirrorless หรือ DSLR เข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็น Webcam ในการสตรีม ให้ภาพที่คมชัดและสวยงามกว่า Webcam ทั่วไป
    • บันทึกและสตรีมคอนเทนต์ 4K30: สามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที เหมาะกับการทำคอนเทนต์ที่ไม่เน้นเฟรมเรตสูงมาก เช่น วล็อก หรือการนำเสนอ
    • ใช้งานง่ายกับโปรแกรมสตรีมมิ่ง: ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์สตรีมมิ่งยอดนิยม เช่น OBS Studio และ Streamlabs ได้เป็นอย่างดี ติดตั้งและตั้งค่าได้ง่าย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: สตรีมเมอร์ที่ใช้กล้องโปรเป็น Webcam, ผู้ที่ต้องการ Capture Card ขนาดเล็ก พกพาง่าย, ผู้ที่อยู่ใน Ecosystem ของ Razer, การทำคอนเทนต์ที่ไม่เน้นเกมมิ่งเฟรมเรตสูง
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงขนาด
USB 3.0 Type-AHDMI 2.04K604K30ไม่ระบุชัดเจนในแหล่งข้อมูลไม่ระบุชัดเจนในแหล่งข้อมูลHDMIขนาดเล็กกะทัดรัด

9. AVerMedia Live Gamer Portable 2 Plus (GC513)

  • ชื่อแบรนด์: AVerMedia
  • ชื่อสินค้า: Live Gamer Portable 2 Plus (GC513)
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 5,xxx - 7,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: AVerMedia Live Gamer Portable 2 Plus เป็น External Capture Card ที่มีความสามารถพิเศษคือ "Standalone Mode" หรือโหมดที่ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการบันทึก! สามารถบันทึกวิดีโอเกม 1080p60 ลง MicroSD Card ได้โดยตรง เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่อยากบันทึกเกมเวลาไปเที่ยว หรือไปบ้านเพื่อน โดยไม่ต้องแบกคอมฯ ไปด้วย นอกจากนี้ก็ยังเป็น Capture Card แบบปกติที่ต่อเข้าคอมฯ ผ่าน USB เพื่อสตรีมได้ด้วย รองรับ Passthrough ที่ 1080p60 มีช่องต่อ Headset และ Microphone แยกสำหรับการอัดเสียงบรรยายลงในวิดีโอโดยตรง เป็นตัวเลือกที่ครบเครื่องสำหรับคนที่ต้องการทั้งความสามารถในการบันทึกแบบพกพาและการสตรีมผ่านคอมฯ
  • จุดเด่นสินค้า: มี Standalone Mode บันทึกลง MicroSD Card ได้โดยตรง, พกพาสะดวก, บันทึกและสตรีม 1080p60 ได้, มีช่องต่อ Headset/Mic, ใช้งานได้ 2 โหมด (Standalone/PC)
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • บันทึกแบบไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์: ด้วย Standalone Mode สามารถบันทึกวิดีโอเกมที่ความละเอียด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ลงบน MicroSD Card ได้ทันที เพียงเสียบแหล่งสัญญาณ HDMI และกดปุ่มบันทึก
    • สตรีมผ่านคอมพิวเตอร์: เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB และใช้งานเป็น External Capture Card ทั่วไปเพื่อสตรีมเกมหรือคอนเทนต์ไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ความละเอียด 1080p60
    • บันทึกเสียงบรรยายแยก: มีช่องต่อ Headset และ Microphone แบบ 3.5 มม. แยกต่างหาก ช่วยให้สามารถอัดเสียงบรรยายหรือเสียงพูดคุยลงในวิดีโอที่บันทึกได้โดยตรง สะดวกสำหรับการทำ Let's Play หรือวิดีโอรีวิวเกม
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: นักสร้างคอนเทนต์ที่ต้องการบันทึกเกมขณะเดินทาง, ผู้ที่ต้องการ Capture Card ที่ใช้งานได้ทั้งแบบมีคอมฯ และไม่มีคอมฯ, สตรีมเมอร์ที่ต้องการบันทึกเสียงบรรยายแยก, ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRโหมดที่เก็บข้อมูลอินพุต/เอาต์พุตเสียง
USB 2.0 (Micro)HDMI1080p601080p60ไม่รองรับPC Mode, Standalone ModeMicroSD Card (สำหรับ Standalone)HDMI, Headset (3.5mm), Mic (3.5mm)

10. Elgato Game Capture Neo

  • ชื่อแบรนด์: Elgato
  • ชื่อสินค้า: Game Capture Neo
  • ราคาสินค้า: ประมาณ 4,xxx - 5,xxx บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Elgato Game Capture Neo เป็น External Capture Card น้องใหม่จาก Elgato ที่เน้นความเรียบง่าย ใช้งานง่าย ในราคาที่เป็นมิตร เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่ต้องการ Capture Card คุณภาพดีจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ สำหรับการสตรีมหรือบันทึกเกมแบบ Full HD 1080p ที่ 60fps ตัวนี้รองรับ Passthrough สูงสุดถึง 4K ที่ 60Hz พร้อม HDR ทำให้ยังคงเล่นเกมบนจอ 4K ได้โดยภาพไม่ดรอป แม้จะบันทึกได้สูงสุดที่ 1080p60 เท่านั้น แต่ด้วยราคาและชื่อชั้นของ Elgato ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆ สำหรับคนที่อยากได้ Capture Card ตัวแรก หรือต้องการอัปเกรดจาก Capture Card ราคาถูกที่ไม่มีแบรนด์
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาเข้าถึงง่าย, ใช้งานง่ายแบบ Plug-and-play, รองรับ Passthrough 4K60 HDR, คุณภาพเชื่อถือได้ตามมาตรฐาน Elgato, ขนาดเล็กกะทัดรัด
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • สตรีมและบันทึก Full HD 60fps: สามารถบันทึกและสตรีมวิดีโอเกมที่ความละเอียด 1080p ที่ 60 เฟรมต่อวินาที มอบความคมชัดและลื่นไหลที่เพียงพอสำหรับการสตรีมบนแพลตฟอร์มส่วนใหญ่
    • Passthrough 4K60 HDR: ส่งสัญญาณภาพเกมไปยังจอเล่นเกมได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K ที่ 60Hz พร้อมรองรับ HDR ทำให้เพลิดเพลินกับภาพคุณภาพสูงขณะเล่นเกมได้เต็มที่
    • ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์หลัก: เข้ากันได้กับซอฟต์แวร์สตรีมมิ่งยอดนิยมอย่าง OBS Studio, Streamlabs และ Elgato 4K Capture Utility ช่วยให้ตั้งค่าและเริ่มสตรีมได้อย่างรวดเร็ว
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้เริ่มต้นสตรีมเมอร์, ผู้ที่ต้องการ Capture Card คุณภาพดีในงบประมาณจำกัด, สตรีมเมอร์คอนโซล/PC ที่เน้นความละเอียด 1080p60, ผู้ที่ต้องการอัปเกรดจาก Capture Card ไม่มีแบรนด์
อินเทอร์เฟซอินพุตวิดีโอเอาต์พุต Passthrough สูงสุดความละเอียดสูงสุดในการบันทึกรองรับ HDRรองรับ VRRอินพุต/เอาต์พุตเสียงขนาด (กว้างxยาวxสูง)
USB-C 3.0HDMI (unencrypted)4K60 HDR1080p60Passthroughไม่ระบุชัดเจนในแหล่งข้อมูลHDMI123 x 65 x 20 มม.

คำแนะนำการเลือกซื้อ Capture Card

  • 1. รู้จักความต้องการของตัวเอง: อันดับแรก ต้องถามตัวเองก่อนเลยว่าจะเอา Capture Card ไปทำอะไร?
    ใช้สตรีมเกมคอนโซลอย่าง PS5 หรือ Xbox Series X/S เป็นหลักมั้ย? หรือเน้นสตรีมเกม PC จากคอมฯ อีกเครื่อง? หรือจะใช้กับกล้อง DSLR/Mirrorless เพื่อเป็น Webcam คุณภาพเทพ? ความละเอียดที่อยากสตรีม/บันทึกคือเท่าไหร่? 1080p@60fps ก็พอแล้ว หรือว่าอยากได้ 4K@60fps ไปเลย? จอที่เราใช้เล่นเกมรองรับเฟรมเรตสูงๆ แบบ 120Hz หรือ 240Hz ไหม? งบประมาณในกระเป๋ามีเท่าไหร่? การตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยจำกัดวงตัวเลือกให้แคบลงเยอะเลยค่ะ
    ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าเป็นเกมเมอร์คอนโซลยุคใหม่ ใช้ PS5 หรือ Xbox Series X/S ต่อจอ 4K ที่รองรับ 120Hz แล้วอยากเล่นเกมแบบเฟรมเรตสูงๆ ไปด้วยขณะสตรีม ก็ต้องมองหา Capture Card ที่รองรับ 4K Passthrough ที่ 120Hz หรือสูงกว่า และรองรับ VRR ด้วย เพื่อประสบการณ์เล่นเกมที่ไม่ถูกลดทอน ส่วนความละเอียดในการบันทึก/สตรีม ก็ขึ้นอยู่กับว่าแพลตฟอร์มที่จะไปลงอย่าง YouTube หรือ Twitch เรารองรับความละเอียดสูงสุดเท่าไหร่ และคนดูส่วนใหญ่ดูด้วยอุปกรณ์อะไร ถ้าเน้นผู้ชมทั่วไป 1080p60 ก็เพียงพอและกินทรัพยากรน้อยกว่า 4K เยอะเลยค่ะ
    แต่ถ้าเน้นคุณภาพสูงสุด อยากทำคอนเทนต์ 4K ลง YouTube เพื่อให้คนดูได้ภาพที่คมชัดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ก็ต้องขยับไปมอง Capture Card ที่บันทึก 4K60 ได้ ซึ่งมักจะเป็นรุ่นใหญ่ ราคาสูงขึ้นมาหน่อย หรือถ้าอยากใช้กล้องโปรเป็น Webcam แค่ Capture Card ที่รองรับ 4K30 หรือ 1080p60 ก็เพียงพอแล้วค่ะ การประเมินความต้องการของตัวเองอย่างละเอียด จะช่วยให้เราเลือก Capture Card ที่เหมาะสมกับการใช้งาน ไม่ต้องจ่ายแพงเกินจำเป็น หรือได้ของที่ไม่ตรงกับความต้องการค่ะ จำไว้ว่าไม่มี Capture Card ตัวไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน มีแต่ตัวที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณเท่านั้นเอง!
  • 2. External หรือ Internal ดีล่ะ? เลือกแบบไหนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์?
    Capture Card หลักๆ มีอยู่ 2 แบบ คือ External (ภายนอก) กับ Internal (ภายใน) ค่ะ แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของเรานะ
    แบบ External จะเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB (ส่วนใหญ่จะเป็น USB 3.0 ขึ้นไป หรือ USB-C) จุดเด่นคือติดตั้งง่ายม้ากมาก แค่เสียบสายก็พร้อมใช้งาน ไม่ต้องเปิดเคสคอมฯ ให้วุ่นวาย แถมยังพกพาสะดวกสุดๆ อยากย้ายไปสตรีมบ้านเพื่อน หรือไปงาน Event นอกสถานที่ ก็แค่ถอดแล้วเอาไปเสียบกับคอมฯ เครื่องอื่นได้เลย เหมาะกับคนที่ใช้ Laptop ในการสตรีม หรือคนที่อยากได้ความยืดหยุ่นในการใช้งาน แต่ข้อเสียคือบางรุ่นอาจจะมีดีเลย์มากกว่าแบบ Internal เล็กน้อย (แต่รุ่นใหม่ๆ ดีขึ้นเยอะแล้ว) และอาจจะต้องใช้พอร์ต USB ที่มีแบนด์วิดท์สูงๆ ถ้าต้องการความละเอียด/เฟรมเรตสูงๆ ค่ะ นอกจากนี้ External Card บางรุ่นอาจจะมีราคาเริ่มต้นที่ถูกกว่า แต่ถ้ารุ่น Hi-End ที่สเปคโหดๆ ก็อาจจะพอๆ กับ Internal หรือแพงกว่าก็มีค่ะ
    ส่วนแบบ Internal จะเป็นแผ่นการ์ดที่ต้องนำไปเสียบเข้ากับสล็อต PCIe บนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ Desktop จุดเด่นคือดีเลย์ต่ำม้ากมาก เพราะส่งข้อมูลตรงเข้าเมนบอร์ดเลย ความเสถียรสูงปรี๊ด เหมาะกับคนที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดในการสตรีมเกมที่ต้องการความแม่นยำสูง และบางรุ่น Hi-End ก็รองรับความละเอียดและเฟรมเรตที่สูงกว่า External Card ในบางกรณี แต่ข้อเสียคือติดตั้งยากกว่า ต้องเปิดเคสคอมฯ และต้องมีสล็อต PCIe ว่าง ไม่เหมาะกับคนที่ใช้ Laptop และไม่สามารถถอดไปใช้กับคอมฯ เครื่องอื่นได้ง่ายๆ เท่าแบบ External ค่ะ
    สรุปง่ายๆ ถ้าเน้นความสะดวก พกพาไปไหนมาไหนบ่อยๆ หรือใช้ Laptop เลือก External เลยค่ะ แต่ถ้าเน้นประสิทธิภาพสูงสุด ดีเลย์ต่ำสุด ใช้กับคอมฯ Desktop เครื่องเดิมตลอด และไม่กลัวการเปิดเคสคอมฯ Internal คือคำตอบค่ะ
  • 3. เช็กสเปกให้ชัวร์ก่อนจ่ายเงิน: สเปกคือหัวใจสำคัญ!
    เวลาเลือก Capture Card นอกจากจะดูว่าเป็น External หรือ Internal แล้ว สเปกรายละเอียดอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ ต้องเช็กให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ของที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
    อย่างแรกเลยคือความละเอียดและเฟรมเรตในการบันทึก/สตรีม Capture Card แต่ละรุ่นรองรับความละเอียดและเฟรมเรตสูงสุดไม่เท่ากัน บางรุ่นอาจจะบันทึกได้แค่ 1080p60 แต่ Passthrough ได้ 4K60 บางรุ่นบันทึกได้ถึง 4K60 หรือ 4K144 เลยก็มี ต้องดูว่าเราต้องการคุณภาพไฟล์วิดีโอหรือภาพสตรีมที่ระดับไหน และคอมพิวเตอร์ของเรา รวมถึงแพลตฟอร์มที่เราจะสตรีม รองรับความละเอียด/เฟรมเรตนั้นๆ หรือไม่ การบันทึก 4K ไฟล์จะใหญ่มาก ใช้พื้นที่เยอะ และกินทรัพยากรคอมฯ ในการประมวลผลมากกว่า 1080p ค่ะ
    ต่อมาคือความสามารถในการ Passthrough คือการส่งสัญญาณภาพจากแหล่งต้นทาง (เช่น คอนโซล) ไปยังจอที่เราใช้เล่นเกมโดยตรง ตรงนี้สำคัญมากๆ สำหรับเกมเมอร์ เพราะถ้า Passthrough ได้ไม่ดี ภาพดีเลย์ หรือไม่รองรับความละเอียด/เฟรมเรตที่จอเราทำได้ ประสบการณ์การเล่นเกมจะแย่ลงทันที Capture Card ที่ดีควรมี Passthrough ที่ดีเลย์ต่ำ (เรียกว่า Zero-Lag Passthrough ยิ่งดี) และรองรับความละเอียด/เฟรมเรตสูงสุดเท่าที่จอเราทำได้ หรือสูงกว่า เพื่อที่เราจะได้เล่นเกมที่คุณภาพสูงสุดไปพร้อมๆ กับการสตรีมค่ะ รุ่นใหม่ๆ จะรองรับ Passthrough ที่ความละเอียดสูงและเฟรมเรตสูงมากๆ รวมถึงรองรับ HDR และ VRR ด้วย ซึ่งช่วยให้ภาพสวยงามและไม่ฉีกขาดขณะเล่นเกม
    อย่าลืมดูเรื่องอินเทอร์เฟซการเชื่อมต่อด้วย ถ้าเป็น External Card ส่วนใหญ่จะใช้ USB แต่ก็มีหลายเวอร์ชัน ทั้ง USB 3.0, USB 3.1, USB 3.2 Gen 1/Gen 2 หรือแม้กระทั่ง Thunderbolt ยิ่งเลขเยอะ ยิ่ง Gen สูง ยิ่งความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลสูง ดีเลย์ก็จะยิ่งต่ำลง ต้องเช็กว่าคอมฯ ของเรามีพอร์ตที่รองรับไหม และความเร็วพอสำหรับความละเอียด/เฟรมเรตที่เราต้องการหรือไม่ ถ้าเป็น Internal Card ก็ต้องดูว่าเป็น PCIe x1 หรือ x4 และมีสล็อตบนเมนบอร์ดว่างพอให้เสียบหรือเปล่าค่ะ
    นอกจากนี้ก็มีฟังก์ชันอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น การรองรับ HDR (High Dynamic Range) ทำให้ภาพมีสีสันและความเปรียบต่างที่สมจริงมากขึ้น, การรองรับ VRR (Variable Refresh Rate) ช่วยลดปัญหาภาพฉีกขาดสำหรับจอที่รองรับ, มีช่องต่อ Audio Input/Output แยกต่างหากสำหรับต่อ Headset หรือ Microphone , มีไฟ RGB เพิ่มความสวยงาม, รองรับการบันทึกลง SD Card ได้โดยตรง (Standalone Mode), หรือมี Software แถมมาให้ใช้ ลองพิจารณาฟังก์ชันเสริมเหล่านี้ว่าจำเป็นสำหรับเราไหมค่ะ

คำถามพบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ Capture Card

  • Q: ทำไมต้องใช้ Capture Card ในการสตรีมเกม/ไลฟ์สด? ใช้แค่โปรแกรมบนคอมฯ หรือฟังก์ชันที่มีในเครื่องเกมไม่ได้เหรอ?
    A: การใช้ Capture Card จะช่วยแบ่งเบาภาระการประมวลผลของเครื่องเกมคอนโซล หรือคอมพิวเตอร์เครื่องหลักที่เราใช้เล่นเกมค่ะ ปกติแล้วเครื่องเกมหรือคอมฯ ต้องทำงานหนักในการประมวลผลกราฟิกเกมอยู่แล้ว ถ้าต้องมา encode วิดีโอสำหรับสตรีมไปด้วย ประสิทธิภาพของเกมอาจจะตกลง ภาพกระตุก หรือดีเลย์ได้ Capture Card จะทำหน้าที่รับสัญญาณภาพและเสียงมา encode แทน แล้วส่งข้อมูลที่พร้อมสตรีมไปยังคอมฯ อีกเครื่อง (ในกรณี Dual PC Setup) หรือส่งไปยังคอมฯ เครื่องเดียวแต่ลดภาระ CPU/GPU ได้อย่างมาก ทำให้การสตรีมลื่นไหล ภาพคมชัด และประสบการณ์การเล่นเกมของเราไม่ถูกรบกวนค่ะ ส่วนฟังก์ชันสตรีมที่มีในเครื่องเกมคอนโซลบางรุ่น มักจะมีข้อจำกัดเรื่องคุณภาพ ความละเอียด หรือการปรับแต่ง ทำให้ไม่ยืดหยุ่นเท่าการใช้ Capture Card ค่ะ
  • Q: Capture Card แบบ Internal กับ External ต่างกันยังไง? ควรเลือกแบบไหนดี?
    A: Capture Card แบบ External จะเชื่อมต่อผ่าน USB (หรือ Thunderbolt) ติดตั้งง่าย พกพาสะดวก เหมาะกับคนที่ใช้ Laptop หรือต้องการย้ายไปใช้กับคอมฯ เครื่องอื่นบ่อยๆ ส่วนแบบ Internal จะเป็นแผ่นการ์ดเสียบในสล็อต PCIe บนเมนบอร์ดคอมพิวเตอร์ Desktop ให้ความเสถียรและดีเลย์ต่ำกว่า เหมาะกับคนที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุด และใช้คอมฯ เครื่องเดิมตลอด การเลือกขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ การใช้งาน และงบประมาณของคุณค่ะ ถ้าเน้นสะดวก พกพา External ใช่เลย ถ้าเน้นประสิทธิภาพสูงสุดบน Desktop เลือก Internal
  • Q: Capture Card ที่รองรับ 4K หมายความว่าฉันจะสตรีม 4K ได้เลยใช่ไหม?
    A: ไม่เสมอไปค่ะ Capture Card ที่รองรับ 4K อาจจะหมายถึงรองรับ Passthrough ที่ 4K (ส่งภาพ 4K ไปยังจอเล่นเกมได้) หรือรองรับการบันทึก/สตรีมที่ 4K ก็ได้ค่ะ นอกจากนี้ การสตรีม 4K ยังต้องอาศัยปัจจัยอื่นๆ อีกหลายอย่าง เช่น ความแรงของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ encode (CPU/GPU), ความเร็วอินเทอร์เน็ตในการอัปโหลดที่สูงมากพอ, และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งที่รองรับการสตรีม 4K ด้วย ดังนั้น ต้องตรวจสอบสเปกของ Capture Card ให้ละเอียดว่ารองรับทั้ง Passthrough และ Capture ที่ความละเอียด/เฟรมเรตที่เราต้องการหรือไม่ และต้องมั่นใจว่าอุปกรณ์อื่นๆ ของเราพร้อมสำหรับการสตรีม 4K ด้วยค่ะ
  • Q: ถ้าใช้ Capture Card แล้วภาพสตรีมจะดีเลย์ไหม? เสียงจะซิงค์กับภาพหรือเปล่า?
    A: Capture Card ที่ดีจะออกแบบมาให้มีดีเลย์ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะในส่วนของ Passthrough ที่ส่งภาพไปยังจอเล่นเกม Capture Card รุ่นใหม่ๆ มีเทคโนโลยี Instant Gameview หรือ Ultra-low Latency ที่ช่วยลดดีเลย์ตรงนี้ลงได้มาก จนแทบไม่รู้สึกขณะเล่นเกม ส่วนดีเลย์ของภาพสตรีมที่ปรากฏบนหน้าจอคนดู อาจจะยังมีอยู่บ้าง ซึ่งเป็นธรรมชาติของการสตรีมออนไลน์ แต่ Capture Card จะช่วยให้ภาพและเสียงที่เราส่งไปถึงโปรแกรมสตรีมมิ่ง (เช่น OBS) ซิงค์กันเป็นอย่างดีค่ะ ปัญหาภาพเหลื่อมกับเสียงมักจะเกิดจากการตั้งค่าในโปรแกรมสตรีมมิ่งมากกว่าตัว Capture Card เอง ซึ่งสามารถปรับแก้ได้ค่ะ
  • Q: Capture Card สามารถใช้กับกล้องถ่ายรูปเพื่อเป็น Webcam ได้ไหม?
    A: ได้แน่นอนค่ะ Capture Card หลายรุ่น โดยเฉพาะ External Capture Card ที่เชื่อมต่อผ่าน USB ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless หรือ DSLR ได้ เพียงแค่ต่อสาย HDMI ออกจากกล้องเข้าที่ Input ของ Capture Card แล้วต่อ Capture Card เข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่าน USB คอมฯ ก็จะมองเห็นกล้องของเราเป็น Webcam คุณภาพสูงได้ทันทีค่ะ ให้ภาพที่คมชัด สวยงาม และมี Bokeh หน้าชัดหลังเบลอได้ดีกว่า Webcam ทั่วไปมากๆ เป็นที่นิยมมากสำหรับสตรีมเมอร์ที่ต้องการภาพลักษณ์แบบมืออาชีพค่ะ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้เจ๊มาพร้อมไอเทมเด็ดที่บอกเลยว่าสายเดินทาง สายคาเฟ่ หรือใครที่ชอบทำงานนอกสถานที่ต้องเลิฟสิ่งนี้ นั่นก็คือ "คีย์บอร์ดพับได้" นั่นเองค่า! ปี 2025 นี้ บอกเลยว่าวงการคีย์บอร์ดพับได้เค้าพัฒนาไปไกลมาก ไม่ได้มีแค่พับได้แล้วจบน
10 อันดับ คีย์บอร์ดพับได้ ปี 2025 พกง่าย พิมพ์สะดวก คู่หูเดินทาง
สวัสดีค่าทุกคน! กลับมาอีกแล้วกับดิฉัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ตัวแม่แห่งประเทศไทย วันนี้จะมาเม้าท์มอยเรื่องที่กำลังฮิตติดลมบนสุดๆ ในวงการเกมเมอร์บ้านเรา นั่นก็คือ "จอคอมเกมมิ่ง" นั่นเองค่ะ! ปี 2025 แล้วนะ จะเล่นเกมทั้งที ภาพต้องสว
10 จอคอมเกมมิ่ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ภาพสวยลื่นไหล ตอบสนองไว ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม
สวัสดีค่าทุกคน! วันนี้เจ๊มาป้ายยาอีกแล้วจ้าาา ใครเป็นสายเสพเสียงเพลงแบบเข้าเส้น หรือเป็นเกมเมอร์ที่อยากได้ยินเสียงฝีเท้าศัตรูแบบชัดๆ เตรียมเงินในกระเป๋าไว้ให้พร้อม เพราะเจ๊จะพาไปรู้จักกับไอเทมลับที่จะอัปเกรดระบบเสียงของเราให้เทพขึ้นเป็นกอง
10 DAC ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อัปเกรดเสียงให้เทพ ฟังเพลงฟิน เล่นเกมมันส์
10 Capture Card ตัวไหนดี ปี 2025 สตรีมคมชัด ไลฟ์ลื่นไหล คุณภาพโปร - ZestBuy