10 หูฟัง Type C ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงใสคมชัด เชื่อมต่อง่าย

user avatar
ZestOfficeSupplies·2025-05-27 09:53
点赞
10 หูฟัง Type C ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงใสคมชัด เชื่อมต่อง่าย

สวัสดีค่าาา เหล่าเพื่อนนักช้อปและสายฟังเพลงทั้งหลายย! 👋 ยุคนี้อะไรๆ ก็ Type C ไปหมดแล้วเนอะ มือถือรุ่นใหม่ๆ นี่พร้อมใจกันตัดช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ทิ้งไปแบบไม่ใยดี ทำให้หูฟัง Type C กลายเป็นไอเทมสามัญประจำตัวที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือแม้แต่เม้าท์มอยกับเพื่อนฝูง ก็ต้องพึ่งพาเจ้าพอร์ตสารพัดประโยชน์นี่แหละ วันนี้เจ๊พร้อมมากที่จะมาเปิดลิสต์ 10 หูฟัง Type C ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ที่คัดมาแล้วว่าเสียงใสคมชัด เชื่อมต่อง่าย ใช้แล้วชีวิตดี๊ดี มีรุ่นไหนน่าโดนบ้าง ตามมาดูกันเลยจ้า!

1. Xiaomi Type-C Earphones

  • ชื่อแบรนด์: Xiaomi
  • ชื่อสินค้า: Type-C Earphones
  • ราคาสินค้า: 150 - 300 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: เริ่มต้นกันด้วยขวัญใจมหาชนอย่าง Xiaomi ที่ส่งหูฟัง Type C ราคาสบายกระเป๋ามาให้ได้ฟินกัน รุ่นนี้มาในดีไซน์เรียบง่าย สวมใส่สบายหูแบบ In-ear หรือ Earbud แล้วแต่รุ่นย่อย ให้เสียงที่คมชัด รายละเอียดครบถ้วนเกินราคามากๆ มีไมโครโฟนในตัวสำหรับการสนทนาที่ชัดเจน แถมบางรุ่นยังมีคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่นเบาๆ อีกด้วย เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่อยากได้หูฟังคู่ใจไว้ใช้กับมือถือ Xiaomi หรือ Android รุ่นอื่นๆ ในชีวิตประจำวันแบบคุ้มค่าสุดๆ
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาเข้าถึงง่าย, คุณภาพเสียงดีเกินราคา, มีไมโครโฟนชัดเจน, สวมใส่สบาย, บางรุ่นกันน้ำกันฝุ่น
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลงและดูหนัง: ให้เสียงสเตอริโอคมชัด พร้อมเบสกำลังดี ช่วยให้เพลิดเพลินกับความบันเทิงได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นระหว่างเดินทางหรือพักผ่อน
    • สนทนาทางโทรศัพท์: ไมโครโฟน HD พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนในบางรุ่น ช่วยให้ปลายสายได้ยินเสียงคุณชัดเจน แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
    • ควบคุมการเล่นเพลงและสายเรียกเข้า: มีปุ่มควบคุมบนสายหูฟัง ให้คุณปรับเพิ่ม-ลดเสียง, เล่น-หยุดเพลง, หรือรับ-วางสายได้อย่างสะดวกสบาย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Android/Xiaomi, นักเรียน นักศึกษา, คนทำงานทั่วไป, ใช้ในชีวิตประจำวัน, ฟังเพลง, ดูหนัง, คุยโทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อขนาดไดรเวอร์ไมโครโฟนปุ่มควบคุมความยาวสายการกันน้ำ/ฝุ่น
In-ear / EarbudType-C12.4 มม. (บางรุ่น)มีมี (บนสาย)1.2 เมตร (โดยประมาณ)IP54 (บางรุ่น)

2. Samsung EO-IG955 AKG Type-C

  • ชื่อแบรนด์: Samsung (ร่วมกับ AKG)
  • ชื่อสินค้า: EO-IG955 AKG Type-C
  • ราคาสินค้า: 150 - 500 บาท (ขึ้นอยู่กับแหล่งและโปรโมชั่น)
  • คำอธิบายสินค้า: สำหรับสาวก Samsung ที่มองหาหูฟังคู่บุญที่ออกแบบมาเพื่อกันและกัน ต้องนี่เลย Samsung EO-IG955 ที่จูนเสียงโดย AKG แบรนด์เครื่องเสียงระดับโลก ให้คุณภาพเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ มีความใส คมชัด และบาลานซ์ที่ดี สวมใส่แบบ In-ear ที่กระชับ ไม่หลุดง่าย มาพร้อมสายแบบถักที่ทนทาน ลดปัญหาสายพันกันได้ดีเยี่ยม มีรีโมทควบคุมพร้อมไมโครโฟนคุณภาพดีในตัว เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ Samsung Galaxy S/Note Series หรือรุ่นอื่นๆ ที่รองรับ Type C
  • จุดเด่นสินค้า: จูนเสียงโดย AKG, คุณภาพเสียงบาลานซ์ดี, สายถักทนทาน, มีไมโครโฟนและรีโมทครบครัน, เข้ากันได้ดีกับมือถือ Samsung
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลงคุณภาพสูง: มอบประสบการณ์เสียงระดับ AKG ที่เน้นความชัดเจนของรายละเอียดและมิติเสียง ทำให้ฟังเพลงได้หลากหลายแนวอย่างเพลิดเพลิน
    • ควบคุมเพลงและระดับเสียง: รีโมทบนสายช่วยให้คุณจัดการเพลงที่ฟัง ปรับเพิ่ม-ลดเสียงได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาบ่อยๆ
    • แฮนด์ฟรีสำหรับการโทร: ไมโครโฟนคุณภาพดีช่วยให้การสนทนาชัดเจน รองรับการใช้งานแบบแฮนด์ฟรีได้สะดวกสบาย เหมาะกับการใช้งานขณะเดินทางหรือทำกิจกรรมอื่นๆ
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ต Samsung ที่มีพอร์ต Type C, คนที่ชอบหูฟังเสียงบาลานซ์ดี, ใช้ในชีวิตประจำวัน, เดินทาง, โทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อการจูนเสียงไมโครโฟนปุ่มควบคุมวัสดุสายความยาวสาย
In-earType-CAKGมีมี (บนสาย)สายถัก (โดยประมาณ)1.2 เมตร (โดยประมาณ)

3. JBL TUNE 310C USB-C

  • ชื่อแบรนด์: JBL
  • ชื่อสินค้า: TUNE 310C USB-C
  • ราคาสินค้า: 990 - 1,200 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้าพูดถึงเรื่องเบสแน่นๆ เสียงกระหึ่มๆ ก็ต้องยกให้ JBL เลยจ้า รุ่น TUNE 310C USB-C นี้จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี JBL Pure Bass Sound ให้เสียงเบสที่หนักแน่นถึงใจ แถมยังรองรับ Hi-Res Audio ด้วยนะ! ดีไซน์แบบ In-ear น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย มาพร้อมสายแบนที่ช่วยลดปัญหาสายพันกัน มีรีโมท 3 ปุ่ม พร้อมไมโครโฟนในตัว รุ่นนี้เหมาะกับสายฟังเพลงที่ชอบเบสเป็นพิเศษ และต้องการคุณภาพเสียงที่ดีในระดับหนึ่ง บอกเลยว่าคุ้มค่าตัวสุดๆ
  • จุดเด่นสินค้า: JBL Pure Bass Sound, รองรับ Hi-Res Audio, เสียงเบสหนักแน่น, สายแบนไม่พันกัน, มีไมโครโฟนและรีโมท
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ดื่มด่ำกับเสียงเพลงคุณภาพ: เทคโนโลยี Pure Bass และ Hi-Res Audio ช่วยยกระดับประสบการณ์การฟังเพลงให้เต็มอิ่มทุกรายละเอียด โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะและเบสหนักๆ
    • ควบคุมการเล่นเพลงและรับสาย: รีโมท 3 ปุ่ม ใช้งานง่าย ควบคุมการเล่นเพลง ปรับระดับเสียง หรือรับสาย/วางสายได้อย่างรวดเร็ว สะดวกสบายขณะเดินทาง
    • สนทนาชัดเจน: ไมโครโฟนในตัวช่วยให้คุณคุยโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลได้อย่างราบรื่น เสียงชัดเจน ทำให้การสื่อสารไม่สะดุด
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบฟังเพลงแนวเน้นเบส, ผู้ที่ต้องการหูฟังที่รองรับ Hi-Res Audio, ใช้ฟังเพลง, ดูหนัง, เดินทาง, คุยโทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อขนาดไดรเวอร์การรับรองเสียงไมโครโฟนปุ่มควบคุมลักษณะสาย
In-earType-C9 มม.Hi-Res Audio, JBL Pure Bassมี3 ปุ่ม (บนสาย)สายแบน

4. Baseus Encok C17 Type-C

  • ชื่อแบรนด์: Baseus
  • ชื่อสินค้า: Encok C17 Type-C
  • ราคาสินค้า: 150 - 300 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Baseus เป็นอีกแบรนด์ยอดนิยมในไทยเรื่องอุปกรณ์เสริมมือถือ รุ่น Encok C17 เป็นหูฟัง Type C ทรง Earbuds ที่หลายคนชอบเพราะใส่สบาย ไม่เจ็บหู แม้จะใส่นานๆ ให้คุณภาพเสียงที่ดีในระดับเริ่มต้นถึงกลาง เสียงใสชัดเจน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป มีไมโครโฟนและรีโมทควบคุมบนสายครบครัน วัสดุสายมีความทนทานพอสมควร เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากๆ สำหรับคนที่มองหาหูฟัง Earbuds Type C ราคาเป็นมิตร ใช้ได้ทั้งฟังเพลง ดูหนัง และคุยโทรศัพท์
  • จุดเด่นสินค้า: ทรง Earbuds ใส่สบาย, ราคาเป็นมิตร, เสียงใสชัดเจน, มีไมโครโฟนและรีโมท, เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลงสบายๆ: ด้วยดีไซน์แบบ Earbuds ทำให้ใส่ฟังเพลงได้นานโดยไม่รู้สึกอึดอัด เหมาะสำหรับฟังเพลงแนวสบายๆ หรือ Podcast
    • ดูซีรีส์/วิดีโอ: ให้เสียงพูดที่ชัดเจน ทำให้ติดตามเนื้อหาของซีรีส์หรือวิดีโอต่างๆ ได้อย่างเข้าใจ ไม่พลาดทุกบทสนทนา
    • แฮนด์ฟรีคอล: มีไมโครโฟนและปุ่มรับสาย/วางสายบนสาย ช่วยให้คุณรับโทรศัพท์ได้อย่างสะดวก ไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมารับสาย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบหูฟังทรง Earbuds, ผู้ที่มองหาหูฟัง Type C ราคาประหยัด, ใช้ในชีวิตประจำวัน, ฟังเพลงทั่วไป, ดูวิดีโอ, คุยโทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อรูปทรงไมโครโฟนปุ่มควบคุมความยาวสายเหมาะกับ
EarbudsType-CEarbudsมีมี (บนสาย)1.2 เมตร (โดยประมาณ)ใช้งานทั่วไป

5. HOCO M101 Pro Type-C

  • ชื่อแบรนด์: HOCO
  • ชื่อสินค้า: M101 Pro Type-C
  • ราคาสินค้า: 80 - 200 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: ถ้าเน้นความคุ้มค่าแบบสุดๆ HOCO M101 Pro เป็นอีกรุ่นที่น่าจับตา ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายมากๆ แต่ให้คุณภาพเสียงที่ไม่ธรรมดาสำหรับเรทราคานี้ เป็นหูฟังแบบ In-ear ที่ออกแบบมาให้เข้ากับช่องหู สวมใส่ได้สบาย ให้เสียงสเตอริโอที่ดี มีเบสกำลังดี เหมาะกับการฟังเพลงทั่วไป มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุมบนสายครบครันสำหรับการใช้งานเป็นสมอลล์ทอล์ค รุ่นนี้เหมาะกับคนที่อยากได้หูฟัง Type C ไว้ใช้งานสำรอง หรือใช้งานทั่วไปแบบไม่เน้นฟังก์ชันหวือหวามากนัก
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก, คุณภาพเสียงดีเมื่อเทียบกับราคา, สวมใส่สบาย, มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุม
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลง: ให้เสียงสเตอริโอที่ใช้ได้สำหรับฟังเพลงในชีวิตประจำวัน ช่วยให้การเดินทางหรือทำกิจกรรมต่างๆ ไม่น่าเบื่อ
    • แฮนด์ฟรีคอล: มีไมโครโฟนและปุ่มรับสาย/วางสายในตัว ช่วยให้คุณคุยโทรศัพท์ได้สะดวก โดยไม่ต้องจับมือถือตลอดเวลา
    • ใช้งานพื้นฐาน: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น ฟังเสียงแจ้งเตือน, ดูวิดีโอสั้นๆ หรือใช้เป็นหูฟังสำรอง
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มองหาหูฟัง Type C ราคาถูกสุดๆ, ใช้งานสำรอง, ใช้ในชีวิตประจำวันแบบพื้นฐาน, ฟังเพลงทั่วไป, คุยโทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อรูปทรงไมโครโฟนปุ่มควบคุมความยาวสายราคา
In-earType-CIn-earมีมี (บนสาย)1.2 เมตร (โดยประมาณ)ราคาประหยัด

6. UGREEN 30638 Type-C

  • ชื่อแบรนด์: UGREEN
  • ชื่อสินค้า: 30638 Type-C
  • ราคาสินค้า: 400 - 600 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: UGREEN เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของอุปกรณ์เสริม และหูฟัง Type C รุ่น 30638 นี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง มาพร้อมดีไซน์ที่ดูทันสมัย วัสดุคุณภาพดี ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินคาดสำหรับราคานี้ เสียงคมชัด รายละเอียดครบถ้วน สวมใส่แบบ In-ear ที่กระชับพอดีหู ช่วยกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดี มีไมโครโฟนและรีโมทควบคุมมัลติฟังก์ชันบนสายที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหูฟัง Type C คุณภาพดีในราคาจับต้องได้ เน้นเสียงที่ชัดเจนและวัสดุที่ทนทาน
  • จุดเด่นสินค้า: คุณภาพเสียงดี, วัสดุคุณภาพดี, ดีไซน์ทันสมัย, สวมใส่กระชับ กันเสียงรบกวน, มีไมโครโฟนและรีโมทครบ
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลงรายละเอียดสูง: ให้เสียงที่คมชัด เก็บรายละเอียดเครื่องดนตรีได้ดี เหมาะสำหรับฟังเพลงที่เน้นคุณภาพเสียงและรายละเอียด
    • ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์หลากหลาย: รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ Type C หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต หรือโน้ตบุ๊กที่รองรับ
    • ควบคุมและสื่อสารสะดวก: รีโมทมัลติฟังก์ชันบนสายช่วยให้ควบคุมการเล่นเพลง ปรับเสียง หรือรับสายได้อย่างคล่องตัว และไมโครโฟนให้เสียงพูดที่ชัดเจน
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่ต้องการหูฟัง Type C คุณภาพเสียงดีปานกลาง, ใช้กับอุปกรณ์ Type C หลากหลาย, ฟังเพลง, ดูหนัง, ทำงาน, ประชุมออนไลน์ (เบื้องต้น)
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อขนาดไดรเวอร์ไมโครโฟนปุ่มควบคุมวัสดุสายความเข้ากันได้ดีไซน์
In-earType-C14.2 มม. (บางรุ่น)มีมี (บนสาย)TPE (โดยประมาณ)iOS/Android/อื่นๆ ที่รองรับทันสมัย

7. Remax RM-598a Type-C

  • ชื่อแบรนด์: Remax
  • ชื่อสินค้า: RM-598a Type-C
  • ราคาสินค้า: 250 - 500 บาท (โดยประมาณ)
  • คำอธิบายสินค้า: Remax เป็นอีกแบรนด์ที่คุ้นหูคนไทยในตลาดอุปกรณ์เสริม และรุ่น RM-598a ก็เป็นหูฟัง Type C แบบ In-ear ที่น่าสนใจ ให้เสียงที่ชัดเจนและมีเบสกำลังดี เหมาะกับการฟังเพลงทั่วไป ดีไซน์สวยงาม ขนาดเล็กกะทัดรัด สวมใส่ได้สบาย มาพร้อมไมโครโฟนและปุ่มควบคุมบนสายที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกทั้งฟังเพลงและคุยโทรศัพท์ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาหูฟัง Type C คุณภาพกลางๆ ในราคาที่ไม่แพงมาก และเน้นดีไซน์ที่สวยงาม
  • จุดเด่นสินค้า: เสียงชัด เบสกำลังดี, ดีไซน์สวยงาม, ขนาดกะทัดรัด, สวมใส่สบาย, มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุม
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลงหลากหลายแนว: ให้เสียงที่บาลานซ์ดี ฟังเพลงได้หลากหลายแนว ทั้ง Pop, Rock หรือ Electronic ที่ไม่เน้นเบสหนักจนเกินไป
    • ใช้งานง่าย: เพียงเสียบเข้ากับพอร์ต Type C บนอุปกรณ์ของคุณก็พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ต้องตั้งค่าอะไรยุ่งยาก
    • สื่อสารขณะเคลื่อนไหว: ไมโครโฟนในตัวช่วยให้คุณรับสายหรือโทรออกได้อย่างสะดวก แม้ในขณะที่คุณกำลังเดินทางหรือทำกิจกรรมอื่นอยู่
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานทั่วไป, คนที่ชอบหูฟังดีไซน์สวย, ใช้ฟังเพลงทั่วไป, ดูหนัง, คุยโทรศัพท์ในชีวิตประจำวัน
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อรูปทรงไมโครโฟนปุ่มควบคุมดีไซน์
In-earType-CIn-earมีมี (บนสาย)สวยงาม, กะทัดรัด

8. TECHPRO Headphone with Mic. Type-C

  • ชื่อแบรนด์: TECHPRO
  • ชื่อสินค้า: Headphone with Mic. Type-C
  • ราคาสินค้า: 200 - 400 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: TECHPRO เป็นอีกแบรนด์ที่นำเสนอหูฟัง Type C ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย รุ่นนี้เป็นแบบ Earbud หรือ Semi-In-ear ที่หลายคนชอบเพราะใส่สบาย ไม่รู้สึกอึดอัด ให้คุณภาพเสียงที่ชัดเจน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ทั้งฟังเพลง ดูหนัง และคุยโทรศัพท์ มาพร้อมไมโครโฟนและปุ่มควบคุมบนสายที่ใช้งานสะดวก วัสดุสายมีความทนทานพอสมควร เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่เน้นความคุ้มค่า และชอบหูฟังทรงที่ใส่สบาย ไม่เจ็บหู
  • จุดเด่นสินค้า: ทรง Earbud/Semi-In-ear ใส่สบาย, ราคาเป็นมิตร, เสียงชัดเจน, มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุม, วัสดุทนทานพอสมควร
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • สวมใส่สบาย ฟังได้นาน: ด้วยรูปทรงที่ออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของหู ทำให้สามารถใส่ฟังเพลง ดูหนัง หรือคุยโทรศัพท์ได้นานโดยไม่รู้สึกเมื่อยล้า
    • ใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์: รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต Type C ได้หลากหลาย ทั้งมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์
    • ควบคุมและสนทนา: มีปุ่มควบคุมบนสายสำหรับจัดการเพลงและระดับเสียง พร้อมไมโครโฟนในตัวที่ให้เสียงพูดที่ชัดเจนสำหรับการสื่อสาร
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: คนที่ชอบหูฟังทรง Earbud/Semi-In-ear, ผู้ที่มองหาหูฟัง Type C ราคาไม่แพง, ใช้ในชีวิตประจำวัน, ฟังเพลง, ดูหนัง, คุยโทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อรูปทรงไมโครโฟนปุ่มควบคุมความยาวสายความเข้ากันได้
Earbud / Semi-In-earType-CEarbud / Semi-In-earมีมี (บนสาย)1.2 เมตร (โดยประมาณ)อุปกรณ์ Type C ส่วนใหญ่

9. Commy ST300 Type-C

  • ชื่อแบรนด์: Commy
  • ชื่อสินค้า: ST300 Type-C
  • ราคาสินค้า: 150 - 300 บาท
  • คำอธิบายสินค้า: Commy เป็นแบรนด์ไทยที่ได้รับความนิยมในตลาดอุปกรณ์เสริม รุ่น ST300 เป็นหูฟัง Type C แบบมีสายที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานทั่วไป ให้เสียงที่ชัดเจนและมีเบสกำลังดี เหมาะสำหรับฟังเพลง ดูหนัง หรือใช้เป็นสมอลล์ทอล์ค ตัวหูฟังมีดีไซน์ที่เรียบง่าย สวมใส่ได้สบาย มาพร้อมไมโครโฟนและปุ่มควบคุมบนสาย เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มหูฟัง Type C ราคาประหยัด ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐานครบครัน
  • จุดเด่นสินค้า: แบรนด์ไทยที่คุ้นเคย, ราคาไม่แพง, เสียงชัด เบสกำลังดี, มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุม, ใช้งานง่าย
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลงและดูหนัง: ให้เสียงที่ใช้ได้สำหรับฟังเพลงโปรดหรือดูวิดีโอต่างๆ ในชีวิตประจำวัน
    • สมอลล์ทอล์ค: มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุมบนสาย ทำให้ใช้เป็นสมอลล์ทอล์คในการคุยโทรศัพท์หรือประชุมออนไลน์สั้นๆ ได้สะดวก
    • ใช้งานพื้นฐาน: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหูฟัง Type C สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไปในราคาที่เข้าถึงง่าย
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการหูฟัง Type C ราคาประหยัด, ใช้ในชีวิตประจำวัน, ฟังเพลง, ดูหนัง, คุยโทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อรูปทรงไมโครโฟนปุ่มควบคุมเหมาะกับ
มีสายType-CIn-ear / Earbud (โดยประมาณ)มีมี (บนสาย)ใช้งานทั่วไป

10. KIVEE Type C Earphones

  • ชื่อแบรนด์: KIVEE
  • ชื่อสินค้า: Type C Earphones (เช่น รุ่น i15/i16)
  • ราคาสินค้า: 50 - 200 บาท (โดยประมาณ)
  • คำอธิบายสินค้า: KIVEE เป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มหูฟังราคาประหยัด รุ่น Type C ของ KIVEE มักมาในดีไซน์แบบ In-ear หรือ Earbud ที่สวมใส่สบาย ให้คุณภาพเสียงที่ใช้ได้สำหรับราคาเบาๆ เน้นเสียงที่ชัดเจน มีไมโครโฟนในตัวสำหรับการโทรที่ชัดเจน และมีปุ่มควบคุมพื้นฐานบนสาย รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มองหาหูฟัง Type C ที่ราคาถูกสุดๆ เน้นฟังก์ชันการใช้งานพื้นฐาน และไม่ได้คาดหวังคุณภาพเสียงระดับสูงมากนัก
  • จุดเด่นสินค้า: ราคาถูกมาก, เสียงชัดเจน (สำหรับราคา), มีไมโครโฟนและปุ่มควบคุม, สวมใส่สบาย, เน้นฟังก์ชันพื้นฐาน
  • ฟังก์ชันการใช้งาน:
    • ฟังเพลง/วิดีโอราคาประหยัด: ให้คุณสามารถฟังเพลงหรือดูวิดีโอจากมือถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง เหมาะสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์สำรองหรือใช้งานชั่วคราว
    • ใช้เป็นสมอลล์ทอล์ค: มีไมโครโฟนในตัว ทำให้คุณสามารถรับสายโทรศัพท์หรือคุยไลน์คอลได้อย่างสะดวก
    • ใช้งานง่าย: เพียงเสียบเข้ากับพอร์ต Type C บนอุปกรณ์ที่รองรับก็สามารถใช้งานได้ทันที
  • กลุ่มผู้ใช้งาน/สถานการณ์: ผู้ที่มองหาหูฟัง Type C ที่ราคาถูกที่สุด, ใช้งานสำรอง, ใช้ในชีวิตประจำวันแบบพื้นฐาน, คุยโทรศัพท์
ประเภทหูฟังการเชื่อมต่อรูปทรงไมโครโฟนปุ่มควบคุมราคา
In-ear / Earbud (โดยประมาณ)Type-CIn-ear / Earbud (โดยประมาณ)มีมี (บนสาย)ราคาประหยัดสุดๆ

วิธีเลือกซื้อหูฟัง Type C ให้ได้ของดีโดนใจ

  • 1. พิจารณาคุณภาพเสียงให้ตรงใจ (อันนี้สำคัญสุด!)
    เรื่องเสียงนี่เป็นหัวใจหลักของหูฟังเลยนะจ๊ะ ก่อนจะควักเงินจ่าย ต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบเสียงแบบไหน? สายเบสหนักตึ้บๆ ฟังเพลงแดนซ์ EDM ก็ต้องมองหารุ่นที่เน้นเบสแรงๆ อย่างพวก JBL หรือถ้าชอบเสียงร้องชัดๆ รายละเอียดเครื่องดนตรีครบๆ ฟังเพลงแนว Pop, Acoustic หรือ Classical ก็ต้องดูที่ไดรเวอร์ (Driver) ที่มีขนาดใหญ่หน่อย หรือรองรับ Hi-Res Audio ได้ก็จะฟินเวอร์ บางแบรนด์อย่าง Samsung ก็จูนเสียงร่วมกับ AKG ทำให้ได้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์และมีความบาลานซ์ที่ดี อย่าลืมดูเรื่องการตอบสนองต่อย่านความถี่ด้วยนะ ยิ่งช่วงกว้างยิ่งเก็บรายละเอียดเสียงได้ดี ถ้าเป็นไปได้ ลองหาข้อมูลรีวิวจากผู้ใช้งานจริง หรือถ้ามีโอกาสได้ลองฟังเสียงก่อนซื้อก็จะดีที่สุด เพราะหูแต่ละคนไม่เหมือนกันเนอะ เลือกที่ฟังแล้วใช่ ฟังสบายหูตัวเองนั่นแหละเริ่ดสุด! การเลือกหูฟังที่ให้เสียงตรงกับแนวเพลงที่คุณชอบจะช่วยให้การฟังเพลงของคุณมีความสุขและได้อรรถรสมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องที่ชัดเจน เบสที่หนักแน่น หรือรายละเอียดเสียงเล็กๆ น้อยๆ ของเครื่องดนตรี ฟังแล้วต้องรู้สึก "ใช่" เลย ถึงจะเรียกว่าเจอคู่แท้!
  • 2. ดีไซน์และความสบายในการสวมใส่ (ใส่นานก็ไม่เมื่อย)
    หูฟัง Type C มีหลายรูปทรงให้เลือก ทั้งแบบ In-ear ที่เสียบเข้าไปในรูหู ซึ่งจะช่วยกันเสียงรบกวนภายนอกได้ดี เหมาะกับใช้ในที่ที่เสียงดังๆ อย่างบนรถไฟฟ้า หรือข้างนอกบ้าน แต่อาจจะต้องเลือกขนาดจุกหูฟังให้พอดีกับหูของเรา ไม่งั้นอาจจะรู้สึกอึดอัดหรือหลุดง่ายได้ บางรุ่นก็มีจุกยางมาให้หลายขนาดเลย อีกแบบคือทรง Earbuds หรือ Semi-In-ear ที่วางอยู่ตรงปากรูหู ไม่ได้เสียบเข้าไปลึกเท่า In-ear แบบนี้จะใส่สบายกว่า ไม่อึดอัดเท่า เหมาะกับใช้ในที่ที่ไม่ต้องกันเสียงมากนัก หรือคนที่ใส่ In-ear แล้วรู้สึกเจ็บ นอกจากรูปทรงแล้ว วัสดุของหูฟังและสายก็สำคัญนะ สายแบบแบนๆ อย่างของ JBL หรือ UGREEN จะช่วยลดปัญหาสายพันกันได้ดีกว่าสายกลมๆ ส่วนวัสดุตัวหูฟังก็ควรเลือกที่แข็งแรง ทนทาน น้ำหนักเบา ใส่แล้วไม่ถ่วงหู การเลือกหูฟังที่ใส่สบายจะทำให้คุณใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงระหว่างเดินทางนานๆ หรือใช้คุยโทรศัพท์เป็นเวลานานๆ ถ้าใส่แล้วเจ็บหรือหลุดง่ายก็จะเสียอารมณ์หมดเลย เพราะงั้นเรื่องความสบายในการสวมใส่ก็ห้ามมองข้ามเด็ดขาดจ้า
  • 3. ฟังก์ชันเสริมและการควบคุม (ครบครันคือดีย์)
    หูฟัง Type C สมัยนี้ไม่ได้มีแค่หน้าที่ปล่อยเสียงอย่างเดียวนะจ๊ะ หลายรุ่นมาพร้อมฟังก์ชันเสริมที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ เช่น ไมโครโฟนในตัวสำหรับใช้คุยโทรศัพท์ หรือวิดีโอคอล ซึ่งสำคัญมากๆ ในยุคที่ต้อง Work From Home หรือเรียนออนไลน์ ควรเลือกไมโครโฟนที่ให้เสียงชัดเจน ปลายสายได้ยินเสียงเราชัดๆ บางรุ่นมีระบบตัดเสียงรบกวนไมโครโฟนด้วยนะ อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือปุ่มควบคุมบนสายหูฟัง อย่างน้อยควรมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มสำหรับเล่น/หยุดเพลง หรือรับ/วางสาย บางรุ่นอาจจะมีปุ่มเรียกใช้งาน Voice Assistant ได้ด้วย สะดวกไปอีกขั้น สำหรับสายออกกำลังกาย อาจจะมองหารุ่นที่มีคุณสมบัติกันเหงื่อกันละอองน้ำได้ด้วยก็จะดีมาก ลองดูว่าฟังก์ชันเสริมเหล่านี้ตรงกับการใช้งานในชีวิตประจำวันของคุณมากแค่ไหน ยิ่งครบครันตรงตามต้องการ ชีวิตก็ยิ่งง่ายขึ้นเยอะเลยล่ะ! การมีปุ่มควบคุมที่ใช้งานสะดวกจะช่วยให้คุณจัดการเพลงหรือสายเรียกเข้าได้โดยไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมา ลดความเสี่ยงในการทำมือถือตก หรือเสียสมาธิขณะทำกิจกรรมอื่น และไมโครโฟนที่ดีก็ทำให้การสื่อสารราบรื่น ไม่มีปัญหาสัญญาณขาดหายหรือเสียงไม่ชัดเจน
  • 4. ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ของคุณ (เสียบแล้วใช้ได้เลยนะ!)
    แม้ว่าจะเป็นพอร์ต Type C เหมือนกัน แต่ใช่ว่าหูฟัง Type C ทุกรุ่นจะสามารถใช้กับอุปกรณ์ Type C ได้ทุกเครื่องนะจ๊ะ! บางทีมือถือบางรุ่นอาจจะต้องใช้หูฟัง Type C ที่มีชิป DAC (Digital-to-Analog Converter) ในตัว หรือบางเครื่องอาจจะไม่รองรับการส่งสัญญาณเสียงผ่านพอร์ต Type C เลยก็มี (น้อยมาก แต่ก็เป็นไปได้) ทางที่ดีคือเช็คข้อมูลจำเพาะของมือถือหรืออุปกรณ์ของคุณก่อนซื้อ ว่ารองรับการใช้งานหูฟัง Type C โดยตรงหรือไม่ หรือถ้าให้ชัวร์สุดๆ คือซื้อหูฟัง Type C ของแบรนด์เดียวกับมือถือของคุณ อย่าง Samsung กับหูฟัง Samsung AKG หรือ Apple EarPods USB-C สำหรับ iPhone/iPad จะมีความเข้ากันได้แน่นอน แต่ถ้าอยากใช้หูฟังข้ามแบรนด์ ควรลองหาข้อมูลรีวิวว่าหูฟังรุ่นนั้นๆ สามารถใช้กับมือถือรุ่นที่คุณใช้อยู่ได้หรือไม่ หรือถ้ามีโอกาสได้ลองเสียบกับเครื่องจริงดูก่อนซื้อก็จะดีมาก อย่าเพิ่งมั่นใจว่าหัวเหมือนกันจะใช้ด้วยกันได้เสมอไปนะจ๊ะ! การตรวจสอบความเข้ากันได้ล่วงหน้าจะช่วยประหยัดเวลาและ avoids ความหงุดหงิดจากการซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ ทำให้คุณได้หูฟังที่เสียบปุ๊บ ใช้ได้ปั๊บ ชีวิตราบรื่นไม่มีสะดุด
  • 5. ราคาและงบประมาณ (คุ้มค่าเงินในกระเป๋า)
    หูฟัง Type C มีให้เลือกหลากหลายราคามากๆ ตั้งแต่หลักร้อยต้นๆ ไปจนถึงหลักพัน ควรกำหนดงบประมาณคร่าวๆ ในใจก่อน แล้วค่อยมองหารุ่นที่อยู่ในงบของเรา หูฟังราคาถูกมากๆ อาจจะเหมาะกับการใช้งานพื้นฐาน หรือใช้เป็นหูฟังสำรอง ไม่ได้เน้นคุณภาพเสียงที่เลิศหรูมากนัก แต่ถ้าอยากได้เสียงที่ดีขึ้น มีฟังก์ชันเสริมครบครัน หรือวัสดุที่ทนทานขึ้น ก็อาจจะต้องขยับงบขึ้นมาอีกหน่อย ลองเปรียบเทียบสเปค ฟังก์ชัน และรีวิวจากผู้ใช้งานจริงในแต่ละช่วงราคา เพื่อหาตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับเงินที่คุณจ่ายไป อย่าลืมมองหาโปรโมชั่นเด็ดๆ ในช่วงเทศกาล หรือแคมเปญลดราคาต่างๆ ตามแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ใหญ่ๆ อย่าง Lazada หรือ Shopee ด้วยนะ บางทีอาจจะได้หูฟังดีๆ ในราคาที่ถูกลงกว่าเดิมอีกเยอะเลยล่ะ! การเลือกซื้อในช่วงที่มีโปรโมชั่นนอกจากจะช่วยประหยัดเงินแล้ว ยังเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ที่คนไทยเลิฟสุดๆ ด้วย เพราะฉะนั้น ช้อปปิ้งอย่างฉลาด วางแผนการใช้จ่าย แล้วคุณจะได้หูฟัง Type C ที่ทั้งดีและคุ้มค่าเงินในกระเป๋าแน่นอนจ้า

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับหูฟัง Type C

  • Q: ทำไมมือถือรุ่นใหม่ๆ ถึงไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. แล้วเปลี่ยนมาใช้ Type C แทนคะ?
    A: หลักๆ เลยก็เพื่อทำให้ตัวเครื่องบางลง กันน้ำกันฝุ่นได้ดีขึ้น และพอร์ต Type C เองก็มีความสามารถหลากหลายกว่า ทั้งชาร์จ ถ่ายโอนข้อมูล และส่งสัญญาณเสียงแบบดิจิทัลโดยตรง ซึ่งช่วยลดสัญญาณรบกวน ทำให้คุณภาพเสียงดีขึ้นได้ด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังเป็นการผลักดันให้เกิดการใช้หูฟังไร้สายมากขึ้นด้วยค่ะ
  • Q: หูฟัง Type C คุณภาพเสียงดีกว่าหูฟัง 3.5 มม. จริงไหมคะ?
    A: โดยทั่วไปแล้ว การส่งสัญญาณเสียงแบบดิจิทัลผ่าน Type C มีแนวโน้มที่จะให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าและลดการสูญเสียของสัญญาณได้มากกว่าแบบอนาล็อก 3.5 มม. ค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของชิป DAC ที่อยู่ในหูฟังหรือตัวแปลงสัญญาณด้วยนะคะ หูฟัง 3.5 มม. คุณภาพสูงบางรุ่นที่ใช้ร่วมกับ DAC/AMP ภายนอกก็ยังให้เสียงที่ดีมากๆ ได้ค่ะ
  • Q: สามารถใช้หูฟัง Type C กับมือถือที่มีทั้งพอร์ต Type C และช่อง 3.5 มม. ได้ไหมคะ?
    A: ส่วนใหญ่จะไม่สามารถใช้งานได้พร้อมกันค่ะ หากเครื่องของคุณมีทั้งสองพอร์ต การเสียบหูฟัง Type C อาจจะทำให้ระบบเสียงเปลี่ยนไปใช้พอร์ต Type C หรือบางทีก็ใช้งานไม่ได้เลย ควรเช็คสเปคของมือถือแต่ละรุ่นก่อนนะคะ ปกติถ้ามีช่อง 3.5 มม. อยู่แล้ว มักจะแนะนำให้ใช้หูฟัง 3.5 มม. มากกว่าค่ะ
  • Q: ถ้าหูฟัง Type C ใช้ไม่ได้ ควรทำยังไงเป็นอันดับแรกคะ?
    A: ลองเช็คเบื้องต้นก่อนเลยค่ะว่าเสียบแน่นดีแล้วหรือยัง ลองถอดแล้วเสียบใหม่ หรือลองเสียบกับอุปกรณ์อื่นดูว่าใช้งานได้ไหม ทำความสะอาดพอร์ต Type C บนมือถือและหัวหูฟังเบาๆ เผื่อมีฝุ่นหรือสิ่งสกปรกอุดตัน บางทีการรีสตาร์ทมือถือก็ช่วยแก้ปัญหาได้ค่ะ ถ้าลองทุกอย่างแล้วยังใช้ไม่ได้ อาจจะต้องติดต่อร้านที่ซื้อมาเพื่อตรวจสอบหรือเคลมค่ะ
  • Q: หูฟัง Type C มีข้อจำกัดอะไรบ้างคะ?
    A: ข้อจำกัดหลักๆ คือขณะใช้งานหูฟัง Type C อยู่ คุณจะไม่สามารถใช้พอร์ต Type C สำหรับชาร์จแบตเตอรี่มือถือไปพร้อมๆ กันได้ (เว้นแต่จะมีอุปกรณ์เสริมพิเศษ) นอกจากนี้ ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์บางรุ่นอาจยังมีปัญหาอยู่บ้าง และตัวเลือกหูฟัง Type C ในตลาดอาจจะยังไม่หลากหลายเท่าหูฟัง 3.5 มม. หรือหูฟังบลูทูธค่ะ

วิดีโอที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุดดูเพิ่มเติม

สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ เกมเมอร์ชาวไทย! วันนี้มาเจอกับผมในฐานะกูรูนักช้อปออนไลน์เจ้าเก่า ที่จะมาเจาะลึกเรื่องอุปกรณ์คู่ใจของชาวเรา นั่นก็คือ "หูฟังเกมมิ่ง" นั่นเอง! สำหรับใครที่งบน่ารักๆ ไม่เกิน 1,000 บาท แต่อยากได้หูฟังเสียงชัด แยกทิศ
10 หูฟังเกมมิ่ง ราคาไม่เกิน 1000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงชัด แยกทิศทางแม่น
สวัสดีครับพี่น้องชาวนักช้อปออนไลน์ทุกท่าน! วันนี้ผมผู้เชี่ยวชาญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ตัวยงของเมืองไทย ขอพาทุกคนดำดิ่งสู่โลกแห่งเสียงเพลงแบบสบายกระเป๋า กับหัวข้อที่ว่าด้วย "10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ช
10 หูฟัง ราคาไม่เกิน 2000 ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เสียงดีเกินราคา ฟังก์ชันครบ
สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยหัวใจไอที! วันนี้ผมบอสใหญ่แห่งวงการช้อปปิ้งออนไลน์ จะมาป้ายยา เอ้ย! มาแนะนำของดีที่ต้องมีบนโต๊ะคอม นั่นก็คือ "จอคอม Samsung" นั่นเองครับ! บอกเลยว่าปี 2025 นี้ Samsung เค้าไม่ได้มาเล่นๆ นะครับ จัดเต็มทั้งนวัตกรรมล้ำๆ ส
10 จอคอม Samsung รุ่นไหนดี ปี 2025 นวัตกรรมจอภาพ สีสวยสดใส